…อะนาล็อกอินทิเกรตแอมป์หรูจากสแกนดิเนเวีย ผนวกร่างกับ Streaming DAC Platform
ติดปีกกลายเป็น All in One integrated amp ที่สุด Cool… ด้วยชื่อชั้น
เป็น SOLUTION ที่ลงตัวที่สุดในยุคนี้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเล่นทุกเจน…

ELECTROCOMPANIET (EC) ถือกำเนิดเมื่อต้นยุค ’70 โดยการปฏิวัติการออกแบบวงจรโดยใช้ทรานซิสเตอร์เทคโนโลยียุคใหม่เป็นครั้งแรกของวงการกันเลยทีเดียว ที่แอมป์ทรานซิสเตอร์ให้เสียงมี Tonal Balance เหนือกว่าแอมป์หลอดที่ว่าดีที่สุดแล้วด้วยนะ ซึ่งยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง… และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป

the Legend... ตำนานมีชีวิต

ไฮไฟอเมริกันจะนึกถึงหน้าปัดกับแสง McIntosh’s Blue ส่วนเครื่องเสียงยุโรปหน้าปัดกระจกเงาดำมัน แสงหลอด LED สีน้ำเงิน ก็คือ ELECTROCOMPANIET ไฮไฟจากถิ่นไวกิ้ง เครื่องเสียงไฮเอนด์สัญชาตินอร์เวย์นั่นเอง  ถือว่าไม่ธรรมดาเลยกับ 5 ทศวรรษในแวดวงของอุตสาหกรรมเครื่องเสียง จนถึงผู้คร่ำหวอด นักฟังหูทอง หรืองานสตูดิโอจะทราบดีว่าคุณสมบัติของไฮไฟระดับพรีเมียมของโลกนั้นเป็นเช่นไร นอร์เวย์กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ที่มีรัฐสวัสดิการดีระดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าค่าแรงสูงกว่าจีนราว 5 เท่า ต้องแลกกับภาษีสูงลิ่บเช่นกัน

2007 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง EC ภายใต้ร่มเงาของกลุ่มทุนใหญ่ในอุตสาหกรรมอากาศยาน Battery Charger สำหรับรถยนต์ EV โรบอตเพื่ออุตสาหกรรม และอื่นๆ ไม่ต้องสงสัยว่าอุตสาหกรรมระดับนี้จะทำให้บริษัทเครื่องเสียงในตำนานใช้เทคโนโลยีในการผลิตเดียวกัน และสามารถทำให้บรรลุถึงนวัตกรรมขั้นสูงเพียงดีดนิ้วมือ 

แน่นอนว่าทีมงานวิจัยพัฒนาก็มีศักยภาพเพิ่มตามไปด้วย เครื่องเสียงถูกหล่อหลอมด้วยวัฒนธรรมไฮเอนด์ยุโรปสู่การออกแบบอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่แรก เลือกใช้วัสดุเกรดสูง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นคัดเกรด สู่สายพานการผลิตประกอบเป็นระบบออโตเมชั่นขั้น Leading Edge Technology ด้วยความแม่นยำ ด้วยกระบวนการ Screening, Pick and Place, SMT (Surface Mount Technology) เชื่อมด้วย Solder Wave ตรวจสอบในทุกขั้นตอนด้วย X-Ray และ Optical 3D ตามมาตรฐานการผลิตอย่างเข้มข้นจากโรงงานเดียวกันกับอุตสาหกรรมของบริษัทแม่ ซึ่งถือว่าเป็นของตัวเองใน TAU นอร์เวย์ ทั้งนี้เพื่อประสิทธิผลสูงสุด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์คงทน อัพเกรดได้ ใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่ตกรุ่นง่าย ซึ่งนั่นหมายถึงผลประโยชน์ของลูกค้านั่นเอง

NORWEGIAN PRIDE….

