ธีรวัฒน์

หลายท่านคงจะอยากทราบว่าอินทิเกรตแอมป์ของ Esoteric คุณภาพนั้นเป็นเช่นไร เพราะหากเอ่ยถึง Esoteric ภาพที่นักเล่นเครื่องเสียงคุ้นเคยจะเป็นเครื่องเล่นซีดีมากกว่า น้อยนักที่จะนึกถึงอินทิเกรตแอมป์ ยิ่งในวงการเครื่องเสียงบ้านเรา การรับรู้การสัมผัสถึงคุณภาพเสียงของอินทิเกรตแอมป์ Esoteric มีการกล่าวถึงน้อยมาก หากใครไม่เคยมีโอกาสลองฟังอินทิเกรตแอมป์ของ Esoteric มาก่อน แทบนึกไม่ออกเลย ที่สำคัญ… หากคิดจะซื้ออินทิเกรตแอมป์ราคาระดับเกือบครึ่งล้านบาทสักตัว ทำไมต้องนึกถึง Esoteric ด้วย

ผมเองก็เป็น 1 ในที่กล่าวมาข้างต้น ทว่า พอได้มีโอกาสลองฟังอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F-03a ซึ่งเป็นตัวแรกที่เข้ามาประเทศไทย ผมถึงกลับทึ่งเลย คือไม่เคยคิดมาก่อนว่า อินทิเกรตแอมป์คลาส A ของ Esoteric จะให้เสียงออกมาดีเช่นนี้ ถึงขั้นที่ผมต้องยกให้ Esoteric F-03a มีคุณภาพเสียงดีที่สุดในบรรดาอินทิเกรตแอมป์คลาส A จากประเทศญี่ปุ่นที่ผมเคยฟังมาทั้งหมด ทุกตัวทุกยี่ห้อ และดีกว่าอินทิเกรตแอมป์บางยี่ห้อจากซีกโลกอื่นๆ อีกด้วย

พอได้ข่าวว่าจะมีอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F-05 ส่งมาให้รีวิว ผมเลยต้องรีบจองขอเป็นคนทดสอบก็แล้วกัน

ส่วนหนึ่งด้วยความที่เคยฟังเคยแม็ตซิ่งและเซ็ตอัพตำแหน่งลำโพงในชุดเครื่องเสียงของ Esoteric F03a มาก่อน เลยไม่รีรอที่จะนำ Esoteric F05 มาลองฟังทดสอบเพราะจะได้ต่อเนื่องกัน  ด้วยความเข้าใจของผม Esoteric F03a และ Esoteric F05 นั้น วงจรในภาคปรีแอมป์แทบไม่ได้แตกต่างกันเลย จะต่างกันแค่ภาคแอมป์ภายในและวัสดุในส่วนนี้ อีกตัวเป็นแอมป์คลาส A กำลังขับ 30 วัตต์ อีกตัวแอมป์คลาส AB กำลังขับ 120 วัตต์ที่อิมพีแดนซ์ 8 โอห์ม

วงจรภายในของใน Esoteric: F05

ในภาคเพาเวอร์แอมป์ของวงจรภายในของ Esoteric F05 นั้น ใช้ทรานซิสเตอร์ไบโพลาร์ LAPT จ่ายกระแสพีคได้ถึง 34 แอมป์ จุดเชื่อมต่อสายลำโพงใช้แผ่นทองแดง OFC หนาถึง 1 มม. ให้กำลังขับ 120 วัตต์ที่ 8 โอห์ม

ทรานซิสเตอร์ไบโพลาร์ LAPT

หากดูกำลังขับ 120 วัตต์ อาจน้อยไปหรือเปล่ากับอินทิเกรตแอมป์ในระดับราคาเกือบครึ่งล้าน หันไปมองแบบแยกชิ้นปรีแอมป์-เพาเวอร์แอมป์ดีไหม น่าจะได้กำลังขับมากกว่า แต่จริงๆ เราไม่ควรเทียบราคาแบบนี้กันไม่ได้เลย เพราะวัสดุและการคัดเลือกคุณภาพนั้นแตกต่างกัน

ถามว่าปรีแอมป์ เพาเวอร์แอมป์ระดับราคาเท่าเทียมกันกับอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 นั้นจะใช้วัสดุระดับพรีเมียมเหมือน Esoteric F05 หรือเปล่า ตอบได้เลยว่ายากครับ เพราะหากจะเทียบระดับราคากันจริงๆ ต้องคูณสองเท่าเป็นอย่างน้อย นั่นหมายความว่าต้องนำปรีแอมป์เพาเวอร์แอมป์ระดับหนึ่งล้านบาทอย่างน้อยมาเทียบเรื่องเสียง เรื่องคุณภาพ เรื่องวัสดุภายในกันว่าพรีเมียมเท่ากันหรือเปล่า

อย่างที่สอง กลุ่มนักเล่น ซึ่งผมมองว่า นักเล่นที่ต้องการอินทิเกรตแอมป์ระดับไฮเอนด์ซึ่งมีระดับราคาสูงขนาดนี้  คงไม่ได้มองหรือสนใจชุดแยกชิ้นปรีแอมป์เพาเวอร์แอมป์แน่ๆ เพราะอาจต้องการความสะดวกสบายที่ใช้งานครบๆ ซึ่งมีภาคปรีโฟโนในตัวรองรับทั้งหัวเข็ม MM และ MC แถมยังมีออปชั่นเพิ่ม DAC รองรับการเชื่อมต่อทางดิจิทัลทั้ง OPTICAL, COAXIAL และ USB โดยที่ทางช่อง OPTICALและ COAXIAL นั้นรองรับสัญญาณดิจิทัล 16-24 Bit/ 32-192kHz ส่วนทางช่อง USB นั้นรองรับสัญญาณดิจิทัล 16-32Bit/32-384kHz และ 2.8, 5.6, 11.2MHz DSD

