สิ้นสุดการรอคอย 
The END GAME….

CHORD MOJO 2
Portable DAC/Headphone Amplifier

“Simply without Equal”   
…อุปกรณ์พกพา “ธรรมดา ทำไมต้องเหมือนใคร”
ครบเครื่องทันสมัยที่สุด เพื่อคนธรรมดาเช่นคุณ

JOHN FRANKS Founder, Owner & Chief designer แห่ง CHORD Electronics ค่ายผู้ผลิตเครื่องเสียงไฮเอนด์จากเกาะอังกฤษเพิ่งบินมาเปิดตัว Mojo 2 ในบ้านเราไปหมาดๆ 

หลังจาก Mojo ตัวแรกสุดปัง สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องเล่นพกพาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว รูปลักษณ์เรียบหรูที่ยังคงลุคคลาสสิกสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เจ้าเสน่ห์ เงียบขรึม เข้ม คมคาย ออกแบบได้ล้ำสมัยที่ยังไม่ล้าสมัยแม้ถึงวันนี้

John Franks ออกแบบ Portable DAC/Headphone Amp ให้ตัวเครื่องมีน้ำหนัก สัมผัสได้ถึงความโซลิด… แชสซีส์ เป็นโลหะ Aluminum aircraft grade กัดขึ้นรูป โค้งเว้าเหมาะมืออย่างประณีต ผิวสัมผัสอะโนไดซ์สีดำ Jett black finish คงความขลัง เรียบง่าย ในแบบฉบับของ CHORD นวัตกรรมออกแบบวงจรภายในโดยพ่อมดดิจิทัล Rob Watts: Consultant/Designer ใส่ทุกรายละเอียดในความก้าวล้ำของผลิตภัณฑ์ Digital Audio ของ CHORD ทุกตัว ล้ำยุคกว่าใครด้วย FPGA Based DAC เป็นเทคโนโลยีของ CHORD ที่ก้าวล้ำมานานกว่า 20 ปี ถือเป็นการปักหมุดท้าทายยากที่ใครจะตามทัน ถูกวิจัยพัฒนาต่อยอดขึ้นไปหลายเจนเนอเรชั่น จาก Hugo จนถึง Hugo 2 ราคาพอเอื้อมถึง ไต่ไปจนเรือธงพี่ DAVE จนในที่สุดก็ถ่ายทอดมาสู่ Mojo Portable DAC/Headphone Amplifier  อุปกรณ์ตัวแรกของค่ายไฮเอนด์ที่โดดลงมาเล่นกับตลาดพกพาเมื่อปี 2015 จนถึงปัจจุบันทำยอดขายทะลุ 1 แสน 5 หมื่นตัวไปแล้ว

จึงเปิดตัว Mojo 2 DAC/Headphone Amp ใน ค.ศ.นี้ ถือว่ายาวนานมากสำหรับ 7 ปีแห่งการรอคอย มั่นใจว่า Mojo 2 ต้องทำยอดขายได้มากกว่าตัวแรกด้วย  เรื่องราวเหล่านี้ติดตามชมบทสัมภาษณ์ Mr.John Franks โดยน้องจ๊ะจ๋า ได้ทางสื่อออนไลน์จาก Audiophile Videophile นะครับ

โดยที่ Mojo 2 เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นของ CHORD ทุกตัว ถูกออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ประกอบด้วยมือ ทดสอบ ตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างประณีต ได้มาตรฐานการผลิตจากฐานการผลิตของ CHORD ในเมือง KENT, .. UK. รับประกันถึงความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

