นพ. สิปปนนท์ สามไชย 

ในที่สุดพวกเราได้มาถึงยุคที่หูฟังทรูไวร์เลสแข่งขันกันอย่างดุเดือดเต็มท้องตลาด แบรนด์ดังหลายแบรนด์เข็นทรูไวร์เลสรุ่นแรกๆ ของตัวเองออกสู่สังเวียนให้ขวักไขว่ มีข้อเด่นข้อดีให้เปรียบเทียบเลือกกันมากมาย ขนาดที่เล็กลง การเชื่อมต่อที่เสถียรขึ้น รวมถึงอายุแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ได้รับผลประโยชน์เต็มๆ ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือผู้บริโภคนั่นเอง

อีกแบรนด์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษที่เพิ่งเข้าร่วมสังเวียนนี้คือ Cambridge Audio ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 60 หลายๆ ท่านคุ้นเคยชื่อนี้จาก DACMagic ซึ่งเป็น digital-to-analog converter ที่ถูกกล่าวขานและสร้างชื่อให้กับแบรนด์มากที่สุดตัวหนึ่งช่วง 10 ปีก่อน ด้วยคุณภาพเสียงที่ดี ขนาดกะทัดรัด และราคาเข้าถึงได้ มาถึงวันนี้ทาง Cambridge Audio ได้ปล่อยหูฟังทรูไวร์เลสรุ่นแรกของแบรนด์ นั่นคือ Melomania 1 คำนี้มีรากศัพท์จาก melody และ mania ความหมายตรงตัวคือ “คลั่งไคล้เสียงดนตรี” แต่ว่ามันจะสร้างความคลั่งไคล้ได้มากพอให้มีที่ยืนท่ามกลางสงครามหูฟังทรูไวร์เลสที่กำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้รึเปล่า?

 …มาเริ่มกันเลย!

แพ็กเกจของ Melomania 1 เป็นกล่องกระดาษแข็งแรงแน่นหนา จากภาพที่เคยเห็นผ่านทางสื่อทำให้ไม่ได้คาดหวังเรื่องดีไซน์ของสิ่งที่อยู่ด้านในเท่าไรนัก แต่พอเปิดกล่องขึ้นมาเห็นบอดี้หูฟังวางคู่กับเคสเก็บ/ชาร์จตัวจริงเท่านั้นล่ะ ต้องยอมรับกันเลยว่ายอดเยี่ยมกว่าที่คาดไว้มาก การออกแบบดูดีให้ความรู้สึกเรียบง่ายและสวยงาม ทั้งบอดี้และเคสมีขนาดเล็กแบบที่เคยหวังอยากให้หูฟังทรูไวร์เลสดีๆ สักตัวหนึ่งเป็น เคสของ Melomania 1 ขนาดไม่ใหญ่ไปกว่ากล่องไหมขัดฟันสักเท่าไหร่ หูฟังมีน้ำหนักต่อข้างอยู่ที่ 4.6 กรัม ถ้ารวมหูฟังทั้งสองข้างและเคส น้ำหนักจะอยู่ที่ราว 47.4 กรัมเท่านั้น มันจึงเบาและเล็กพอที่จะใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสบาย ตัวเคสที่ว่าเป็นพลาสติกสีดำ (ขณะนี้มีให้เลือกสองสี คือ ขาวและดำ) ข้อมูลต่างๆ รวมถึงชื่อแบรนด์ถูกปั๊มนูนอยู่ด้านหลังเคส ไม่ได้ถูกสกรีนด้วยหมึกหรือติดด้วยสติกเกอร์ ซึ่งลอกเลอะได้ง่าย หากเก็บในกระเป๋ากางเกง ด้านข้างมีช่องเสียบชาร์จแบบ Micro USB (ไม่ใช่ USB Type-C อย่างที่หวังไว้) และแสดงระดับไฟผ่านจุด LED สีขาวด้านหน้า 5 ระดับ ซึ่งจะสว่างขึ้นแจ้งระดับแบตเตอรี่เมื่อเปิดฝาเคส และกะพริบแจ้งเตือนระดับไฟที่พร่องไปเมื่อเสียบชาร์จ ฝาพับแน่นหนามั่นคงและถูกดึงให้แนบเข้าไว้กับเคสด้วยแม่เหล็ก ให้ความรู้สึกแน่นหนา พรีเมียมเป็นอย่างยิ่ง 