ด้านหลังเครื่องรองรับช่องต่อหลากหลาย

Esoteric F05 ยังมีออปชันอีกอย่างหนึ่งซึ่งสามารถเพิ่มได้ คือการเพิ่มบอร์ด 0P-ESLA1 ES-Link Analog Input Board XLR ซึ่งทาง Esoteric เคลมว่าออปชันนี่คือ Current Transmission Audio ช่วยให้การเชื่อมต่อการสายนำสัญญาณอินพุตแบบบาลานซ์ XLR นั้นดีขึ้นว่าเดิม จากที่ผมดูวงจรจากโบรชัวร์และประสบการณ์ ผมคิดว่าคือการขยายอีดฉีดกระแสเข้าไปเพื่อให้ เรี่ยวแรงมากขึ้น กำลังดีขึ้น รายละเอียดที่มากยิ่งขึ้นและเนื้อเสียงที่อิ่มมากกว่าเดิม ถ้าจะถามว่า จำเป็นต้องเพิ่มไหม ผมยังตอบไม่ได้ครับ เพราะตัวที่ได้รับมาไม่ได้ใส่ออปชันนี้เพิ่มเติมเข้ามา

เพิ่ม Option Board Slot เสริมออปชัน

ข้อดีของการเล่นอินทิเกรตแอมป์อีกอย่างหนึ่งก็คือไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องสายไฟเอซีและสายนำสัญญาณเพิ่มอีก แถมการเล่นอินทิเกรตแอมป์ยังเปลืองพื้นที่การวางน้อยกว่า แค่อินทิเกรตแอมป์ตัวเดียวจบเลย

ทำไมอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 ถึงน่าสนใจ

เรื่องแรกที่ผมต้องร้องว้าว ก็คือหม้อแปลงที่ใช้ในตัว Esoteric F05 นั้นคือหม้อแปลง EI ครับ ขนาด 940VA หม้อแปลง EI ที่นำมาใช้งานในตัว Esoteric F05 นี้ เป็นลักษณะ Custom EI Transformer นั้นหมายความว่า ผลิตขึ้นมาตามสเปกของ Esoteric โดยเฉพาะ และคาปาซิเตอร์ขนาด 40,000 ไมโครฟารัดต่อข้างนะครับ เพราะวงจรขยายของ Esoteric F05 นั้นจะเป็นระบบโมโนบล็อกแยกซ้ายขวาอย่างอิสระ

โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบหม้อแปลงแบบ EI Transformer ซึ่งจากประสบการณ์นั้น จะให้อิมแพ็ค เนื้อเสียง กำลังและไดนามิกที่ดีกว่า แต่อาจจะมีคัลเลอร์ในย่านความถี่กลางสูง ทำให้เนื้อเสียงของนักร้องจะติดลักษณะแบบ Chest Tone คือคีย์เสียงจะอมเนื้อและมีโทนเสียงต่ำนิดหน่อย ใครเล่นแอมป์วินเทจเก่าๆ คงพอจะนึกถึงลักษณะเสียงแบบนี้ออก เพราะแอมป์วินเทจเก่าๆ นั้นจะใช้หม้อแปลงแบบนี้เป็นส่วนใหญ่

แต่ลักษณะคัลเลอร์จากหม้อแปลง EI ตามข้างต้น ผมไม่พบใน Esoteric F05 เลย แถมยังต้องยกนิ้วหัวโป้งให้เพื่อจะบอกว่า หม้อแปลง EI Transformer ใน Esoteric F05 เจ๋งมากๆ ทำให้เสียงได้ลักษณะเด่นแบบหม้อแปลง EI Transformer แถมกลางแหลมยังพลิ้วหวานละเอียดอีกต่างหาก ราวกับว่าได้ฉีกรื้อทิ้งความรู้สึกเก่าๆ ของหม้อแปลง EI Transformer ออกไป

แผงวงจรของ Esoteric: F05

ทางทีมงานต้องการออกแบบให้ Esoteric F05 คืองานระดับมาสเตอร์พีซ ที่จะกลายเป็นอินทิเกรตแอมป์ไฮเอนด์ระดับอ้างอิง จึงใส่ใจทุ่มเทเป็นพิเศษ ไล่ตั้งแต่ภาคปรีแอมป์ภายใน Esoteric F05 ถอดแบบจากปรีแอมป์ Esoteric รุ่นท็อปคือรุ่น Grandioso C1 ซึ่งทำให้ Esoteric F05 มีความพิเศษอย่างยิ่ง ปัจจุบัน Grandioso C1 ยกเลิกการผลิตไปแล้ว ทำให้ภาคปรีแอมป์ของ Esoteric F05 น่าสนใจอย่างยิ่ง ออกแบบให้ทำงานในลักษณะ Fully Balanced โดยแยกซ้ายขวา (Dual Monarual Configuration) กันอย่างชัดเจนตั้งแต่ภาคปรีแอมป์ไปจนถึงเพาเวอร์แอมป์ โวลุ่มที่ใช้เทคนิค Quad Volume Control System ที่มีความเป็นลิเนียร์และเที่ยงตรงอย่างสุดๆ จนผมมั่นใจได้เลยว่า Esoteric F05 จะกลายเป็นอินทิเกรตแอมป์ที่หลายคนจะกล่าวถึงอย่างแน่นอน