MOJO 2… 1st Meet

รูปลักษณ์ภายนอกมองเผินๆ ก็ธรรมดา เหมือนจะไม่เปลี่ยน มีปุ่ม On/Off และปุ่ม +/- แต่เพิ่ม Infinity Stone เอ้ย..ปุ่มขึ้นมาอีกปุ่มนึง.. ประมาณว่าเพิ่มฟังก์ชันคีย์ขึ้นมาอีก 1 ปุ่มรวมเป็นปุ่มที่ 4 นั่นเอง และนั่นเป็นปุ่ม Menu ที่คุมใช้สั่งการ Lossless DSP ซึ่งติดตั้งมาให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้นในหลายรูปแบบของการใช้งานเคลมว่าเป็นการติดปีกให้กับ Mojo 2 Portable DAC/Headphone Ampเป็นตัวแรกของโลกกันเลยทีเดียว

… ก้าวกระโดดครั้งสำคัญในวงการไฮไฟซึ่งไม่มี Portable DAC/Headphone Amp ตัวใดให้ได้เหมือน และนี่คือผลิตภัณฑ์พกพาจิ๋วกะทัดรัดที่จะกล่าวถึง เชื่อว่าท่านผู้อ่านที่รอด้วยใจจดจ่อคงหายคิดถึง กำกระเป๋าไว้ให้มั่นเชียวนา

DAC / HEADPHONE AMPLIFIER IN ONE

Mojo 2 คือ DAC/Headphone Amp จบในตัวเดียว เป็นอุปกรณ์พกพาที่ครบเครื่องทันสมัยที่สุดของโลก เล่นเพลง Hi-Res ให้เสียงเที่ยงตรง รายละเอียดดีเยี่ยม ได้บรรยากาศดนตรีสดในระดับ Studio Class ต่างจาก DAC ตัวอื่นๆ ในตลาดทุกตัว แน่นอนว่า DAC/Amp ไม่สามารถเล่นได้ด้วยตัวเอง ต้องมีแหล่งโปรแกรมป้อนข้อมูลดิจิทัลให้มันถอดรหัสและขยายสัญญาณเสียงไปยังหูฟังหรืออินทิเกรตแอมป์

ด้วยพลังของ FPGA ซึ่ง Rob Watts พัฒนามาจนกลายเป็น Mojo 2 ซึ่งใช้ XILINX: ARTIX-7 เทคโนโลยีล่าสุดเป็นขุมพลัง เสริมเกร็ดเล็กๆ ว่าปัจจุบัน XILINX อยู่ภายใต้ร่มเงาของ AMD ยักษ์ใหญ่แห่งการ Micro Electronics เป็นที่เรียบร้อย

รับประกันถึงความก้าวล้ำ ความแรง แม่นยำในระดับเอกอุ ยกระดับความสามารถให้ DAC/Ampปรับโทนเสียงด้วยวงจรUHD DSP หรือ UltraHD Lossless  DSP(Digital Audio Processing) อย่างสมบูรณ์แบบปราศจากความผิดเพี้ยนจะช่วยให้คุณปรับแต่งEQ ในสไตล์ของคุณได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนและ CrossFeedให้เข้ากับหูฟังโดยเฉพาะกับหูฟังIn Ears จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศ เช่นอุปกรณ์เครื่องเสียงบ้านเสมือนหนึ่งว่านั่งอยู่หน้าลำโพงคู่โปรดในห้องฟังที่ถูกปรับอะคูสติกส์อย่างดี  ทำให้รองรับประเภทของหูฟังได้หลากหลาย ให้เสียงเที่ยงตรงแม่นยำ เชื่อมต่อได้หลายรูปแบบรวมถึง USB-C กับอุปกรณ์ประเภทคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต รวมถึง CHORD Poly อย่างเนียน

ออกแบบให้เชื่อมต่อแบบสนิทแนบเป็นชิ้นเดียวกับ CHORD Poly: Streamerที่สามารถติดตั้งหน่วยความจำได้มากกว่า 1TB จุเพลงHi-Resได้จุใจแบบไม่จำกัดให้สามารถใช้งานแบบไร้สายแบบไม่สะดุดกันเลยทีเดียว ลืมไปได้เลย…กับข้าวต้มมัดในอดีตที่ส่วนใหญ่จะมัด Mojo (1)+DAP ด้วยหนังยาง ที่บางครั้งอาจมีปัญหากับด่านตรวจที่สนามบิน …ฮา  ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ยิ่งสวมเคส(Option) จะแยกเฉพาะตัวมัน หรือรวมชิ้นก็มีให้เลือก ยิ่งเนียนตากันเลยทีเดียว