ตัวบอดี้หูฟังเป็นพลาสติกผิวด้านทรงกระบอกขนาดเล็กราวนิ้วก้อยข้อสุดท้าย (27 x 15 มิลลิเมตร) แต่หยิบจับได้ถนัด ด้านข้างมีรูขนาดเล็กฝั่งละช่องเพื่อรับเสียงพูดแยกออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง รูปร่างทั้งสองข้างซ้าย-ขวาเหมือนกันทุกอย่าง ยกเว้นตัวหนังสือ R และ L สีขาวขนาดเล็กที่พิมพ์ไว้ด้านข้าง ซึ่งในทางปฏิบัติไม่เคยต้องเหลือบดูตัวหนังสือด้วยซ้ำเนื่องจากหยิบใช้งานหูฟังทีละข้าง และเก็บใส่เคสทีละข้างในตำแหน่งเดิม หูฟังถูกดึงให้กระชับสนิทกับเคสด้วยแม่เหล็ก ตอนเก็บมีเสียง “แกร๊ก” ช่วยคอนเฟิร์ม รอบข้างมีพื้นที่ว่างมากพอให้ทั้งสองนิ้วหยิบบอดี้หูฟังออกมาได้อย่างสะดวกเมื่อต้องการนำออกมาใช้งาน ซึ่งนับเป็นข้อดีที่แตกต่างจากหูฟังทรูไวร์เลสแบรนด์อื่นที่สำคัญ เนื่องจากหูฟังทรูไวร์เลสมักถูกหยิบนำออกมาใช้งานช่วงที่อยู่นอกห้อง หรือกำลังเดินทาง เช่น ในรถไฟฟ้า ทางเท้าริมถนน หรือในลิฟต์ ซึ่งหากพลั้งหลุดมือทำตกหล่นมีอันต้องลุ้นว่าจะกลิ้งหายหรือเปล่า ตัวบอดี้หูฟังกันน้ำได้ระดับ IPX5 นั่นหมายถึงว่ามันยังคงปลอดภัยหากใช้งานท่ามกลางสายฝน ทนเหงื่อจากการออกกำลังกาย แต่ห้ามลองฉีดน้ำใส่หรือนำไปแช่น้ำเป็นอันขาด

ด้านหนึ่งของหูฟังเป็นปุ่มกดที่ผิวนูนต่ำลงเป็นรูปโลโก้แบรนด์ใช้เพื่อควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ซึ่งช่องไมโครโฟนอยู่ริมขอบด้านนี้ (และอีกฝั่งด้านตรงข้าม) แนะนำให้หมุนปรับไว้ด้านหน้า ซึ่งอาจช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงพูดให้ชัดเจนขึ้น ปุ่มกดไม่ใช่แบบสัมผัสจึงมีข้อดีคือ ไม่เผลอสัมผัสสั่งงานช่วงกำลังหยิบจับอย่างแน่นอน กดง่ายใช้แรงเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยความที่หูฟังมีขนาดเล็กและสวมใส่โดยการดันเข้าช่องหูเบาๆ และวางพักไว้ในใบหู การที่ต้องกดปุ่มลงไป ถึงแม้จะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วกลางช่วยประคองตัวบอดี้ไว้ก็ตาม สุดท้ายยังคงต้องจัดวางหูฟังใหม่ทุกครั้งเพื่อรักษาสมดุลเสียงของทั้งสองข้าง การเพิ่มและลดระดับเสียงทำได้โดยกดปุ่มค้างแต่ละฝั่ง แต่การกะระยะเวลากดไม่ง่ายนัก และมักลงเอยที่เพลงหยุดเล่น (คือกดค้างสั้นไป ทำให้ตัวหูฟังเข้าใจว่าสั่งหยุดเล่น) มีไฟเรืองแสงสีขาวอมม่วงรอบปุ่มกดแจ้งสถานะชาร์จ และจะดับไปเมื่อชาร์จเต็มหรือกำลังเล่นเพลง ส่วนปลายอีกด้านของหูฟังเป็นจุกซิลิโคนสีดำในแพ็กเกจมีแนบมาให้อีกสามขนาด พร้อมกับเมมโมรี่โฟมอีกหนึ่งชุด การใส่ถอดจุกซิลิโคนทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่แน่นเกินไปและไม่หลวมจนจุกซิลิโคนหลุดค้างในหู เมมโมรี่โฟมให้บุคลิกเสียงที่ต่างออกไป กันเสียงรบกวนได้ดี แต่ทำความสะอาดยากกว่า