ELECTROCOMPANIET(EC) ค่ายเครื่องเสียงไฮเอนด์จากนอร์เวย์ ถิ่นกำเนิดเครื่องเสียงไฮเอนด์ยุโรปก่อตั้งมาตั้งแต่ต้นยุค ’70 ในปี 73 ใน AES conference งานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาของ Transient Intermodulation(TIM) ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียความสะอาดบริสุทธิ์ของเสียงดนตรีในภาคขยาย เกิดงานวิจัยต่อยอดเป็นแอมป์ตัวแรกที่ป้องกันปัญหาของ TIM ได้ เกิดเป็นแอมป์ขนาดกำลังขับที่ 2×25 watts ต่อข้าง สร้างชื่ออย่างมาก แอมป์ตัวนี้ได้เปิดตำนานเครื่องเสียงสแกนดิเนเวียน มีเอกลักษณ์ที่ให้ความสงัด เสียงสะอาดเป็นธรรมชาติ โปร่ง เกิดช่องว่างระหว่างตัวโน้ตชัด จนถึงปัจจุบันบริษัทมีอายุเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว มีดิสทริบิวเตอร์กว่า 50 ประเทศทั่วโลก แบ่งผลิตภัณฑ์เป็นสอง Product Line คือ Classic Line และ EC Living Line แยกกลุ่มลูกค้ากันชัดเจน

ตำนานยังคงอยู่ ELECTROCOMPANIET NEMO AW600 คือแอมป์รุ่นเรือธงโมโนบล็อกสร้างชื่อให้กับ ELECTROCOMPANIET อย่างมาก ล่าสุด EC เพิ่งเปิดตัว NEMO AW 800M ในงานที่มิวนิก

ส่วนผมเองมีความทรงจำที่ดีกับ ELECTROCOMPANIET เคยเล่นแอมป์ รุ่น AW120 ดูอัลโมโน เป็นแอมป์ที่มีสไตล์เสียงนุ่ม ให้รายละเอียดดีมาก เบสหนึบๆ ปลายเสียงแหลมมีเนื้อไม่ผอมบางแห้งแล้งไร้วิญญาณ ให้เสียงดนตรีมีชีวิต อันเป็น Signature เฉพาะตัวของแบรนด์มาอย่างยาวนาน

Classic Line

คือโปรดักส์ไลน์ที่อยู่กับ EC มาตั้งแต่แรก ออกแบบให้มีความโดดเด่นแนว Timeless Design ได้อย่างลงตัว งดงาม ไร้กาลเวลา รูปลักษณ์มีเอกลักษณ์ เน้นเรียบง่าย คงความทันสมัยไม่ล้าไปกับกาลเวลาที่ผ่านไป มีความโดดเด่นในเรื่องเสียงมี Signature ของตัวเอง ได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวกอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์ทั่วโลก อีกทั้งเมื่อเทียบกับคุณภาพค่าตัวไม่แรงบ้าเลือดเกินตัวอีกด้วย ถือว่ายุติธรรมสำหรับลูกค้า  EC คือตำนานบทหนึ่งของวงการไฮไฟที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของอย่างยิ่ง 

ครึ่งศตวรรแล้ว... ELECTROCOMPANIET เป็นที่ยอมรับและชื่นชมถึงความสำเร็จจากคนทั่วโลก เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น EC มี “ศักดิ์ศรี” ขึ้นทำเนียบเครื่องเสียงพรีเมียม ที่หรูแต่ค่าตัวไม่แรง คุณภาพดีเทียบชั้นแบรนด์ที่มีราคาแพงกว่าในท้องตลาด สามารถแข่งขันได้ มีผลิตภัณฑ์ครบไลน์ตั้งแต่ Power Amp, Pre amp, Integrated amp, Source: CD Player และขาดไม่ได้ก็คือ Streamer รวมถึงอุปกรณ์เสริมเช่นสายสัญญาเป็นต้น

EC LIVING. MAKES MUSIC LIVE. NO STRINGS ATTACHED …

ปัจจุบันโลกของ HiFi เข้าสู่ยุคของ Network Audio ตีกินไปค่อนโลก บริษัทเครื่องเสียงไฮเอนด์เก่าแก่ ชั้นนำอย่าง Electrocompanietก็หาได้มองข้ามเทรนด์ของโลกไป พัฒนา HiFi PlayBack บนระบบเน็ตเวิร์กไร้สายสู่ตลาดเช่นกัน โดยแยกเซกเมนต์ของสินค้ากลุ่มนี้ออกมาตั้งชื่อว่าEC Living” ซึ่งยังคงรักษา DNA ของเครื่องเสียงไฮเอนด์จากสแกนก็คือ ELECTROCOMPANIET ในแบบไลฟ์สไตล์อันเป็นที่นิยมในยุคนี้