ฟังก์ชั่นและการใช้งาน

ฟังก์ชั่นและการใช้งานถือว่าเป็นไฮไลต์ของ Esoteric F05 ซึ่งยากจะพบในอินทิเกรตแอมป์ระดับไฮเอนด์ยี่ห้ออื่น โดยเฉพาะการปรับเกนขาเข้าจากซอร์สต่างๆ หรือขาออกได้อย่างอิสระ ไม่ใช่ปรับครั้งเดียวแล้วใช้ทุกช่องอินพุตและเอาท์พุตทั้งหมด อินทิเกรตแอมป์บางยี่ห้อแทบไม่มีฟังก์ชันนี้มาให้เลย ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้จำเป็นมาก คือควรเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ควรจะมีมาให้ด้วยซ้ำไป จะได้ตัดปัญหาซอร์สทางดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นซีดี, DAC หรือพวก Streamer ต่างๆ ให้เกนเสียงที่ไม่แม็ตช์กัน DAC บางยี่ห้อเท่าที่เจอมาบางครั้งสัญญาณต่ำ บางเครื่องสัญญาณแรงมาก แต่ถ้าหากว่าอินทิเกรตแอมป์ของเรานั้นมีฟังก์ชันการปรับเกนลดเกนอินพุตได้ จะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุดๆ

การปรับเซ็ตเกนแต่ละช่องนั้นก็ทำได้ไม่ยาก สามารถปรับตั้งได้จากปุ่มหน้าปัดเครื่องหรือจากรีโมตคอนโทรลได้ การปรับที่ตัวรีโมตจะง่ายกว่าแต่ผมไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ เพราะในคู่มือบอกไว้อย่างละเอียดแล้ว

รีโมตคอนโทรลและหน้าจอที่สามารถปรับตั้งค่าได้

การเลือกลำโพงเพื่อมาใช้คู่กับ Esoteric F05 นั้น ผมแนะนำอย่างนี้ว่า ควรจะใช้ลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ 8 โอห์มจะดีกว่า หรือถ้าหากว่าลำโพงคู่นั้นมีอิมพีแดนซ์ลำโพงปกติ 6 โอห์มแต่ถ้าสเปกอิมพีแดนซ์ของลำโพงต่ำสุดไม่เกิน 4 โอห์มก็น่าจะเหมาะ แต่หากอิมพีแดนซ์ลำโพงปกติ 4 โอห์ม ผมแนะนำว่าควรจะลองดูก่อนจะดีกว่า

ที่นี้ต้องทำความเข้าใจในสิ่งที่บอกข้างต้นเรื่องอิมพีแดนซ์ของลำโพงนั้น คือความเหมาะสมที่จะให้คุณภาพเสียงออกมาดีมากที่สุด เพราะภาคปรีแอมป์ของ Esoteric F05 นั้นออกแบบในลักษณะ Fully Balanced สเปกของลำโพงข้างต้นจะช่วยให้เสียงออกสมบูรณ์

ถามว่าลำโพงอื่นๆ ล่ะจะเป็นอย่างไร ถ้าถามว่า Esoteric F05 ขับได้หรือเปล่า ก็ขับได้ แต่เสียงจะออกมาดีหรือเปล่านั้น ไม่แน่ใจครับ เสียงจะออกซอฟต์ไหม่ในหัวโน้ตของความถี่ต่ำๆ หรือจะขับลำโพงตั้งพื้นขนาดใหญ่ ตัวตู้หนักและแน่นหนา ดอกลำโพงขนาดใหญ่กว่า 8 นิ้วหรือเป็นวัสดุแบบเซรามิกนั้น ต้องดูว่าจะทำให้ Esoteric F05 เกิดความเครียดและหนักเกินไปหรือเปล่า เพราะค่า Damping Factor ประมาณ 370 หัวโน้ตเบสอาจจะไปทางนุ่มนวล ความดุดัน เรี่ยวแรงพละกำลัง ความคมชัดหนักแน่นของหัวโน้ตอาจจะไม่คมชัดเจน

ส่วนสายลำโพงนั้นแนะนำว่า ควรจะเป็นสายลำโพงซึ่งมีหน้าตัดขนาด 10 AWG เทียบเท่าขนาด 5.51 sq.mm เป็นอย่างต่ำครับ ไม่ควรใช้สายลำโพงซึ่งมีหน้าตัดของตัวนำมีขนาดน้อยกว่า 10 AWG เพราะจะทำให้อิมแพ็ค เนื้อเสียง พลังที่ควรจะมีควรจะได้สัมผัสนั้นหย่อนหายไปบ้าง

คุณภาพเสียง

ในการทดสอบอินทิเกรตแอมป์ที่ผ่านมา อินทิเกรตแอมป์ของ Esoteric F05 น่าจะเป็นอินทิเกรตแอมป์ตัวแรกที่ผมมีเวลาในการทดสอบลองฟังค่อนข้างนาน เลยทำให้รับรู้สัมผัสถึงคุณภาพเสียงของ Esoteric F05 ในทุกด้านอย่างครบถ้วน

จากการลองฟังมาหลายเงื่อนไขด้วยกันนั้น อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 ได้สร้างความประทับใจอย่างมากในเรื่องเรนจ์เสียงที่กว้างและให้ความเที่ยงตรงออกมาสูงมาก จนผมรู้สึกว่า Esoteric F05 แทบไม่มีข้อจำกัดในการเล่นร่วมกับซอร์สต้นทางแต่อย่างไร ในความหมายที่อยากจะสื่อก็คือ คุณภาพบุคลิกเสียงของซอร์สต้นทางเป็นอย่างไรก็จะให้เสียงออกมาอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้บิดเบือนบุคลิกเสียงของซอร์สต้นทางเลยแม้แต่น้อย