ทาง Cambridge Audio ชาร์จแบตเตอรี่หูฟังและเคสให้แล้วจากโรงงานระดับหนึ่ง แต่ในคู่มือยังคงแนะนำให้ชาร์จก่อนใช้งานอีกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เรียบร้อยแล้วจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง android และ iOS ผ่านทางเมนูเชื่อมต่อบลูทูธ 5.0 และสามารถจดจำเครื่องที่จับคู่ไว้ได้ถึง 7 เครื่อง กับ codec คุณภาพสูงสุดที่ aptX สำหรับ android และ AAC สำหรับ iOS ข้อมูลจากคู่มือแจ้งว่าสามารถใช้งานหูฟังต่อเนื่องได้ถึง 9 ชั่วโมงก่อนต้องนำกลับไปชาร์จในเคสอีกครั้ง! ส่วนเคสสามารถเก็บไฟไว้ชาร์จได้อีกรวมเป็นระยะเวลาใช้งานทั้งหมดถึง 45 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าไอคอนแสดงสัญลักษณ์เชื่อมต่อหูฟังบน android ไม่ได้แสดงระดับแบตเตอรี่ไว้ แต่ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ขนาดนี้ทำให้มองข้ามจุดนี้ไปได้เลย 

หลังจากใส่หูฟังลงเคสชาร์จแล้วหยิบออกมาอีกครั้ง เสียงต้อนรับ “Melomania connected, bluetooth connected” จะดังขึ้นเป็นการแจ้งยืนยันว่าหูฟังตัวนี้พร้อมใช้งานแล้ว ข้อสังเกตคือ Melomania 1 ไม่มีแอพพลิเคชันใดๆ ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน หรือปรับแต่งปุ่มกดให้ควบคุมอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ android การปรับโทนเสียงให้เป็นแบบที่ชื่นชอบจึงต้องอาศัยแอพพลิเคชันอื่นเพิ่มเติมเท่านั้น

แม้การใส่หูฟังตัวนี้ทำได้ง่ายเพียงแค่ดันด้านจุกซิลิโคนเข้าช่องหูเบาๆ แต่การที่จะให้กระชับ พอดี ไม่อึดอัด ไม่หลวมจนเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้ามา รวมถึงการปรับให้หูฟังอยู่ในแนวระดับที่ใกล้เคียงกันทั้งสองข้างเพื่อบาลานซ์วอลลุ่ม/คุณภาพเสียง เป็นอะไรที่ต้องฝึกฝนเล็กน้อย แนะนำให้เลือกขนาดของจุกให้เหมาะสม และวางบอดี้หูฟังลงบริเวณ Cavum concha (1) ให้แกนหูฟังชี้ไปด้านหน้าเยื้องขึ้นบนเล็กน้อย โดยมี Antitragus (2) ประคองไว้ด้านขอบปุ่มกด และด้วยเหตุนี้เองทำให้หากต้องใช้งาน Melomania 1 ต่อเนื่องเกินสองสามชั่วโมงอาจทำให้เริ่มรู้สึกตึงบริเวณ Antitragus เล็กน้อย การขยับจัดหูฟังใหม่อีกครั้งสามารถช่วยได้   สำหรับเรื่องความแน่นหนานั้น หากสวมใส่อย่างถูกต้อง หูฟังจะไม่เลื่อนหลุดจากตำแหน่ง ถึงแม้จะวิ่ง ก้มเงยหน้า หรือสะบัดหัวก็ตาม ถ้าต้องการนำหูฟังตัวนี้ไปออกกำลังกายด้วยล่ะก็ สบายใจได้