EC Living Platform คือ Streamer/DAC เป็นระบบ Multi-Room ในระบบ DLNA รวมถึง Internet Radio… QOBUZ, Tidal, Tidal Connect, SPOTIFY Connect และ ROON ready ใน พ.ศ.นี้ควบคุมด้วย app และ ทำงานบน Web Browser ด้วย สามารถสั่งการควบคุมให้มันเลือกที่จะเล่นใดๆ กลายเป็น Platform มาตรฐานรองรับ Network Audio ที่สุดปังในขณะนี้ โดยสามารถอัพเกรดกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Classic Line ให้ยกระดับไปสู่เส้นทางสายสตรีมได้อย่างง่ายดายโดดขึ้นรถไฟสายสตรีม ประมาณว่าช่วยติดปีกให้กับอะนาล็อกแอมป์อันเป็นจุดแข็งที่มีอยู่เดิมให้แข็งแกร่งมากขึ้น รองรับความต้องการของนักเล่นกลุ่มใหม่ที่ต้องการได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นกันเลยทีเดียว

One Solution … Analog amp does Digital Trick…

Electrocompaniet ECI 6 DX MKII คืออะนาล็อกอินทิเกรตแอมป์ มีประวัติอันยาวนานจาก ECI 1 มีพัฒนาการต่อเนื่องจนถึงเจเนอเรชั่นล่าสุด จนบัดนี้บรรจุอยู่ในแคตาล็อกคือ ECI 80D, ECI 6 DX MK II 

และ ECI 6 DX MK II สามารถเลือกออฟชั่นรวมร่างกับ EC Platform ที่มาพร้อม Streaming DAC บน PCB onboard เป็น Module ที่ Plug in เข้ากับ Slot ท้ายเครื่อง กลายร่างเป็น ECI 6 DX MKII Smart All in One integrates amp สุด Cool แห่งยุคได้อย่างสบาย

เชื่อมต่อด้วยสายและไร้สาย LAN/WLAN, Bluetooth สามารถเล่นเพลงได้ด้วยตัวเองจากระบบสตรีมมิ่งในทุกรูปแบบอย่างลื่นไหล สนองตอบความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกเพศทุกวัยได้ในตัวเดียว เพียงเพิ่มเงินอีกไม่มากเพียงหลักหมื่นเท่านั้นเอง จะเพิ่มแต่แรกตั้งแต่สั่งซื้อหรือจะเพิ่มภายหลังก็ยังได้

Check In..

พี่หนักนะ น้องไหวมั้ย

อินทิเกรตแอมป์ขนาดเขื่องสัณฐานค่อนข้างลึกและหนาด้วย ประมาณว่าหนา หนักกว่าอินทิเกรตแอมป์ทุกตัวที่เคยผ่านมือไปในรอบ 2 – 3 ปีนี้เลย มีน้ำหนักตัวถึง 20.5 กิโล… ที่ต้องเตือนกันไว้เลยโชคดีที่จับวางบนแท่นกับพื้น ไม่ได้ยกเข้า RACK แต่อย่างใด เสี่ยงกับอาการหลังยอกต้องถามหาซาลอนพลาสมาแปะหลังแน่ๆ สงสัยจังว่ามันจะหนักจากอะไร… แอบส่องข้างในพบว่าก็ทรานฟอร์เมอร์ลูกเบิ้ม ครีบ Heat Zinc ชิ้นเขื่องติดตั้งไว้คนละด้านของตัวถังเพื่อให้สมดุลนี่เอง มีช่องระบายอากาศเป็นสล็อตเล็กๆ เป็นแถบกระจายบริเวณหลังเครื่อง

รูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยน EC ขึ้นชื่อเรื่องงานประกอบดี หน้าปัดด้านหน้าทำจากวัสดุ plexiglass สีดำเป็นเงา มีโลโก้สัญลักษณ์ e สีทอง ตัดกับตัวอักษรสีน้ำเงินบนจอดิสเพลย์บอกสถานะการทำงาน กับจุดสีน้ำเงินเน้นว่ามีอยู่จุดเดียววิ่งรอบโลโก้ EC บอกระดับความดังเท่านั้น ไม่บอกเป็นตัวเลขใดๆ ก็เพราะเป็นอะนาล็อกวอลลู่มที่ใช้มอเตอร์ขับ potentiometer ที่สมูธและเที่ยงตรงมาก แล้วจะมีเลขบอกได้อย่างไร จงอย่าได้แปลกใจ วิธีนี้ ECI 6 DX MK II จะไม่ลดทอนเกนขยายของสัญญาณดิจิทัลลงเลยยกเว้นในภาค D/A