ยกตัวอย่าง เมื่อลองฟังโดยใช้ DAC ถึงสามยี่ห้อ Primaluna EVO 100 Tube DAC, Allnic D5000DHT และ S.M.S.L SU9 คุณภาพเสียงที่ได้ยินได้รับฟังก็จะแตกต่างไปตามคุณภาพของซอร์สต้นทางที่นำมาต่อใช้งานร่วม

Primaluna EVO100 TubeDAC เสียงของ DAC รุ่นนี้ออกไปทางแนวเสียงหลอด กลางแหลมจะมีความฉ่ำหวาน รายละเอียดเสียงช่วงความถี่เสียงกลางแหลมจะดีมาก เสียงร้องนั้นจะให้ความฉ่ำหวานน่าฟังอย่างยิ่ง ส่วนความถี่ต่ำนั้น มีมาให้แต่ไม่ได้เน้นเหมือนคุณภาพย่านความถี่เสียงกลางแหลม คือจะออกไปทางซอฟต์มากกว่าจะดุดัน หัวโน้ตจะอวบใหญ่หน่อยแต่เรื่องความคมชัดหนักแน่นย่านกลางแหลมจะทำได้ดีกว่าย่านความถี่เสียงต่ำๆ

เสียงของ Primaluna EVO 100 Tube DAC เมื่อต่อผ่านอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 เสียงที่ได้ยินผมนึกว่ากำลังฟังแอมป์หลอดอยู่ คืออินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 ให้เสียงเหมือนกับแอมป์หลอดมากๆ กลางแอมป์ที่ฉ่ำหวาน เสียงโปร่ง ฟังเสียงเครื่องเคาะนี่พลิ้วกังวาน ไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อใช้ซอร์สต้นทางคือ Primaluna EVO 100 TubeDAC จะทำให้เสียงของอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 ออกมาเป็นแอมป์หลอดเลย

ถามว่าความดุดันแรงปะทะจากความถี่ต่ำที่ออกมาซอฟต์ของ Primaluna EVO 100 Tube DAC ซึ่งเป็นบุคลิกเสียงของ DAC ตัวนี้นั้น อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 จะช่วยให้เบสจากซอร์สต้นทาง Primaluna EVO 100TubeDAC ดีขึ้นด้วยหรือเปล่า บอกได้เลยว่า เปล่าเลย ทุกอย่างถูกกำหนดมาจากซอร์สต้นทางโดยทั้งหมด

ถึงแม้ว่า Esoteric F05 จะให้กำลังขับออกมา 120 วัตต์ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนเสียงเปลี่ยนหัวโน้ตของด้านความถี่ต่ำให้คมหนักแน่นเหมือนพวกแอมป์โซลิดสเตทเลย เนื่องจากเสียงถูกควบคุมจากซอร์สต้นทางก็คือ Primaluna EVO 100 TubeDAC นั้นเอง การจะคาดหวังว่าจะให้ Esoteric F05 เปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เติมบุคลิกเสียงของโซลิดสเตทลงไปด้วยนั้น บอกได้เลยครับว่า ไม่มีเลย แสดงถึงความเป็นกลางของ Esoteric F05 คุณภาพเสียงออกมาอย่างไรแบบไหน ก็ขึ้นกับว่าซอร์สต้นทางนั้นให้ออกมาอย่างไรเกือบ 100% เลยก็ว่าได้

พอเปลี่ยน DAC ที่ใช้เป็นซอร์สต้นทางจาก Primaluna EVO 100 TubeDAC มาเป็น Allnic D5000DHT ซึ่งค่าตัวสูงกว่า Primaluna EVO 100 TubeDAC อยู่พอสมควร คุณภาพเสียงหลังเปลี่ยน DAC ต้นทางมาเป็น Allnic D5000DHT อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 ก็ให้ความแตกต่างของเสียงจาก Primaluna EVO 100 Tube DAC เดิมอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน

ขอหยิบเรื่องรายละเอียดเสียงมาคุยกันก่อนแล้วกันครับ

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อใช้ Primaluna EVO 100 TubeDAC ผมรู้สึกว่ารายละเอียดของเสียงกลางแหลมดีแล้ว แต่พอเปลี่ยน DAC มาเป็น Allnic D5000DHT รายละเอียดของเสียงเหมือนถูกจับซอยให้มีความละเอียดมากขึ้น เสมือนว่าส่องไปเห็นถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ยินรายละเอียดเสียงมากขึ้น ยิ่งตอกย้ำว่า Esoteric F05 นั้นตอบสนองในเรื่องเรนจ์เสียงกว้าง แบนวิดธ์ที่กว้างมากๆ ทำให้เสียงจึงออกมาเป็นกลางตอบสนองคุณภาพเสียงจากซอร์สต้นทางได้เป็นอย่างดี

อาจสงสัยว่า ทำไมถึงถึงยกเรื่องการเปลี่ยน DAC จากซอร์สต้นทางมาเพื่ออธิบายคุณภาพเสียงของ Esoteric F05 อย่าลืมขอเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า อินทิเกรตแอมป์นั้น ปัจจัยที่มีผลในการประเมินคุณภาพเสียง จะขึ้นกับซอร์สต้นทาง สายนำสัญญาณจากซอร์สต้นทาง สายลำโพงและลำโพงที่ใช้งานด้วยเช่นกัน การประเมินว่าอินทิเกรตแอมป์หนึ่งตัวนั้นเสียงเป็นอย่างไร ก็ต้องดูองค์ประกอบทุกอย่างทั้งหมด ถ้าเทียบเสียงจากการเปลี่ยน DAC ต้นทางเมื่อเล่นผ่านอินทิเกรตแอมป์ Luxman LX-380 ความแตกต่างของเสียงก็ยังไม่ได้แตกต่างกันเยอะเท่า Esoteric F-05 แถมบุคลิกเสียงของ Luxman ยังแรงกว่าซอร์สต้นทางเสียอีก