Melomania 1 สามารถลดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี โดยไม่ต้องอาศัยดีไซน์ล้ำยุคอะไร ใช้การป้องกันเสียงรบกวนแบบ Passive Noise Cancelling คืออาศัยจุกซิลิโคนแนบไว้กับช่องหูเพื่อลดเสียงรบกวน ต่างจากทาง Sony และ Bose ที่ใช้เทคโนโลยี Active Noise Cancelling (ANC) ซึ่งหากสวมใส่ใช้งานอย่างถูกต้องแล้ว ระดับการลดเสียงรบกวนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ด้วยข้อดีของ ANC คือไม่จำเป็นต้องใส่หูฟังให้แน่นเท่า ก็สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีแล้ว นั่นทำให้เสียงที่เกิดขึ้นจากร่างกาย เช่น เสียงกลืนน้ำลาย เสียงหายใจ เสียงเท้าที่ย่ำลงบนพื้นนั้น ไม่ดังจนรบกวนการฟังเพลงสักเท่าไรนัก แต่ข้อดีเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้นกว่า ขนาดที่ใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า และราคาที่สูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Melomania 1 ตัวนี้ โดยคุณภาพเสียงดนตรีคงเดิม

เอาล่ะ ถึงเวลาฟังเสียงกันแล้ว

เมื่อลองเล่นเพลงที่คุ้นเคยจาก Tidal (HI-FI และ Master) โทนเสียงโดยรวมของดนตรีนับว่าดีเกินราคา ถึงแม้ย่านเสียงกลางจะถอยไปอยู่ด้านหลังเล็กน้อย ซึ่งนั่นทำให้ระดับปริมาณเสียงย่านต่ำและสูงล้ำหน้าไปบ้าง แต่หลังจากใช้เวลาฟังสักระยะ ตัวไดรเวอร์เองก็ให้น้ำเสียงลงตัวขึ้น จึงสามารถทำความคุ้นเคยกับบุคลิกเสียงที่ออกมาได้ไม่ยาก การใช้งานจริงในที่ที่มีเสียงรบกวน ลักษณะสมดุลเสียงแบบนี้ล่ะที่จะทำให้โทนดนตรีโดยรวมออกมาน่ารับฟังกว่าการจูนเสียงแบบ flat ซึ่งเหมาะสำหรับการนั่งฟังแบบเน้นคุณภาพในที่ที่มีเสียงรบกวนไม่มากนัก คุณภาพย่านเสียงต่ำทำได้ไม่เลว แม้เสียงเบสจะไม่กระชับระดับออดิโอไฟล์ แต่ไม่บวม อิมแพ็คดี ย่านเสียงสูงนับเป็นจุดเด่น ที่มีความสดใส ละเอียด ไม่จัดแม้แตน้อย ส่วนความถี่ย่านเสียงกลางอิ่ม เนื้อเสียงเน้นไปทางละเมียดนุ่มนวล นอกเหนือจากการเชื่อมต่อด้วย aptX codec (เฉพาะ android) คงต้องยกความดีให้กับคุณภาพของ graphene driver ขนาด 5.8 มิลลิเมตรที่ทำให้คุณภาพโดยเฉพาะย่านเสียงสูงโดดเด่นแบบนี้

G… graphene driver อะไรนะ?

นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ graphene มานานแล้ว แต่เพิ่งนำมาใช้จริงจังเมื่อราวสิบปีที่ผ่านมานี้เอง graphene เป็นชั้นคาร์บอนบางๆ ซึ่งอะตอมยึดติดกันเป็นรูปรวงผึ้ง มีความบาง เบา และมีความแข็งแรงสูง อีกทั้งยังเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี ได้มีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลายชนิด ตั้งแต่เครื่องกีฬา ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับ Melomania 1 graphene ถูกใช้เป็นเมมเบรนซึ่งเป็นส่วนที่สั่นเพื่อสร้างความถี่เสียง เนื่องจาก graphene มีความหนาแน่นต่ำจึงสามารถสร้างความถี่เสียงได้กว้าง ครอบคลุมการได้ยินทั้งหมดของมนุษย์ (20Hz – 20kHz) และสามารถเร่งให้เสียงดังขึ้นโดยคงความเพี้ยนต่ำคุณภาพเบสไม่พร่าเบลอ แหลมไม่จัดจ้านตามการเร่งวอลลุ่มแต่อย่างใด คุณสมบัติเหล่านี้จึงเป็นสิ่งการันตีคุณภาพเสียง และถือเป็นหัวใจหลักของ Melomania 1 เลยทีเดียว