แผงหน้าปัดเครื่องถ่ายภาพยากชมัด ปุ่มโลหะสีทอง 4 ปุ่มเป็นฟังก์ชันคีย์ปรับเร่งดังค่อย และ Inputs อ๊ะ 5 ปุ่ม ก็ปุ่มปิดเปิดอีกปุ่มซินะ ดูเรียบ และดีทีเดียว เครื่องที่ส่งมาไม่ได้ให้รีโมตมาด้วย สงสัยจะทราบว่าผมจะไม่ค่อยใช้แฮะ

ด้านหลังเครื่อง ECI 6 DX MKII ถ้าเปรียบเทียบกับ ECI 6 MK II ซึ่งแปลว่าเป็นอินทิเกรตแอมป์ปกติต่างกันตรงที่มีภาค Digital Inputs ข้างล่างด้านซ้ายอันประกอบด้วย USB(B) กับ SPDIF (Toslink/Coax) อย่างละ 2 ขั้ว เหนือขึ้นมาเป็น Slot ของ Network Streaming section (EC Platform) ประกอบด้วย USB (A) สำหรับ HDD Memory Storage หรือทรัมป์ไดรฟ์มาเสียบก็ได้ และ LAN/WLAN (WiFi) inputs สำหรับเชื่อมต่อกับระบบโฮมเน็ตเวิร์ค

ส่วน Analog Inputs และ Pre Out จะเหมือนกันทุกประการ มีทั้ง Balanced และ Unbalanced โดยที่ขั้วลำโพงเป็น

Binding Post ติดตั้งด้านขวาของเครื่องถ้าหันหน้าเข้าหาหลังเครื่อง

ที่ชอบก็ตรงมี Home Theater function ที่จะ Passthrough ให้กับลำโพงคู่หน้าของระบบที่ใช้ AV amp ต่อพ่วงกันเหมือนที่ผมเล่นอยู่นี่แหละ

Keys Function­

ขุมพลังมีกำลังสำรองมากพอจากภาคจ่ายไฟอันประกอบด้วยหม้อแปลงแบบ Toroid ขนาด 650 VA ตัวใหญ่ทีเดียว ซึ่งพันแยกขดลวดเป็นฝั่งขาออกเป็น 7 ขด ผนวกกับคาปาซิเตอร์ขนาดความจุ  880000uF ที่จะจ่ายไฟแยกไปเป็น 16 ค่าแรงดันไฟสำหรับวงจรของแอมป์ตัวนี้รวมถึงวงจรดิจิทัลและสตรีมมิ่งด้วย

Amplifier stages designed

วงจรภาคขยายปรับปรุงมาจาก ECI 5  และ ECI 6 ออกแบบโดยใช้วิธีการให้ทรานซิสเตอร์ทำงานที่ High bias class A ในขณะที่ low distortion และ low noise ด้วย ภาคเพาเวอร์แอมป์ออกแบบวงจรชนิด high open loop bandwidth ใน Signal Path จะใช้วงจรแบบ Discrete ปราศจาก Op amp โดยสิ้นเชิง โดยที่ภาค Inputs Stage ทำงานด้วย Class A แบบ Zero feedback ในขณะที่ภาค Outputs Stage จะทำงานแบบ  Moderate feedback ซึ่งจะทำให้ ECI 6 DX MK II ควบคุมเบสได้ดี ดนตรีไหลลื่นตั้งแต่เบสต่ำจนถึงความถี่สูงโดยไม่ผิดเพี้ยนแม้จะขับลำโพงที่ความไวเพียง 2 โอห์มก็ไม่มีปัญหา มี Tonal Balance ดีเยี่ยมตลอดย่านความถี่ ตั้งแต่เสียงเบสต้นยันปลายแหลม ให้เสียงอุ่นนุ่มนวลมีเนื้อคล้ายแอมป์หลอด ไม่หยาบสากเหมือนแอมป์บ้าพลังในอดีต โดยปลายแหลมจะมีเนื้อไม่แหลมเรียว แห้งแล้ง

กำลังขับอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ ถือไม่น้อยไม่มากสำหรับกำลังขับ 125W ที่ 8ohms, 200W ที่ 4 และ 370W ที่ 2ohms จะโหดไปไหน ตรงนั้นก็ว่าโหดแล้ว ผมสนใจตรง -135db noise floor ของภาคปรีนี่ซิ จัดการดีตั้งแต่ต้นได้ความสงัด… คือพื้นฐานของทุกสิ่ง เชื่อว่าไม่มีแอมป์ตัวใดทำขยะให้เป็นของดีได้หรอก เมื่อปรีดีย่อมส่งผ่านไปยังภาค Output ขยายอย่างเนียน ภาคจ่ายไฟเบิ้มๆ กับวงจร Class A ทำงานได้สมู้ทแม้ติดตั้งในที่จำกัดของอินทิเกรตแอมป์ที่จัดเต็มในทุกมิติ การออกแบบและขนาด Heat Zinc รวมถึงการจัดการ Ventilation ในตัวเครื่องสำคัญมาก เท่าที่สัมผัสก็ไม่ร้อนนักแค่อุ่นๆ เอง

ในภาคของ EC Streaming DAC ติดตั้งไว้ด้วย Onboard DAC  เป็น Cirrus Logic 4392 DAC Chip พร้อม Texas instruments 4392 sample rate convertors ซึ่งไม่ธรรมดาทั้งสองเป็น Chip Set ที่ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางใน D/A Converter และ A/D Converter ในระดับ Studio class ทั้งสิ้น โดยทำงานที่ 24 bit/192khz ในทุก Inputs และ รองรับ DSD128 ที่ถึงบัดนี้ยังหาไฟล์เล่นได้น้อยมาก

การเชื่อมกับโฮมเน็ตเวิร์กต่อด้วย RJ45 รองรับ GIGA Bit LAN รองรับสปีดและแบนด์วิดกว้างและ WiFi  802.11ac protocol ที่เสถียรและไหลลื่นไร้กังวล กับการสตรีมไม่ว่า QOBUZ ที่ถือว่าสุดหินก็ยังลื่น TIDAL, TIDAL Connect, Spotify Connect, Internet Radio ก็ยิ่งง่าย สตรีมจาก NAS ทาง dLNA สบายๆ หรือจะ AirPlay หรือ Bluetooth ก็ได้  ยังมีช่องเสียบ Digital InPuts อีกเพียบให้เลือกจากภายนอก เช่นใช้จาก Universal Player เผื่อไว้ฟังซีดี หรือต่อกับคอมหรือ MAC ก็ได้  ..พี่รับได้หมด

Controlled

ความจริงจะมีรีโมตไร้สายมาให้ สงสัยเหมือนกันว่าจะหาอัลบั้มยังไง แต่บังเอิญเครื่องที่ส่งมาไม่มีมาให้ก็เลยบอกไม่ได้ว่าจะควบคุมได้ดีกว่าหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะปรับเร่งวอลลุ่มได้ง่ายกว่าแอป หรือจะเดินไปกดหน้าเครื่องก็ได้แน่นอน ความจริงควบคุมได้ง่ายด้วย EC Play app บน iOS หรือ Android ฟังก์ชันครบ จึงไม่ร้องขอรีโมต

รวมถึงบน Web Browser อาจจะใช้แท็บเล็ตเคาะเข้ามาบน IP address ของ ECI 6 DX MK II  ก็สะดวกดี เข้าถึงควบคุมสั่งการเลือกเพลงได้สะดวกพอควรเพราะจอใหญ่ดี

ส่วนแอป EC Play app นั้นก็ง่ายซึ่งถ้าเล่น Line เป็น ส่งดอกไม้ สวัสดีตอนเช้าให้กันทุกวัน ต้องเล่นได้แน่นอน …ฮา