ถ้าเปลี่ยนซอร์สต้นทางแล้วอินทิเกรตแอมป์นั้นให้ความแตกต่างของเสียงไม่ได้มากมาย นั่นก็หมายความว่า อินทิเกรตแอมป์นั้นไม่ได้รองรับซอร์สคุณภาพดีๆ จากต้นทางได้ แต่หากเปลี่ยนซอร์สต้นทางแล้วทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง แสดงว่าอินทิเกรตแอมป์นั้นมีดีมากพอที่แสดงศักยภาพของซอร์สต้นทางออกมาได้ทั้งหมด

อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 นั้นจะเป็นอย่างหลัง  อย่างที่บอกตอนต้นว่า เมื่อใช้คู่กับ DAC ของ Primaluna EVO 100 Tube DAC นั้นจะให้เสียงออกมาราวกับว่ากำลังฟังแอมป์หลอด เสียงร้องจากที่ออกมาจาก DAC ของ Primaluna จะถ่างระยะห่างจากนักร้องออกมาห่างจากนักดนตรี และเวทีเสียงจะวางลึกไปในด้านหลังระหว่างลำโพง โดยที่ด้านกว้างไม่เด่นเท่าเวทีเสียงด้านลึก

แต่พอเปลี่ยน DAC ซอร์สต้นทางมาเป็น Allnic D5000DHT เวทีเสียงจะแตกต่างจาก Primaluna ซึ่งเวทีเสียงของ Allnic D5000DHT นั้นกว้างและลึก ด้านกว้างจะขยายออกไปด้านข้างลำโพงและเวทีเสียงโอบล้อมมาด้านหน้า ด้านหลังลำโพงจะวางตัวลึกลงไปอีก Esoteric F05 ก็ถ่ายทอดเวทีเสียงออกมาได้กว้างและลึกอย่างนั้น เท่ากับว่า Esoteric F05 ให้เวทีเสียงกว้างและลึกมาก เวทีเสียงเปลี่ยนแปลงตามซอร์สต้นทางเลย

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเวทีเสียง มีให้ได้ยินสัมผัส ถึงรายละเอียดหยุมหยิม ซึ่งเมื่อก่อนไม่ค่อยชัดเจน แต่พอเปลี่ยนเป็น Allnic D5000DHT มีเต็มเลย Esoteric F05 ก็ถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้ทั้งหมด ยิ่งพอใช้ลำโพง Totem Signature One ซึ่งเด่นในเรื่องเวทีเสียงกว้างและลึก ก็จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเด่นขึ้นมาอย่างทันทีทันใด

อีกอย่างที่สำคัญก็คือพอเปลี่ยนมาใช้ DAC ของ Allnic เสียงร้องที่เคยรู้สึกว่ามีการถ่างช่องว่างระหว่างเสียงร้องกับเสียงดนตรีออกจากกัน เมื่อเล่นผ่าน DAC ของ Primaluna นั้น กลับถอยกลับเข้าที่เข้ามาปกติเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกว่ามีการถ่างขยายออกแต่อย่างไร ทุกครั้งที่เปลี่ยนอะไรจากซอร์สต้นทาง Esoteric F05 ก็ถ่ายทอดออกมาตามซอร์สต้นทางเต็มๆ

ถ้ามองอีกอย่างหนึ่ง การที่อินทิเกรตแอมป์สักเครื่องจะทำให้ได้ออกมาอย่างนี้ นั่นหมายความว่าตัวอินทิเกรตแอมป์ต้องทำได้ดีกว่าต้นทาง ต้องมีเรนจ์เสียงที่กว้างมากๆ จึงทำให้สัมผัสคุณภาพจากซอร์สทุกครั้งที่เปลี่ยนได้

จะบอกว่า Esoteric F05 ให้ความเป็นกลางอย่างมาก ความเป็นกลางในที่นี้คือไม่ได้มีบุคลิกใดๆ ออกมาเลย ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นกับซอร์สต้นล้วนๆ ซอร์สดีทุกอย่างก็ออกมาดี ซอร์สกลางๆ ก็ออกมากลางๆ ซอร์สต้นทางไม่ดีพอก็ออกมางั้นๆ

คราวนี้จะมาพูดถึงเจาะจงตัวอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 โดยเฉพาะ

ถ้าจะให้บอกว่าเสียงเป็นอย่างไร อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เสียงเพลงออกมาไพเราะน่าฟัง เนื่องจาก Esoteric F05 ให้บรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ออกมาดีนั่นเอง สองเรื่องนี้สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีหรือให้ไม่ได้เสียงที่ได้ยินก็ไม่ได้แตกต่างจากลำโพงงานวัดเลย ที่เด่นดัง ชัด และฟังมันอย่างเดียว หรือถ้าให้บรรยากาศและฮาร์โมนิกส์เด่น แต่เรื่องอื่นแย่ อินทิเกรตแอมป์ตัวนั้นก็ไม่น่าสนใจเช่นกัน ต้องครบถ้วนจริงๆ