ต่อไปคือเรื่องคุณภาพเสียงเมื่อพูดคุยผ่านสมาร์ทโฟน แม้ขนาดบอดี้หูฟังที่เล็กและช่องไมโครโฟนอยู่ห่างจากปากไปมาก แต่มันกลับให้คุณภาพเสียงและการพูดคุยเทียบเท่าหูฟังทรูไวร์เลสรุ่นอื่นได้อย่างไม่เคอะเขิน คู่สนทนาได้ยินชัดเจน หากเสียงรบกวนรอบข้างไม่มากเกินไปนัก เสียงคู่สนทนาดังออกจากหูฟังทั้งสองข้าง หรือหากต้องการสนทนาโดยใช้หูฟังเพียงข้างใดข้างหนึ่งก็สามารถทำได้ เพียงแต่หากเก็บหูฟังด้านใดด้านหนึ่งลงเคสขณะกำลังสนทนาอยู่ บางครั้งอาจมีเสียงแจ้งเตือนตัดและเชื่อมต่อบลูทูธใหม่ทันทีให้สะดุดเล็กน้อย (ขึ้นกับว่านำหูฟังข้างไหนออกมาก่อน และเก็บหูฟังข้างไหน) ถ้าหากต้องการพูดคุยโดยให้ได้ยินเสียงจากหูฟังทั้งสองข้างและได้ยินเสียงตัวเองจากภายนอกด้วยเพื่อไม่ส่งเสียงพูดดังเกินไปในที่สาธารณะ ก็แค่ขยับหูฟังข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างให้หลวมขึ้นเล็กน้อย ส่วนฟังก์ชันรับสาย เมื่อมีสายเรียกเข้า เพลงที่เล่นอยู่จะหยุด และมีเสียงสัญญาณเตือนสั้นๆ หนึ่งรอบ สามารถกดปุ่มบนหูฟังข้างใดก็ได้หนึ่งครั้งเป็นการรับสาย ส่วนการกดค้างไว้สั้นๆ เป็นการวางหู สำหรับสายเข้าทาง Messenger จะไม่สามารถรับสายโดยการกดปุ่มบนหูฟังได้ เพราะจะเป็นการสั่งให้เล่นเพลงต่อจากเดิมที่พักไว้ ส่วนสายเรียกเข้าจาก Line นั้นมีเสียงริงโทนตามที่เซ็ตไว้ดังขึ้นทางหูฟัง สามารถรับสายได้โดยการกดปุ่มบนหูฟังหนึ่งครั้ง แต่ไม่สามารถวางสายได้ ต้องสั่งงานผ่านหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้น ซึ่งเป็นปัญหาของสองแอพพลิเคชันนี้กับหูฟังทรูไวร์เลสหลายรุ่น

การสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google assistance ทำได้เฉพาะเมื่อไม่ได้เล่นเพลงหรือกำลังโทรศัพท์อยู่ โดยกดปุ่มสองครั้งที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งติดต่อกันเพื่อพูดสั่งงาน สั่งให้โทรศัพท์ถึงเพื่อนในรายชื่อ ถามคำถามง่ายๆ ตั้งให้เตือนได้เหมือนสั่งผ่านโทรศัพท์โดยตรง แต่ไม่สามารถให้อ่านข้อความและพูดเพื่อตอบข้อความที่เพิ่งรับได้ ไม่สะดวกเท่าหูฟังทรูไวร์เลสที่ออกแบบให้สนับสนุน Google assistance เต็มรูปแบบโดยตรง ส่วนการสั่งงานบน iOS ผ่าน Siri นั้นด้อยกว่าและอาจใช้งานจริงจังได้ลำบากเล็กน้อย เนื่องจากต้องเปิดหน้าจอโทรศัพท์ไว้ก่อนที่จะกดปุ่มสองครั้งบนหูฟัง ซึ่งหากโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าหรือไม่สะดวกที่จะหยิบจับโทรศัพท์ช่วงนั้นจะไม่สามารถสั่งงานผ่าน Siri ได้