Connectivity

Output เป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 mm จำนวน 2 ช่อง แน่นอนว่าไม่มี Balanced Jack ซึ่งไม่ทำเพราะถือว่าไม่ใช่ตลาดของคนกลุ่มนี้ รูหูฟังนี้สามารถใช้งานได้พร้อมกันโดยไม่ดึงกำลังขับซึ่งกันและกัน Input ติดตั้งไว้ด้วย USB-C และ Micro-USB ที่รองรับได้ถึง 32bit/768 kHz และ DSD 256 รวมถึง Optical Input ด้วย สามารถเชื่อมต่อกับ M Scaler เพื่อให้มันพุ่งทะยานจนถึง 768 kHz เต็มแม็กซ์กันเลย ติดปีกให้กับมันได้อีก โอ้ว ว้าวจะไปถึงไหนกันเนี่ยะ จริงๆ แล้ว Rob Watts ไม่คิดว่าใครจะใช้มันกับ M Scaler หรอก ทำไว้เผื่ออนาคตที่จะมี M Scaler ตัวเล็กๆ เท่า Mojo 2 คิดดูซิจะเลิศเพียงไร แต่ไม่เป็นไรเมื่อบังเอิญมีอยู่แล้ว มีช่องเสียบสายชาร์จด้วยหัว Micro-USB ที่สามารถเล่นไปชาร์จไปได้ด้วย ข้อนี้เป็นอีกข้อที่ Mojo ตัวเดิมไม่มี เชื่อมต่อกับ Poly ด้วย Micro-USB 2 ตัว คือช่อง Input และ DC Charge  อย่างแนบสนิทเป็นชิ้นเดียว

Up Lift the Performance

เจ้าของ Mojo เดิมอาจสงสัยว่ามีอะไรใหม่บ้างนอกจาก FPGA ที่ทรงพลังมากขึ้นหลายเท่า ทำงานได้สมูธขณะที่กินกำลังไฟต่ำลง ทำให้สามารถยืดอายุแบตเตอรีได้นานกว่า  ข้อแรก..แก้ปัญหาจากรุ่นแรกคือปรับปรุงวงจรควบคุมการทำงานของแบตเตอรี ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ขณะทำงานก็เย็นขึ้น ในขณะที่ Mojo 2 มีความจุของแบตเตอรีโดยรวมสูงขึ้นอีก 9% จึงช่วยยืดอายุแบตเตอรีให้ใช้ได้ยาวนานขึ้นถึง 8 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้นสามารถเล่นไปชาร์จไปได้ ทำให้ความสนุกไม่สะดุดไร้รอยต่อนั่นเอง

เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นได้ปรับปรุง WTA filtering: 40 DSP cores ช่วยให้เสียงโปร่ง (transparent) รายละเอียดกระจ่างชัดขึ้น โดย Mojo 2 ติดตั้งวงจร DC-Coupled เข้ากับ Digital DC Servo ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงของ WTA (Watts Transient Aligned) filter ซึ่งปัจจุบันให้ถึง 40,960 taps โดยใช้ 40 DSP cores ส่งผลให้เสียงสะอาดเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม

Mojo 2 เป็น DAC ตัวแรกของโลกที่ติดตั้ง UHD DSP เทคโนโลยีเฉพาะของ CHORD ที่ใช้ 104 Bit custom DSP core ทำงานที่ 705/768 kHz ที่จะทำให้การทำงานราบเรียบ ให้เสียงสะอาดในแต่ละฟีเจอร์ที่เปลี่ยนไป การ Fine-tune เสียงทำได้ถึง 18 step ในแต่ละช่วงความถี่ตั้งแต่เบสต่ำๆ จนถึงความถี่สูงๆ ส่วน Vol สามารถปรับได้ละเอียดตั้งแต่ +18dB จนถึง -108dB