ตรงนี้ต้องชื่นชมการออกแบบเกนภายในภาคปรีแอมป์และภาคเพาเวอร์แอมป์ในตัวของ Esoteric F05 หากเกนสูงมากไปเรื่องบรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียงก็จะหายไปเลย เคยเจอไหม อินทิเกรตแอมป์ที่ฟังออกมาทุกอย่างชัดมาก เนื้อเสียงได้ อิมแพ็คได้ แต่ฟังแล้วไม่เพราะเลย ไม่รู้สึกว่าอยากจะฟังเพลงเลย ลักษณะแบบนี้นั้นก็หมายความว่า บรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียงไม่มีเลยนั่นเอง

เท่าที่ได้ลองฟังเพลงหลายๆ แนวทั้งออร์เคสตร้า, โฟล์ค, ป๊อป, แจ๊ส, บลูส์ หรือจะออกไปทางแนวร็อก Esoteric F05 ตอบสนองแนวการฟังเพลงได้ทั้งหมด ไม่มีความรู้สึกว่าจะไม่เหมาะ ไม่แม็ตช์ ไม่เข้ากันเลย

สิ่งที่ทาง Esoteric F05 ถ่ายทอดออกมาคือความถูกต้องของเสียง คือเสียงที่ออกมาเป๊ะมาก ปราศจากสีสันใดๆ อย่างสิ้นเชิง ผมชอบในการวางรูปแบบของเวทีเสียงกว้างที่วางออกไปทั้งทางด้านกว้างและลึก Esoteric F05 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เวทีเสียงที่กว้างและลึกมากๆ สนามเสียงกว้างจริงๆ และโฟกัสแต่ละเสียงบนสนามเสียงที่กว้างนั้นก็ชัดเจนมาก ไม่ได้ชัดเจนแค่ระหว่างลำโพง ยังครอบคลุมไปถึงด้านกว้างและด้านลึกเช่นกัน ยิ่งใช้คู่กับลำโพง Totem Signature One จึงเด่นในเรื่องนี้ เหมือนได้ยินเสียงแบบสามมิติเลย

รายละเอียดของย่านความถี่เสียงสูงนั้นเหนือชั้นมากๆ สำหรับ Esoteric F05 ใส โปร่ง เนื้อเสียง ไดนามิกส์ ครบและชัดเจน อิมแพ็คของย่านความถี่เสียงสูงให้โดดเด่นกว่าอินทิเกรตแอมป์หลายตัวที่ผมเคยฟังมาก่อน

เสียงร้องที่มีเสน่ห์อย่างมาก จะบอกว่าถ้าต้องการหาเสียงร้องที่มีความเป็นกลางค่อนข้างสูง ผมฟังเพลงเสียงนักร้องหลายๆ ท่าน Esoteric F05 ถ่ายทอดเสียงร้องออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น อินทิเกรตแอมป์บางรุ่นจะติดลักษณะเสียงที่ค่อนข้างดุดัน พอไปฟังเสียงนักร้องที่ไม่ได้ใช้พลังของเสียงแต่เน้นถึงความออดอ้อน หวานๆ เสียงก็จะยังติดความดุดันมาด้วย หรืออินทิเกรตแอมป์บางตัว จะไม่เน้นเรื่องเนื้อเสียง หากฟังเพลงร้องของนักร้องที่คีย์เสียงต่ำ เนื้อก็จะไม่ได้ ไม่ได้ยังไม่พอ ยังติดเรื่องความกระชับและรายละเอียดที่ยังถ่ายทอดออกมาไม่หมดอีก

Esoteric F05 ไม่ได้มีข้อบกพร่องตามลักษณะข้างต้นเลย คีย์เสียงร้องเป็นอย่างไรก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างนั้น หากนักร้องที่เน้นพลังของเสียงมากหน่อย เสียงใหญ่ หนา ก็ให้โทนเสียงออกมาอย่างนั้น บทนักร้องที่ไม่เน้นพลัง แต่เด่นในรายละเอียด เน้นเทคนิครายละเอียดในการร้องในตัวโน้ต Esoteric F05 ก็เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน สังเกตจากรายละเอียดของเสียงร้องที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเสียงร้องที่พร้อมจะเปิดเผยในทุกรายละเอียดของเสียง ผมประทับใจในไดนามิกส์ของเสียงร้องที่ Esoteric F05 ถ่ายทอดออกมา ทำได้อย่างดีเยี่ยมเลย เปิดเผยและปล่อยออกมาได้อย่างดี ไม่มีลักษณะเก็บอาการ คือฟังแล้วซอฟต์ๆ นุ่มๆ นักร้องจะเน้นลีลาแบบไหน Esoteric F05 ก็ถ่ายทอดออกมาอย่างนั้น

ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจจะกังวลว่า Esoteric F05 ด้วยกำลังขับ 120 วัตต์จะน้อยไปหรือเปล่า เบสจะออกมานุ่มๆ ไหม แรงปะทะ ความดุดันจะมีหรือเปล่า หรือจะออกไปทางซอตฟ์นุ่มๆ เน้นฟังไปเรื่อยๆ มากกว่า

ช่วงแรกผมก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน แต่พอเปลี่ยนมาฟังเพลงจากแผ่นซีดี Three Kingdoms Resurrection Of The Dragon กลับสร้างความประหลาดใจอย่างมากเพราะทำได้อย่างไม่มีที่ติเลย แต่นั่นหมายถึงการแม็ตช์กันระหว่างสายไฟเอซี ขนาดสายลำโพงและลำโพงที่นำมาขับด้วยเช่นกัน เพราะคุณภาพด้านความถี่ต่ำๆ นั้น สายไฟเอซีที่ต่อใช้งานกับตัว Esoteric F05 ค่อนข้างมีผลค่อนข้างมากทีเดียว ขนาดสายลำโพงก็จะต้องใช้สายลำโพงขนาดใหญ่เช่นกัน หน้าตัดไม่ควรต่ำกว่า 6 sq.mm และท้ายที่สุดก็คือเรื่องของลำโพงที่ต่อใช้งานต้องแม็ตช์กับ Esoteric F05 ไม่ควรใช้ลำโพงขนาดใหญ่ที่โหดและหินมากนัก ลำโพงที่ผมใช้ร่วมทดสอบกับ Esoteric F05 จะมีสองรุ่นคือ Totem Signature One และ Audiospace LS 5/9