ถึงจุดสำคัญ… คุณภาพการเชื่อมต่อ

หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดของหูฟังทรูไวร์เลสคือ เรื่องการเชื่อมต่อ เพราะจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหากใช้งานจริงแล้วสัญญาณขาดหายขนาดใช้งานไม่ได้ Melomania 1 ตัวนี้คุณภาพการเชื่อมต่อดี การใช้งานภายในอาคารไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้าบริเวณที่มีสัญญาณรบกวนไม่มาก ส่วนการนำออกไปใช้ภายนอกอาคารโดยรวมถือว่าสอบผ่าน ออกเดินริมถนน ผ่านตลาด รถไฟฟ้า ทางเดินระหว่างอาคาร ไม่มีอุปสรรคการเชื่อมต่อจนรบกวนการใช้งาน มียกเว้นบ้างหากพื้นที่โล่งและมีอะไรขวางระหว่างหูฟังกับสมาร์ทโฟนในบางท่าทาง เช่น ใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังซ้ายพอดีกับหันหน้าทางขวาตอนเดินข้ามสี่แยกโล่งๆ อาจมีสัญญาณหูด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองข้างพร่าจนถึงขาดหายช่วงสั้นๆ ให้สังเกตได้ ที่พบปัญหาอยู่ก็คือ หากนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณรบกวนมาก เช่น ในห้างสรรพสินค้าบริเวณที่มีสัญญาณรบกวนมาก เสียงเพลงอาจขาดหายเป็นพักๆ แต่ทั้งหมดนี้แก้ไขได้ด้วยการใส่หรือถือสมาร์ทโฟนไว้ที่ระดับกระเป๋าเสื้อ ต้องยอมรับว่าคุณภาพการเชื่อมต่อไม่ได้แข็งแรงขนาดเทียบเท่ารุ่นพี่ได้ แต่ยังคงสามารถนำไปใช้งานในพื้นที่ส่วนมากได้อย่างไม่ต้องกังวล

สรุป

คุณสมบัติโดดเด่นของ Melomania 1 จาก Cambridge Audio ตัวนี้คือ บอดี้หูฟังขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เคสชาร์จ/เก็บหูฟังออกแบบได้ดีมาก สวยงามแน่นหนาทั้งยังพกพาสะดวก เอาใจใส่กับคุณภาพการผลิต คุณภาพเสียงดีเยี่ยม โดยเฉพาะย่านความถี่สูงให้เนื้อเสียงละเอียดสดใสแต่ไม่จัดจ้าน แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานและแทบไม่มีโอกาสเลยที่จะใช้งานตามปกติจนแบตเตอรี่หมดได้ ส่วน IPX5 นั้นช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าสามารถนำมันไปออกกำลังกายหรือผ่านสงกรานต์แบบปกติได้อย่างไม่ต้องกังวล 

ส่วนจุดที่หากปรับปรุงแล้วน่าจะทำให้หูฟังตัวนี้ไปถึงจุดที่ไร้ที่ติก็มีอยู่บ้าง เช่น อาจจะดีไซน์ให้ขอบด้านปุ่มกดโค้งรับกับใบหูกว่านี้สักนิด เพิ่มแอพพลิเคชันเพื่อให้สามารถปรับแต่งเสียงหรือฟังก์ชันปุ่มได้สักหน่อย ปรับปรุงคุณภาพการเชื่อมต่อให้เยี่ยมกว่านี้ รูปร่างบอดี้ทรงกระบอกกลิ้งได้ง่าย รวมถึงปรับช่องชาร์จแบตเตอรี่เป็น USB Type-C 

โดยภาพรวมดูเหมือนทาง Cambridge Audio พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาสมดุลระหว่างขนาดของบอดี้หูฟัง/เคส คุณภาพเสียง คุณภาพการเชื่อมต่อ ฟังก์ชัน และระยะเวลาการใช้งานของ Melomania 1 ไว้ให้ได้ เน้นจุดประสงค์เพื่อการพกพาแบบใช้งานได้จริง เลือกตัดฟังก์ชันหยุมหยิมบางอย่าง เช่น หยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟัง ปุ่มควบคุมระบบสัมผัส และอื่นๆ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์หลักที่ตั้งไว้ในราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยาก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักเสียงดนตรีคุณภาพขนาดที่ต้องมีเพลงติดตัวไปด้วยทุกที่และไม่ต้องการให้รู้สึกว่ามันเป็นภาระในการพกพาอุปกรณ์เหล่านั้น นี่คือหูฟังทรูไวร์เลสหนึ่งในไม่กี่ตัวที่ตอบทุกโจทย์ด้วยความสมดุลได้เป็นอย่างดี 

และอย่าลืมเพิ่ม Cambridge Audio Melomania 1 ไว้ในลิสต์ที่ต้องหาโอกาสลองฟังลองใช้งานสักครั้ง. ADP

ราคา 4,990 บาท
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด 
โทร.0-2904-2120

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 272