CrossFeed ตั้งค่าได้ 4 ค่า options => red: minimum / green: moderate / blue: maximum / unlit (CrossFeed off) อันเป็นฟังก์ชันสำหรับหูฟังที่เลิศมาก ฟังหูฟังจำลองให้เกิดเสียง Crosstalk ระหว่างหูซ้ายและหูขวา แต่ได้บรรยากาศเหมือนกับฟังลำโพงในห้องฟังชั้นดี และ DSP ช่วยแม็ตชิ่งกับหูฟังได้หลากหลาย โดยที่ฟังก์ชันนี้แทบจะถอดมาจาก Hugo 2 หรือ DAVE กันเลย บอกเลยว่าไม่มี Portable DAC/Amp ตัวอื่นทำได้เหมือน

ตัวเครื่องมีไฟ LED บอกสถานะการชาร์จ ขณะเสียบสายชาร์จต้องมั่นใจว่า อแดปเตอร์มีกำลังไฟพอ คือควรประมาณไม่ต่ำกว่า 2 amp

The Infinity Stones… Color code.

ในกล่องมีแผ่นกระดาษแข็งทำเป็นแสดง Short cut ของสีแต่ละปุ่มให้สังเกต บอกเลยว่าหลากสี ตาลายเหมือนกัน ผมว่า Rob Watts หรือ John Franks มีแนวคิดหินสีของ The Infinity Stones ดูแสงในเงามืดเหมือนถุงมือของ Thanos เลย

ไม่แน่ใจว่าใครคิดก่อนใคร หรือ John Franks มีแรงบันดาลใจกับ Avengers: the END GAME ดูซิ..อย่างฮา ปกติ Thanos ดีดนิ้วครั้งเดียวสิ่งมีชีวิตหายไปครึ่งจักรวาล แต่นี่กลับกันตรงที่กดปุ่มเมนูแล้ว สีเปลี่ยน แปลว่า เปลี่ยนโลกแห่ง Digital Audio ไปตลอดกาล  DSP ปรับ EQ พอจำไหวว่าสีอะไรคู่อะไร ที่เจ็บจี๊ดตรงสี Sampling Rate นี่มึนมาก ยอมรับว่าจำไม่ไหว …ใครจะจำได้…ฮา

ความจริงการใช้งานไม่ยาก ท่านผู้อ่านดูจากวิดีโอก็ได้ จะเข้าใจกว่าที่ผมจะเขียนบรรยายเสียอีก ใหม่ๆ จะงงนิด ผมก็เทียบตารางสีเอา มันจะบอกถึง Sampling Rate และฟังก์ชันเมนูการทำงานของ DSP ที่ใช้ควบคุม EQ  เยอะนิด ถ้าลองใช้ DSP ก็ไม่ต้องมึน จำสั้นๆว่า Lower bass > mid bass > lower treble > upper treble ประมาณนี้ สีจะเปลี่ยนไปตามที่เราต้องการ ต้องดูโพยกันหน่อย

แต่ใช้ไปซักพักจะคล่องเอง หลักๆ ก็มีแค่นี้

ปุ่ม Menu กด ไปเรื่อยๆ ฟังก์ชันก็จะวนไปตามออปชันที่ต้องการ
ปุ่ม Volume down/menu ‘-’ เพื่อปรับลดเกนขยาย และเลือกออปชันโหมดการใช้งาน
ปุ่ม Volume up/menu ‘+’  เพื่อปรับเพิ่มเกนขยาย และเลือกออปชันโหมดการใช้งาน
ปุ่ม Power button: Displays sample rate + กดแช่ค้างไว้เพื่อเปิด/ปิดเครื่อง

the END GAME

ต้องไม่ลืมว่า Mojo 2 เป็น DAC/Headphone Amp อุปกรณ์สมาร์ทโฟนของค่าย iOS devices อาจต้องใช้ USB-to-Lightning adapter แต่ถ้าเป็นแท็บเล็ต iPad หรือ MAC รุ่นใหม่อย่าง Mac Air M1 ก็สามารถใช้สาย USB-C มาเสียบเข้าตรงๆ ได้เลย 