เมื่อทุกอย่างแม็ตช์ลงตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเบสจาก Esoteric F05 เลย จากแผ่นซีดี Three Kingdoms Resurrection Of The Dragon ให้พลังเสียงออกมาดุดัน แน่นมากๆ ต้องอธิบายก่อนว่า แผ่นนี้ผมฟังอินทิเกรตแอมป์มาหลายๆ ตัวจะเจอปัญหาสามอย่างที่สัมผัสได้ เรื่องแรกคือไดนามิกความดุดันยังไม่หนักและดุดันพอ เรื่องที่สองคือความหนักแน่นของตัวโน้ตของเสียงกลองแต่ละใบนั้นหนักแน่นอย่างไร เรื่องที่สามก็คือการคุมเรื่องรายละเอียดต่างๆ ช่องไฟต่างๆหลุด และจะออกไปทางเบลอๆหน่อย

ซึ่งในสามเรื่องข้างต้น Esoteric F05 นั้นให้ออกมาดีมากๆ ให้ออกมาอย่างไม่มีที่ติเลย ไดนามิกส์ความดุดันให้ออกมาจนกลัวว่าดอกลำโพงแทบจะหลุดออกมาหรือเปล่า หัวโน้ตที่หนักแน่น คมชัดเป๊ะ มวลเสียงกลองก็แยกแยะออกมาตามแต่กลองแต่ละใบ สเกลเสียงของเสียงกลองก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน เสียงกลองจึงฟาดออกมาอย่างเต็มที่ ไม่มีการกั๊กหรือออกไปทางนุ่มเลย รายละเอียดเสียงก็ยังถ่ายทอดออกมาได้อย่างครบถ้วน ยิ่งบางแทร็ก สนามเสียงกว้างและลึก จะได้ยินรายละเอียดเสียงๆ ต่างหยุมหยิมระยิบระยับเลย ไดนามิกส์ของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่ให้ออกมา ฟังแล้วรู้สึกถึงกำลังสำรองของ Esoteric F05 ที่เหลือเฝือมากๆ

แต่คุณภาพข้างต้นจะเป็นเรื่องไร้ค่า ถ้าอินทิเกรตแอมป์ตัวนั้นไม่สามารถให้บรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียงออกมาได้ อินทิเกรตแอป์ตัวนั้นจะฟังเพลงไม่เพราะเลย เพราะส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ตัดสินใจว่าอินทิเกรตแอมป์สักตัวหนึ่งจะน่าซื้อน่าครอบครองหรือเปล่า นั่นก็คือฟังเพลงแล้วรู้สึกว่าเพลงเพราะน่าฟังมากมายขนาดไหน สองสิ่งที่จะทำให้อินทิเกรตแอมป์ฟังเพลงเพราะแน่ๆ ก็คือบรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียงต้องมีเสียก่อน ก่อนจะมั่นใจว่าให้ได้แน่ๆ อินทิเกรตแอมป์ตัวนั้นต้องมีเกนขยายที่ลิเนียร์และเกนเสียงไม่สูงเกินไป

ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอินทิเกรตแอมป์หรือเพาเวอร์แอมป์ที่มีเกนสูงๆ เพราะอินทิเกรตแอมป์หรือเพาเวอร์แอมป์ที่มีเกนสูงๆ ฟังเพลงไม่เคยเพราะเลย ประเภทบิดโวลุ่มไม่ได้มาก แต่เสียงดังเสียแล้ว ลองสังเกตดูว่าเสียงชัดจริง ทุกอย่างมีครบทั้งหมด แต่ฟังเพลงไม่เพราะเลย

Esoteric F05 เกนเสียงในภาคขยายนั้นไม่ได้สูงมากเกินไป อินทิเกรตแอมป์ที่เกนเสียงไม่ได้มากและมีความลิเนียร์สูง สังเกตได้ง่ายเลยคือ อาจต้องปรับระดับโวลุ่มสูงมามากหน่อย เสียงถึงจะออกมาเต็มห้อง ยิ่งมีฟังก์ชันปรับเกนแยกอิสระของแต่ละช่องอินพุต ทำให้อินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 เต็มไปด้วยบรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียง ฟังเสียงเครื่องเป่าทองเหลืองให้อารมณ์ออกมาดีมากๆ เสมือนว่านักดนตรีมาเป่าตรงหน้า ทุกอย่างออกมาครบถ้วนในทุกเสียงทุกรายละเอียด ทุกความรู้สึกที่จะต้องมีจะต้องให้ได้ ยิ่งใช้กับลำโพง Audio space LS 5/9 คุณภาพเสียงออกมาสุดๆ เลย

ส่วนในเรื่องคุณเสียงของภาคปรีโฟโนในตัว Esoteric F05 ซึ่งรองรับทั้งหัวเข็ม MM และ MC เครื่องเล่นแผ่นเสียงซึ่งผมได้ลองต่อเล่นนั้นจะมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง VPI Prime Signature หัวเข็ม Dynavector DV17 DX และ Nottingham Interspace Junior หัวเข็ม Soundsmith