Show Time

เกริ่นนำมาพอสมควร ถึงเวลาลองของจริงเสียที

แมตชิ่งกับลำโพงเจ้าถิ่นซึ่งกิน 4 Ohm ก็ถือว่าได้แต้มต่อพอควร เปิดเครื่องรอให้ Boot ซักพักก็จะเห็นหน้จอดิสเพลย์ขึ้นเป็นรูป “EC” logo พร้อมแสงสีน้ำเงินเป็นจุดของตำแหน่ง Vol บริเวณขอบของ “EC” logo มี ซักครู่ก็พร้อมใช้งาน หน้าจอจะเปลี่ยนไปเป็น MEDIA ซึ่งเป็นตำแหน่ง Default จากนั้นก็ต้องเปิดแอป EC Play เพื่อตั้งค่าเล็กน้อย ไม่ขอลงรายละเอียด ก็เช่น Gap less, Music Service เช่น QOBUZ, TIDAL สำหรับ TIDAL จะใช้ Tidal Connect เช่นเดียวกับ Spotify Connect ก็ได้นะ อีกอย่างก็ Import Music Library จาก NAS เลือกบาง Folder ก็พอ ส่วนใครที่ใช้ USB Storage แนะนำว่าอย่าได้สร้าง Folder ซับซ้อนนัก มันจะใช้เวลา Scan นานเกินความจำเป็น

ECI 6 DX MK II ถูกออกแบบให้เล่นสื่อไร้ตัวตนได้หลายแหล่งทั้งจากภายนอกหรือแม้กระทั่งเสียบ USB Storage สตรีมได้จบในตัวเดียว โดยไม่ต้องต่อพ่วงเพลเยอร์จากภายนอกแต่อย่างใด เว้นแต่อยากฟังสื่อฟิสิคัลต้องอาศัยตัวช่วยนิดนึง ซึ่งเพลเยอร์ประเภทซีดี บลูเรย์ก็น่าจะมีกันติดบ้านอยู่แล้ว จะเสียบช่อง Analog Inputs หรือ Digital Inputs ก็ตามสะดวก แล้วก็เลือก Inputs เอาเหมือนอินทิเกรตแอมป์ทั่วไปนั่นแหละ

ฟังจากสื่อไร้ตัวตนเป็นหลัก เช่นไฟล์ PCM, DSD จาก NAS สายสตรีมอย่างเราก็ต้องฟังจาก QOBUZ, TIDAL, SPOTIFY หรือ Internet Radio ซิ  ก็มีบ้างที่ฟังจากแผ่นเงิน CD, BD-A รวมถึง BD Concert แบบ 2Ch ก็เล่นผ่าน PIONEER: LX 500  สนุกไปอีกแบบ ช่วง RaceDay ก็ดู Formula 1 ทาง Sky Sport โดยเลือก HT ให้มัน PassThrough กับ Anthemให้เสียงบึ้มๆ ได้บรรยากาศสนามแข่งทีเดียว

Streaming Services…

EC เป็นพันธมิตรค่ายแรกกับQOBUZ ซึ่งเป็นที่นิยมในยุโรปตั้งแต่ปี 2015 โน่นแน่ะเพิ่งฉลองครบรอบปีกันไป QOBUZ สตรีมได้เนียนกริ๊บ

บอกตามตรงว่าเนื้อเสียงเนียนมีความเป็นอิ่มฉ่ำกว่า TIDAL ซึ่งเล่นเปรียบเทียบกับ Tidal Connect มีความต่างนะ แม้จะไม่คลี่ MQA ด้วยเหตุผลทางการตลาดที่คนยุโรปมี QOBUZ แต่เสียงก็ใช้ได้ อยากเล่น MQA ยังไงซะก็ยังมีทาง น้าก็ไปผ่าน ROON มาซิ ยังไงซะก็ยังแอบเชียร์ TIDAL เล่นง่ายด้วย TIDAL Connect การใช้งานคล้าย Spotify Connect ก็สะดวกดี อีกอย่างเพราะอัลบั้มถูกใจขาร็อกมากกว่าแม้เสียง TIDAL อาจจะเป็นรอง แต่ก็เหนือกว่า Spotify หลายเท่า ไม่แน่ว่า Spotify HiFi จะมาเมื่อใด TIDAL ได้เปรียบในเรื่องแนวดนตรีที่โดนใจกว่า… ความสะดวกในการค้นหาเพลงเพราะเราแอบติดดาวไว้เยอะพอควรแล้ว ช่วยไม่ได้พี่เค้ามาก่อน

