ชุมพล
ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ 

SEED by HYM ORIGINALS
เครื่องเล่นแผ่นเสียงชนิด All in one 

ผมเคยแนะนำผู้ที่อยากเริ่มต้นเล่นแผ่นเสียงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวว่าให้มองเครื่องที่ทำแยกต่างหากจากโฟโนสเตจ ราคาตัวละ สองหมื่นกว่าซึ่งมาพร้อมกับหัวเข็มชนิด MM อยู่มาวันหนึ่งก็ได้รับ “ของเล่น” เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงพร้อมภาคขยายเสียงและ ลำโพงในตัว ยี่ห้อ SEED by HYM Originals ซึ่งนอกจากเล่นแผ่นเสียงแล้ว มันยังมีช่องเสียบ SD Card และ USB Flash Drive รวมทั้งรองรับการฟังเพลงผ่านระบบบลูทูธอีกด้วย ไดรเวอร์ที่ให้มาก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ เพราะตัววูฟเฟอร์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว วัสดุที่ใช้ทำกรวยลำโพงคือ เคฟลาร์ ส่วนทวีตเตอร์เป็นซอฟต์โดมขนาด 1 นิ้ว แยกซ้ายขวาเท่ากับมีดอกลำโพง 4 ดอก เพาเวอร์แอมป์ Class D กำลังขับ 25 วัตต์ต่อข้าง ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล หรือผ่านทางแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนก็ได้ 

ที่ผมชอบมากคือ ระบบการเล่นแผ่นเสียง แบบ Belt Drive เล่นได้ทั้งสปีด 33 ½ RPM และ 45 ½ RPM การจัดการกับการสั่นสะเทือนใช้สปริงรองรับ 3 จุด แบบ Linn LP 12 เลย!!! ซึ่งเราท่านไม่ค่อยจะเจอแบบนี้ในเครื่องเล่นแผ่นเสียงประเภท All-In-One ยี่ห้ออื่นๆ และถ้าหากคุณไม่พอใจในภาคขยายหรือลำโพงในตัวมันแล้ว ก็ยังมีภาค Line out ที่นำสัญญาณอะนาล็อกไปต่อกับเพาเวอร์แอมป์และลำโพงภายนอกได้ แต่เท่าที่ลองเล่นตัวมันเดี่ยวๆ พบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้วครับ

รูปร่างหน้าตาของ SEED/HYM Originals จัดว่าสวยงาม มีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา แค่วางไว้เฉยๆ ก็ดูดีแล้ว การแกะกล่องนำอุปกรณ์มาประกอบจัดว่าง่ายมาก เพียงถอดน็อตล็อกสปริง แล้วนำแพลตเตอร์ไปวางคล้องสายพาน ตั้งน้ำหนักกดหัวเข็ม จบครับ มันไม่มี Anti-skating และ VTA มาให้ตั้ง ดังนั้น คุณก็ไม่ต้องไปตั้งมันให้เมื่อยตุ้ม สิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดเล็กน้อยในการใช้งานเจ้าของเล่นตัวนี้คือ ในกล่องไม่ยักกะใส่คู่มือการใช้งานมาให้ด้วย ทำให้ชายกลาง (คน) แบบผมต้องคลำทางเอาจากอินเทอร์เน็ต แต่พอได้ยินเสียงเข้าก็ชื่นใจหายหงุดหงิดครับ

อุปกรณ์ที่ให้มามีสายไฟและกล่องแปลงไฟดีซีมาให้ ผมเลยใช้สายแถมนั่นแหละ ไม่กล้าเปลี่ยนสายไฟให้คุณภาพสูงขึ้น ด้วยความที่กลัวใจตัวเองจะพาลไม่ยอมส่งเครื่องคืนกลับจากทดสอบเสร็จ เพราะเอาแค่ตัวมันเองเพียวๆ ก็ให้คุณภาพเสียงที่น่าพอใจอย่างสมเหตุสมผลกับราคาแล้ว ย้ำอีกทีครับว่า นี่คือเครื่องเล่นแผ่นเสียงระบบสปริง/เบลไดรฟ์ + โฟโน + ภาคขยาย + ลำโพงสองทางซ้าย/ขวา + บลูทูธ + DAC มี Line out ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล หรือแอพพลิเคชันบนมือถือหรือแท็บเล็ต และรูปร่างหน้าตาสวยงามเหมือนเฟอร์นิเจอร์ที่มาจากสแกนดิเนเวีย ราคาค่าตัว 3 หมื่นบาท มีทอน… ใจผมน่ะอยากเอาไปใช้ในคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดชะมัดเลย หรือไม่ก็เอาไว้ในออฟฟิศคงจะฟินไม่ใช่น้อย ข้อแนะนำคือ ควรวางมันบนโต๊ะที่สูงจากพื้นอย่างน้อย 20 นิ้ว เพื่อให้เสียงแหลมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับหู ผมลองวางบนชั้นแล้วฟังเสียง ปรากฏว่ารับไม่ได้เลยครับ แต่พอวางบนโต๊ะสูง 23 นิ้ว เสียงมาอีกเพียบเลย ฟังแล้วมีตื้นลึก เสียงแหลมดีขึ้นบานตะไทครับพี่น้อง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีชั้นวางคุณภาพสูงอยู่แล้ว การนำมาใช้งานร่วมกับ SEED/HYM Originals จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นได้อีกมาก