เท่าที่ลองมานั้น ผมไม่เคยกังวลเรื่องเกนขยายมากนัก อย่างที่บอกว่าตัว Esoteric F05 สามารถปรับเกนอินพุตได้ หากพบว่าเสียงเบาก็สามารถปรับเกนเสียงได้อีก แต่หากเป็นหัวเข็ม MC ภาคปรีโฟโนของ Esoteric F05 อาจจะมีข้อจำกัดสักหน่อย ตรงที่รองรับโหลดอิมพีแดนซ์แค่ 100 โอห์ม บางครั้งหากเล่นแผ่นเสียงหัวเข็ม MC ก็ต้องดูด้วยว่าแม็ตช์กับหัวเข็มที่ใช้หรือเปล่า ถ้าหากเปรียบเทียบกับปรีโฟโนนอกอย่าง Parasound JC3 ซึ่งใช้คู่อยู่กับเครื่องเล่นแผ่นเสียง VPI Prime Signature ก่อนหน้านี้นั้น ปรีโฟโน Parasound JC3 จะปรับได้ละเอียดมากกว่า  

แผ่นเสียงที่คุ้นเคยอย่าง Holly Cole Trio-Don’t Smoke in Bed, Showcase Opus3, John Coltrane and Johnny Hartman บอกตรงๆ ว่าการมีปรีโฟโนอย่าง Parasound JC3 นั้นให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าภาคปรีโฟโนในตัว Esoteric F05 แต่การใช้ภาคปรีโฟโนในตัว Esoteric F05 หากไม่ได้เทียบก็จะไม่ค่อยบั่นทอนให้รู้สึกว่าชอบน้อยลง เพราะหากพิจารณาถึงคุณภาพเสียงแล้ว การแยกแยะรายละเอียดเสียงนั้นทำได้ค่อนข้างดีมาก เสียงกลางจะค่อนข้างโดดเด่นกว่า เสียงร้องยังคงน่าฟัง เพียงแต่ด้านความถี่เสียงสูงที่ฟังแล้วจะลดรายละเอียดของเสียงลงเล็กน้อย ไดนามิกส์ของย่านความถี่เสียงสูงก็ฟังดูซอฟต์นิดหน่อยและเบสที่ออกนุ่มกว่า แต่ไม่ได้รู้สึกว่าจะฟังไม่ได้เลย

แต่อย่างน้อยภาคปรีโฟโนในตัวของ Esoteric F05 ทำให้การฟังเพลงจากแผ่นเสียงยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างดี ไม่ได้เร่งเร้าให้ต้องหาปรีโฟโนนอกแต่อย่างไร ถ้าเรามีเครื่องเล่นแผ่นเสียงในระดับราคาต่ำกว่าแสนและใช้หัวเข็ม MM แทบไม่จำเป็นต้องหาปรีโฟโนนอกมาเสริมในซิสเต็มอีกอย่างไร

แต่หากใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับแสนกว่าขึ้นมา และใช้หัวเข็ม MC คุณภาพดีๆ อาจจะพบว่าภาคปรีโฟโนในตัว Esoteric F05 นั้นจะมีข้อจำกัดในความหลากหลาย การใช้ปรีโฟโนดีๆ ภายนอกน่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่า

Esoteric F05 อินทิเกรตแอมป์ที่ควรค่าแก่การครอบครอง

แม้ว่าราคาค่าตัวของอินทิเกรตแอมป์ Esoteric F05 จะดูสูงไปเมื่อเทียบกับกำลังวัตต์ที่ให้ออกมาแค่ 120 วัตต์ที่ 8 โอห์ม แต่พอได้ลองเล่นมารู้สึกได้เลยว่าพละกำลังนั้นให้มากกว่า 120 วัตต์ค่อนข้างมาก เสมือนว่ากำลังขับให้ออกมามากกว่า 200 วัตต์

คุณภาพเสียงที่เป็นกลางของ Esoteric F05 พร้อมจะบ่งบอกคุณภาพเสียงจากซิสเต็มและส่วนประกอบอื่นๆของซิสเต็มได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซอร์สต่างๆ ลำโพง สายนำสัญญาณ สายไฟเอซี และสายลำโพง ใช้อะไรเสียงก็ออกมาตามนั้น Esoteric F05 ไม่ได้บิดเบือนหรือเติมแต้มลงไปอะไรเพิ่มเติมอีก การเลือกสายไฟเอซี สายนำสัญญาณและสายลำโพงสำหรับ Esoteric F05 ต้องละเอียดและใส่ใจเป็นพิเศษเลย

Esoteric F05 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้ทั้งพลังและความไพเราะ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย สามารถตั้งปรับเซ็ตให้แม็ตช์ให้เหมาะสมกับซอร์สต้นทางได้ทั้งหมด จะใช้ในลักษณะเพาเวอร์แอมป์หรือปรีแอมป์ก็ทำได้เช่นกัน และเป็นอินทิเกรตแอม์ตัวแรกที่ผมประทับใจมากๆ จนไม่อยากจะคืนและจำยอมต้องเก็บไว้ใช้อ้างอิงในการทำงานต่อ เพราะยอมจำนนต่อคุณภาพดีๆ ที่ซ่อนเร้นในตัว Esoteric F05 มากมายนั่นเอง

แนะนำเป็นอย่างยิ่งนี่คืออินทิเกรตแอมป์ระดับท็อปคลาสที่ใช้หม้อแปลงภาคจ่ายไฟแบบ EI ให้เสียงที่เต็มไปด้วยพละกำลังและความไพเราะมากมาย  ลองฟังครับ แล้วจะหลงใหลในเสียงเหมือนอย่างผม. ADP

ราคา 450,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Inventive AV
โทร. 0-2238-4078-9