ทั้งๆ ที่สตรีมมิ่งมีเพลงหลายสิบล้านแทร็กให้เลือกฟัง แต่ก็อาจมีศิลปินโปรดที่ถูกเลือกทุกครั้งที่เปิดฟัง เล่นจนหลอนก็มีไม่กี่คนหรอก เช่น Alan Taylor: Looking for You หรือ Song for the Road ลุงแกปล่อยอัลบั้มสังกัด Stockfish ออกมาเยอะ ฟังเพลิน บันทึกดีด้วย ชอบที่จะได้ยินเสียงเส้นสายของอะคูสติกส์กีตาร์ที่ลุงแกรูดปลายนิ้วบน Fret board เสียงร้องทุ้มต่ำๆ กับอัลบั้มบันทึกการแสดงสดของน้องนาง Norah  Jones: Til We meet Again หนึ่งในอัลบั้มโปรดที่ฟังไม่เบื่อ รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของเส้นสายเปียโนที่เธอเล่น เบส สแนร์  ECI 6 DX MK II ทำได้ดีมากกับแนวดนตรีประเภทนี้ อัลบั้มหลายชุดของ Acoustic Alchemy ไหลไปเรื่อยๆ ไปกับดนตรีแนว Jazz หรือ Soft Rock ก็สบายๆ

ไฟล์ PCM  ก็เล่นเยอะ แต่มีคนบอกให้ช่วยลองเล่นไฟล์ DSD หน่อย ลองเล่นไฟล์ SACD rip จาก NAS หลายชุดยกตัวอย่างอัลบั้มครู Dire Strait: Love Over Gold กับ I Robot ของป๋า Alan Parsons ถูกเลือกมาฟัง จะเพราะ Noise Floor ต่ำจึงให้เนื้อเสียงมีไดนามิกส์ มิติตื้นลึกดีมาก รายละเอียดเล็กๆ เก็บได้หมด ไม่แปลกใจว่า DSD แบบ DoP นะ ซึ่งเนียนดี ดังนั้นบนแอปจะแสดงผลเป็น 88.2 kHz/5644 kbp ขณะเล่นด้วย ไฟล์ DSD64 …จริงๆ แล้วจะด้วยวิธีใด ถ้าทำออกมาดีก็ไม่มีปัญหาหรอก

ใช้อัลบั้มทั่วไปนี่แหละฟังเทียบ ไม่ถึงกับต้องใช้อัลบั้มระดับอ้างอิงนัก แต่ก็อย่าให้บันทึกกากเกินไป ดนตรีดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

อย่าได้แปลกใจว่าทำไมใช้อัลบั้มพื้นๆ ไม่ใช้อัลบั้มอ้างอิงที่ใครๆ เค้าชอบ ไม่ถึงกับต้องใช้อัลบั้มระดับอ้างอิงนัก แต่ก็อย่าให้บันทึกกากเกินไปก็พอนะ

ไหนๆ แล้วฟังวิทยุเสียหน่อย ก็ไหลลื่นดี ไม่มีสะดุด เปลี่ยนอารมณ์บ้าง

Roon ready

ก็ใช้ไม่ยากเข้าไปเลือก Audio Output ให้รู้จัก ECI 6 DX Mk II ก็เล่นได้เลย เสียงมีความต่างกับ EC Play นะ และเมื่อเล่นก็ต้องใช้ Roon Remote ที่คุ้นเคยสั่งการ ส่วน EC Play ก็จะแสดงผลเช่นเดียวกัน ใครที่มี Roon Core อยู่แล้วก็จัดไปได้เลย สะดวกได้อีก

บังเอิญว่าเสี่ยมุแห่ง BullDog ใจดีส่งของดีมาให้เล่นต่อคิวอยู่พอดี กำลังจับเผาอยู่เลย… ก็ ROCKNA WaveDream DAC ไง ไหนๆ ก็มาแล้ว เผื่ออยากรู้ว่า ECI 6 DX MK II ภาคแอมป์จะดีแค่ไหน จับเสียบซะเลย ไม่ต้องคาใจว่าแอมป์ดีเพียงไร …ซู้ดปากเลยล่ะซิ บอกเลยว่าฟังได้ชัดเดิมก็ว่าดีแล้ว โอ้ว ดีขึ้นอีกเยอะ อย่างน้อยก็รู้ว่าแอมป์ของ ECI 6 DX MK II ดีเพียงไร บอกเลยว่าดีมากขึ้นไปอีก

…. ไม่น่าแปลกใจหรอก EC Streaming DAC ที่ติดตั้งมาราคาหลักหมื่นเท่านั้น ก็ดีพอตัว เจอ Network Bridge + ROCKNA WAVEDREAM DAC ต้องจ่ายเพิ่มอีกสิบเท่าตัวเชียวนา โถๆ อย่ารังแกน้อนน.