ผมเริ่มทำการฟังทดสอบด้วยแผ่นเสียง 12” หลายแผ่นหลากแนวเพลง ทั้ง Pop, Classic, Jazz, เพลงไทย, เพลงจีน และได้ลองเล่นแผ่นสปีด 45 ด้วยครับ คุณภาพเสียงดีกว่าที่คิด ลำโพงเล็กๆ แค่ 4 นิ้ว ปั๊มเสียงออกมาได้ดีกว่าลำโพงบลูทูธที่มีขายกันในท้องตลาด ไม่ได้เน้นเบสให้ใหญ่โตมโหฬาร แต่เป็นบุคลิกเสียงที่อิ่มสะอาด มีรายละเอียด และเนื้อมวลที่น่าพอใจ

ประสิทธิภาพของหัวเข็มและและโทนอาร์มทำงานได้ไม่มีปัญหา ไม่พบว่ามีการตกร่องหรือกระโดดข้ามร่อง ผมตั้งน้ำหนักหัวเข็มไว้ที่ 2 กรัมเป๊ะ ฟังเพลง Three Cornered Hat ผ่านเฉยเลย เสียงไม่ป๋องแป๋งอย่างที่คิด และไม่แพ้เครื่องเล่นแผ่นเสียงในระดับเริ่มต้นหลายๆ ยี่ห้อด้วย!!! อันนี้เซอร์ไพรส์ครับ ผมถามตัวเองว่าจะเอามาตรฐานอะไรมาวัดมันดี สำหรับการทดสอบอุปกรณ์ในลักษณะนี้ เพราะถ้าจะเทียบกับของแพงๆ ระดับหกหลัก (ราคา) แล้ว อาจจะไม่เป็นธรรม เพราะการออกแบบและผลิตมาขายคงจะเอาใจคนที่ต้องการความสะดวก แต่ก็อยากได้คุณภาพเสียงที่ดีด้วย ผมเลยคิดว่าน่าจะเทียบกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับ 2 หมื่นบาท เห็นท่าจะพอฟัดพอเหวี่ยง ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเกินไป ตามสมมติฐานนี้ เครื่อง SEED ดูจะฉายแสงขึ้นมาทีเดียวเชียวล่ะ เพราะในบรรดาเครื่องเล่นแผ่นเสียง All-In-One ที่มีภาคขยายพร้อมลำโพงในตัวหลายสิบยี่ห้อที่ขายกันอยู่ในเมืองไทยขณะนี้ ผมให้ SEED/HYM Originals เสียงดีที่สุด และอาจขึ้นไปเทียบชั้นเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับเริ่มต้นที่เสียบโฟโนคุณภาพหน่อมแน้มได้แบบไม่แพ้ด้วยซ้ำไป

ผมลองฟังแผ่นเสียงประเภทที่ขุดขึ้นมาจากกรุ อย่างพวก Blue Note ปีลึกๆ… คุณพระช่วยกล้วยทอด… เสียงรบกวนที่น่ารำคาญหู มันได้ยินออกมาน้อยมาก จะว่าเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี ผมชักสงสัย เพราะกับไอ้แผ่นเดียวกันนี้ เวลาเล่นผ่านเครื่องเล่นแผ่นเสียงส่วนตัวติดหัวเข็ม MC แล้ว เสียงกร๊องแกร๊ง เปาะแปะ ช่างรบกวนโสตประสาทชะมัดยาดเลยครับ พวกเพลงร้องช้าๆ ก็ฟังดีครับ หวานใส ไพเราะ จังหวะจะโคนดี ไม่มีพลาด เล่นแผ่นสปีด 45 ได้คุณภาพเสียงเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ผมลองเอา Strobe วัดรอบมามาลองจับดู ปรากฏว่าเครื่องหมุนรอบได้คงที่ เป็นปกติ ไม่มีอาการหมุนช้าหรือหมุนเร็วเกินไป การป้องกันการสั่นสะเทือนของตัวเครื่องที่ใช้สปริงรองรับสามจุด (สองจุดบริเวณแพลตเตอร์ และอีก 1 จุดที่อาร์มบอร์ด) ถือว่าเป็นจุดเด่นและช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด หรือโดดข้ามร่องเวลาที่มีคนเดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปใกล้บริเวณเครื่อง ประเด็นนี้เครื่องเล่นแผ่นเสียง All-In-One ธรรมดาทั่วไปทำไม่ได้แน่นอนครับ