MAC OSX ไม่ต้องทำอะไรก็เล่นได้เลย เพียงแต่ Windows ต้องลง driver เสียหน่อย จากนั้นเลือก Sound Output ก็จบ จะฟังอะไรก็ง่ายไปหมด ไม่ว่าจะฟังเพลงจากไฟล์ Hi-Res PCM DSD ปล่อยได้เต็มแม็กซ์ ไหลลื่น เนียนกริ๊บ ไม่มีสะดุด 

MOJO 2+POLY

Poly เพื่อนคู่หูของ CHORD ช่วยให้ Mojo 2 ยิ่งหล่อเมื่อสวมเคส ใช้งานคล่องตัวขึ้น เชื่อมกับ Mojo 2 เป็นชิ้นเดียวสามารถสตรีมได้ด้วยตัวเอง โดย Poly ปัจจุบันเป็นเวอร์ชัน 3.0 firmware แล้ว ทำหน้าที่เป็น Streamer ที่สามารถติดตั้งหน่วยความจำได้ในตัวเอง นัยว่าทะลุถึง 1 TB++ (1000 GB++) ไปแล้ว ไฟล์ Hi-Res ก็เกินพันอัลบั้มไปแล้ว รองรับการเล่นสตรีมมิ่งทุกรูปแบบ สามารถสตรีมได้ด้วยตัวเอง แล้วส่งผ่านข้อมูลดิจิทัลไปให้ Mojo 2 ถอดรหัส Digital Files ไม่ว่าจะมาจากแหล่งใด ต้องบอกตรงนี้นะว่า Rob Watts ไม่ปลื้มกับ MQA หรอกนะ อย่าถามหาให้เสียเวลา จะโดนสวนเอา อยากเล่นไปเล่นผ่าน Roon มาซิ

Mojo 2 + Poly คู่นี้จบ เล่นทุกอย่างที่ขวางหน้า ไปตรงไหนก็ไม่ห่างตัว เสพติดจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สายเขียวนะ ทำมั้ยทำไม ต้องพกไอ้ตัวนี้ไปทุกที่จนลูกสาวแม่ยายมองค้อน จะคุยอะไรก็มัวแต่เสียบหูฟัง ต้องให้หลานแม่ยายมาสะกิดให้ไปทานข้าว… เค้างอลล์แล้วนะ 

เริ่มจากของใกล้ตัวสุด จับเชื่อมกับ iPhone ด้วยสายเชื่อม ต่อกับ iPad ด้วยสาย USBC จากนั้นก็ MacAir2011 ตามด้วย MacAir2022 M1 ด้วยสาย USBC เช่นกัน

ใช้เป็นอุปกรณ์พกพาอีกแบบก็คือ ใช้ Mojo 2 เชื่อมกับน้อง Poly แนบสนิทเป็นชิ้นเดียวกัน