ด้วยค่าตัวแค่นี้ EC Streaming DAC  ทำได้ดีมากแล้ว ไม่อยากให้มองว่าใช้ DAC Chip อะไร แล้วปรามาสไปก่อนว่าใช้ DAC Chip ไม่ใช่ DAC เทพ แล้วจะสู้ไม่ได้ นั่นจริงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าการImplementation สำคัญที่สุด มีองค์ประกอบมากมายที่ทำให้เสียงดีนะครับ

อ้อ เพราะเป็น Class A จึงใช้เวลา Warm Up พอประมาณ ราวครึ่งชั่วโมงเสียงจะอิ่มฉ่ำฟังเพลิน ยิ่งร้อนยิ่งฟังยิ่งเพราะจริงๆ นะ…

โอ้ว ยังมี AirPlay กับ Bluetooth และ Computer audio ไว้ฟัง Apple Lossless ให้ได้คุณภาพเต็มๆ ราคาไม่แพงได้อีกด้วย ไม่บรรยายแล้วนะ ก็ประมาณนี้ล่ะ

Wrap Up

เรื่อง All in One Integrated Streaming DAC amp นี่เคยฟันธงมาแล้วว่ามันคือเทรนด์ของโลก

..สำหรับ ELECTROCOMPANIET ECI 6 DX MK II นั้น ด้วยชื่อชั้นอินทิเกรตแอมป์ยุโรปชาติตระกูลดี งานระดับพรีเมียม กำลังขับพอเหมาะ หาลำโพงแมตชิ่งง่าย ราคาค่าตัวเหมาะสม หน้าตาดี สมฐานะของเจ้าของ ออกแบบ ผลิต ประกอบในนอร์เวย์ทั้งตัว รองรับการเชื่อมต่อครบทุกฟังก์ชั่นทั้งอะนาล็อกและดิจิทัล สายและไร้สาย มี Streamer ในตัว ทำหน้าที่เป็น Network Player หรือดิจิทัลฟรอนต์เอนด์ที่ดีพอในยุคนี้ ที่จะเล่นเอาจริงก็ได้เลย หรือให้มันทำหน้าที่เป็นปรีแอมป์ส่งไปให้แอมป์รุ่นใหญ่กว่าก็สมศักดิ์ศรี เพราะใช้ Pre amp Class A เชียวนะ  เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเสียงสไตล์ผู้ดีๆ ละเมียดละไม อิ่มฉ่ำ เบสนุ่ม โทนัลบาลานซ์ดีเยี่ยม เสียงแหลมมีเนื้อนิดๆ ไม่หยาบกร้าน ให้เสียงธรรมชาติของเครื่องดนตรีสด ที่คุณต้องชอบเลย จะมือเก่าหรือมือใหม่ที่ไม่เคยเล่นสตรีมมิ่ง แม้ไม่อยากลงทุนมากกับสตรีมเมอร์แต่อยากได้แอมป์ดีๆ ที่ใช้ได้นาน ก็ลงทุนซื้อไปก่อนวันนี้ได้เลย แอมป์ดีมากพอที่จะใช้อย่างยาวนานโดยไม่ล้า ยิ่งฟังยิ่งรักเชียวนา อยากอัพเกรดสตรีมเมอร์ก็ค่อยขยับอีกทีก็ยังได้ …คนทางบ้านอนุญาตเสมอ… สำหรับการลงทุนเพื่อความสุขของพ่อบ้านใจกล้าจะได้อยู่ติดบ้าน อัดอั้นมานานกับโควิดที่ถูกล็อกอยู่กับบ้านจนแว่บไม่ได้ หมดข้ออ้างล่ะคราวนี้ ยอม ยอม. ADP

ELECTROCOMPANIET  ECI 6  MK II  ราคา 230,000 บาท
ELECTROCOMPANIET  ECI 6 DX MK II  with EC Streaming DAC  ราคา 270,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Bulldog Audio
โทร. 081-454-0078

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