ช่องต่ออินพุตให้มาครบครัน

คุณสมบัติเกี่ยวกับดุลน้ำเสียง แน่นอนว่ามาทางเสียงกลาง แล้วยืดออกไปทางแหลมและทุ้ม บุคลิกเสียงโดยรวมฟังง่าย สบายหู ไม่เน้นไดนามิก หรืออิมแพ็คเท่าใด ในส่วนของภาคขยายและลำโพงทำงานสัมพันธ์สอดคล้องกันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เปิดเสียงที่ระดับดังมากก็ยังไม่เสียดแทงระคายแก้วหูแต่ประการใด ผมลองสลับแผ่นเสียงสังกัด Phase 4 ผลงานเพลงของ Edmundo Ros ที่เน้นเพอร์คัสชันและเครื่องลมทองเหลือง แผ่นนี้อัดมาสัญญาณแรง ฟังในชุดใหญ่จะรับรู้ว่าเป็นแผ่นที่เสียงจัด พอเอามาเล่นในเครื่อง SEED กลับกลายเป็นว่า ฟังดีไปซะงั้น ผมจึงทยอยเอาแผ่นเสียงเพลงประเภทที่เน้นเครื่องดนตรี เพอร์คัสชั่น สลับด้วยเพลงบรรเลงจังหวะค่อนข้างเร็วมาเปิดฟังทดสอบ… ปรากฏว่าฟังดีกว่าเพลงช้าหวานๆ เสียอีกครับ

ลองมาเล่นฟังก์ชั่น Bluetooth ของเขาดูบ้าง ผมเปิดเพลงที่โหลดเก็บไว้ในโทรศัพท์ไอโฟน ส่งผ่านบลูทูธไปขยายและออกจากลำโพงของ SEED ได้ยินเสียงที่คล้ายกับลำโพงบลูทูธคุณภาพดีๆ ตัวหนึ่งเลยครับ เสียงกลมกล่อม จูนมามีเสียงกลางต่ำหล่อเลี้ยง ทำให้ไม่รู้สึกว่าขาดน้ำหนัก เสียงแหลมตอนต้นชัดมีรายละเอียด แต่ไม่ถึงกับจัดกร้าว ส่วนเสียงเบสมีมาให้พอตัว โดยที่ไม่ถึงกับเป็นเบสที่เบ่งออกมาจนพองแต่กลวงโบ๋ขาดมวลอะไรแบบนั้น ผมว่าคนจูนเสียงเขาปรับแต่งเสียงออกมาได้ค่าเฉลี่ยที่ดี กล่าวคือมันมีมาให้ครบเลยครับ เพียงแต่ไปไม่สุดซอยเหมือนกับเล่นเครื่องเสียงแยกชิ้นเท่านั้นเอง

ผมไม่ได้ทดสอบคุณภาพเสียงที่มาจาก SD Card ได้ลองแต่ Flash Drive ที่พรรคพวกโหลดไฟล์เพลงใส่มาให้เป็นนามสกุล .WAV เสียงที่ได้ยินยังเทียบไม่ได้กับ DAP หรือ Music Streaming ราคาแพงๆ หากแต่มันทำงานได้เป็นปกติ และจำแนกแจกแจงรายละเอียดบุคลิกของต้นทางที่บันทึกเสียงมาได้ ไม่ใช่ว่าเล่นเพลงในอัลบั้มไหนๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนกันไปหมด ซึ่งนี่เป็นคุณสมบัติของเครื่องเสียงที่ดี 

สรุป 

SEED by HYM Originals เป็นเครื่องเล่นอเนกประสงค์สมัยใหม่ที่รูปร่างหน้าตาดูมีคลาส แถมระบบป้องกันการสั่นสะเทือน คุณภาพภาคขยาย และลำโพงที่ดีเกินเครื่องประเภทเดียวกันนี้ ราคาค่าตัวไม่ถูกไม่แพง เมื่อเทียบกับคุณภาพ เหมาะมากกับชาวอินดี้หรือออดิโอไฟล์ที่ชอบของเล่นครับ. ADP

ราคา 29,900 บาท
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Karp Audio
โทร. 0-2056-7852, 080-080-4858

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 257