Poly ถูกออกแบบให้ไม่มีหน้าจอตั้งค่าง่ายๆ ด้วยสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อเพื่อสั่งการด้วย Bluetooth เชื่อมกับภายนอกด้วย WiFi ก็ได้ โดยผ่านแอป GoFigure ที่จะตั้งค่าและเล่นไฟล์ Hi-Res จากหน่วยความจำในตัวมันได้เอง จะใช้ 3rd Party app อย่าง M Connect หรือ ROON ก็ยังได้เพียงแต่ถ้าจะฟังเพลงผ่าน ROON ก็เปลี่ยนไปใช้ ROON Remote app เท่านั้น ที่ทำให้ Poly กลายร่างเป็น Network Bridge เล่นไฟล์ Hi-Res จากคลังแสงภายนอกรวมถึง Internet Radio สามารถฟังเพลงหลากหลายจาก Streaming service แทบทั้งสิ้น Tidal, Qobuz, Spotify ซึ่ง Apple Music Lossless คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด ณ นาทีนี้ เสียงดี แคตาล็อกเยี่ยมถูกใจวัยรุ่นใช้ได้เลย ข้อสำคัญราคาไม่แรง ที่ไม่ค่อยเชียร์ออกนอกหน้าเพราะงอลล์… ที่ “เปิ้ล” ไม่เห็นเครื่องเสียงบ้านเป็นตลาดใหญ่เลยนี่ซิ… มีเคือง… ยังไม่รวมวิธีการเล่นง่ายโดยเชื่อมด้วย Bluetooth ได้อีก ไว้ฟังในรถก็ได้นะ อัลบั้มต่างๆ ก็ถูกไล่เรียงออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขอรีวิวอัลบั้มหรอก จะซ้ำไปซ้ำมา ไม่ใช่นักวิจารณ์ดนตรี เดี๋ยวจะมีคนเขม่นเอา เพราะก็ไม่ใช่กูรู หรือนักวิจารณ์ดนตรีอีก อ้าว …แล้วเป็นอะไรกันแน่ ก็แค่ “คนธรรมดา” ขาร็อกนี่แหละครับ

CHORD’s SOUND Signature…

ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ฟัง CHORD Mojo 2: Portable DAC/Amp  ตัวนี้ จะว่าไม่คุ้นกับ CHORD ก็ไม่ใช่ จากที่ได้เคยสัมผัส Qutest, Hugo TT2 แน่นอนว่าพี่ DAVE ของผมก็ต้องมา จริงอยู่ว่าต้องเป็นรองรุ่นพี่อยู่แล้ว

แต่ Mojo 2 ถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่อย่างเต็มเปี่ยม ให้เนื้อเสียงเข้ม รายละเอียดดีเยี่ยม สเกลดนตรีชัด ให้เสียงใหญ่ พูดเต็มปากได้เลยว่า Mojo 2 ให้แนวเสียงเดียวกับรุ่นพี่เด๊ะ จะว่ากันไปผมเองก็เที่ยวบอกชาวบ้านว่าเราไม่เชี่ยวชาญกับอุปกรณ์พกพามากนัก แต่เอาเข้าจริงก็ผ่านมือไปไม่น้อย แถมมี DAC/Amp ซุกอยู่หลายตัวเหมือนกัน หูฟังระดับยานแม่หลายตัวก็ผ่านมือมาพอประมาณ แม้ครั้งนี้ไม่มีโอกาสประกบ แต่ก็รู้เลยว่า Mojo 2 กำลังขับถึง ขับได้สบาย เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ก็เถอะ หูฟัง ผมใช้ In Ears สองชุด หูครอบอีกหนึ่งคู่ เสียบผ่านรู Mini Jack จับกับลำโพง Active Speaker คู่เขื่องบนโต๊ะทำงาน เสียดายที่ไม่มีสาย Mini jack >> RCA ต่อพ่วงไปยังพี่ใหญ่เจ้าถิ่น แต่ถึงกระนั้นก็ยังจำลายเซ็นของ Rob Watts จาก Qutest, Hugo TT และ DAVE ได้ชัด ติดหูไม่มีลืม นี่เป็นความมหัศจรรย์ของหูมนุษย์แท้ๆ  จัดว่าฟังเพลินมากไม่ล้าหู เล่นกันจนลืมเวลา ดีที่สามารถเล่นไปชาร์จไปได้ สบายใจไป ความรื่นรมย์ไม่มีสะดุด

“Simply without Equal”

มาด้วยรูปลักษณ์ “ธรรมดา” ซึ่งไม่อาจเทียบได้กับตัวอื่นที่คงจะตกรุ่นไปหมดแล้ว ผ่านมา 7 ปีแล้ว Mojo 2 กลับยังไม่ตกเทรนด์  คงไว้ซึ่งเรียบง่าย แทบไม่เปลี่ยนไปจากเดิม มี Infinity stone เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเม็ด แต่ทำให้มันทรงพลังมากขึ้น Unique ไม่เหมือนใคร ควรค่ากับการรอคอย เหมาะสำหรับ “คนธรรมดา” ที่ต้องการยกระดับการฟังของตัวเองจากการฟังจากรูหูฟังปกติที่มากับ Smart Devices หรือ Computer โดยการเสริมทัพด้วย Portable DAC/Headphone Amp ที่ทันสมัยที่สุด ทำในอังกฤษทั้งตัว ในราคาจับต้องได้ สวนกระแสความหลากหลายของเครื่องเล่นเพลงดิจิทัล (DAP) เสียงดีแต่ราคาแรงทะลุจักรวาล ที่นับวันจะแพงหูฉี่ “คนธรรมดา” อย่างเราๆ เอื้อมถึงยาก7 ปี สำหรับเทคโนโลยี Micro Electronics นั้นถือว่านาน ความก้าวล้ำของ Digital Technology สามารถเพิ่ม

ศักยภาพเป็นทวีคูณ FPGA-based D/A Converter ของ CHORD นั้นเป็นก้าวกระโดดที่ไกลมาก สเปคแรงทะลุจักรวาล หมายถึง Mojo 2 จะทิ้งห่าง Mojo ตัวเดิมแบบไม่เห็นฝุ่น แต่ค่าตัวของ Mojo 2 เป็น Portable DAC/Headphone Amp ในราคาเปิดตัวยังไม่เปลี่ยนไปมากนัก ยิ่งเมื่อเทียบกับ Inflation Rate ถือว่าถูกลงมากด้วยซ้ำ

เหมาะกับนักฟัง “คนธรรมดา” ที่ต้องการความแตกต่าง รวมถึงนักฟังที่ซีเรียสกับคุณภาพเสียงของการเล่นไฟล์ Hi-Res ที่มากกว่าฟังจาก Smart Phone หรือแม้ DAP ตรงๆ ในราคาค่าตัวพอกันทีเดียว ยิ่งถ้าได้ใช้กับเครื่องเสียงบ้านด้วยแล้วถือว่าสุดคุ้ม ฝากถึงผู้ที่กำลังหยอดกระปุกตั้งใจจะสอย CHORD Hugo 2 คู่ใจหรือ Qutest บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่แฟนเก่าของ CHORD หรือชุดไม่ใหญ่จริง แทบแยกยาก Mojo 2 ค่าตัวเท่านี้ ตัดสินใจได้ทันทีไม่ต้องรั้งเฝ้ารอถวิลหากันแล้ว 

อ้อ.. อย่าลืมเจียดเงินซื้อเคส (Option) เสริมหล่อให้มันด้วยล่ะ เชื่อว่าเจ้าของ Mojo ตัวแรกไม่น่าพลาด ใจคอจะรอข้ามไป Mojo 3 เชียวหรือ นานไปมั้ง อย่ากระนั้นเลยอาจต้องรออีก 7 ปีเชียวนา จะไหวเหรอ …ร้อนแรงแบบนี้ไม่แปลกใจที่ Mojo 2 ยอดจองทะลุเป้า มี Back Order ข้ามปีกันเลยทีเดียว Mojo 2 Portable DAC/Headphone Amp  “ธรรมดา ทำไมต้องเหมือนใคร” เพื่อคนธรรมดาเช่นคุณตัวนี้นี่เอง ชวนเพื่อนสนิทมาฟังก่อนได้นะ เพราะเป็นเพียงคนธรรมดาจึงอยากชวนมาฟัง. ADP

ราคาพิเศษ Mojo2
29,400 บาท 

ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ออดิโอ ฟอร์ซ จำกัด
โทร 090-004-2380

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