Nordost ได้ค้นหาวิธีแก้ปัญหานี้ ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ในระดับนวัตกรรม ที่มีชื่อว่า “QPOINT Resonance Synchronizer” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่ซิงก์ mechanical resonance ของอุปกรณ์ทุกชิ้นเข้าหากัน หมายความว่าเมื่อ mechanical resonance เกิดการ synchronize กัน การทำงานของอุปกรณ์ก็จะมีการประสานกันดีขึ้น ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้น เปรียบเสมือนกับการทำงานเป็นทีม หรือวงนักร้องประสานเสียง 

QPOINT มีลักษณะทรงกลมแบนบาง การใช้งานก็นำ QPOINT สอดไว้ใต้เครื่อง หรือถ้าใต้เครื่องไม่มีพื้นที่ให้สอดเข้าไปได้ ก็สามารถนำไปวางบนเครื่อง โดยได้ออกแบบแผ่นกันรอยให้มาใช้งานร่วมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องเกิดการกระทบกับตัว QPOINT

สำหรับตำแหน่งที่วางก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ QPOINT อย่างมาก ทาง Nordost แนะนำว่าให้ไปหารูปภายในเครื่องของเครื่องเสียงรุ่นที่ต้องใช้กับ QPOINT เพื่อดูว่าตำแหน่งไหนมีแผงวงจรค่อนข้างหนาแน่นมากที่สุด และไม่ใช่ที่ภาคเพาเวอร์ซัพพลาย แต่เป็นตำแหน่งแผงวงจรของเครื่องที่เป็นที่อยู่ของอุปกรณ์ประเภทคาพาซิเตอร์, รีซิสเตอร์ หรือวงจรขยายสัญญาณต่างๆ ซึ่งตรงนั้นคือตำแหน่งที่จะใช้ QPOINT ไปจัดระเบียบให้กับ mechanical resonance

QPOINT จะมีปุ่มเลือกโหมดอยู่ 2 โหมด แสดงด้วย LED สีเขียว และ LED สีฟ้า ซึ่งทั้งสองโหมดนี้จะช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้น แต่ว่าทั้งสองโหมดก็จะให้ลักษณะของเสียงที่ไม่เหมือนกัน ในการใช้งานให้ทดลองดูว่า ในแต่ละโหมดให้เสียงเป็นอย่างไร และผู้ใช้ชอบเสียงจากโหมดสีไหนมากกว่า

ในแพ็กเกจของ QPOINT จะประกอบด้วย QPOINT, แผ่นกันรอย และปลั๊กไฟที่เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับ QPOINT ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสามชิ้นนี้ก็สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ที่ออกแบบมาดังรายละเอียดในเบื้องต้น 

ทาง Nordost แนะนำให้ใช้ QPOINT หนึ่งตัวต่อเครื่องเสียงหนึ่งชิ้น ซึ่งในกรณีที่ต้องใช้งาน QPOINT จำนวนหลายตัวก็ต้องเสียบสายไฟของ QPOINT ตามจำนวนที่ใช้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ QPOINT ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทาง Nordost จึงได้ผลิต Linear Power Supply ที่มีชื่อว่า “QSOURCE” ออกมาให้ใช้งานร่วมกัน 

QSOURCE เป็น Linear Power Supply ระดับพรีเมียม ผลิตมาเพื่อแก้ปัญหาการเชื่อมต่อสายไฟของ QPOINT ในกรณีที่ต้องใช้งานหลายๆ เครื่อง ซึ่งภาคจ่ายไฟของ QPOINT เดิมๆ นั้นเป็นแบบ Switching mode อีกทั้งภาคจ่ายไฟแบบ Switching mode ก็มีปัญหาในเรื่องการปล่อย noise เข้าไปในระบบ ทำให้ลดทอนคุณภาพเสียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโฟกัส ความใสกระจ่าง ฯลฯ ดังนั้น การออกมาของ QSOURCE จึงส่งผลดีต่อคุณภาพโดยรวมของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งานด้วย

QSOURCE มีรูต่อ 5V จำนวน 4 รูเพื่อใช้งานร่วมกับ QPOINT โดยภายในของ QSOURCE บรรจุไว้ด้วยหม้อแปลงขนาดใหญ่ (power transformer) สามารถจ่ายกระแสไฟได้อย่างเพียงพอ มีระบบระบายอากาศแบบนำพาความร้อนขึ้นข้างบน (conventional cooling system) แล้วอากาศเย็นจะวิ่งเข้ามาจากทางด้านล่าง เป็นระบบ Fanless Cooling System ทำให้ไม่เกิด noise และจากการที่หม้อแปลงมีขนาดใหญ่จึงสามารถจ่ายไฟเพิ่มได้อีก 2 ช่อง ซึ่งช่องต่อ 2 ช่องนี้สามารถปรับสวิตช์เลือก voltage ได้ 4 ค่า คือ… 9V, 12V, 19V, 24V ซึ่ง 9V และ 12V ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ประเภท Network เช่น Switching Network หรือ Router ซึ่ง 12V ก็ยังสามารถนำไปใช้กับ DAC ได้ ส่วน 19V ออกแบบมาให้ใช้กับ Roon Nucleus โดยตรง หรืออุปกรณ์ที่ใช้ไฟ 18V ก็สามารถนำมาใช้งานได้เช่นเดียวกัน สำหรับ 24V ก็ใช้งานร่วมกับโฟโนสเตจ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ไฟ 24V

โดยสรุป QSOURCE ก็คือ Power Supply Chain ที่ทำให้อุปกรณ์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง QPOINT และ QSOURCE ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีมาออกแบบเพื่อแก้ปัญหาให้กับอุปกรณ์เครื่องเสียง เพื่อให้การทงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น และเกิดผลลัพธ์โดยตรงกับคุณภาพเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน. ADP

หรับท่านที่สนใจการทงานของ Nordost QPOINT และ QSOURCE 

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…
โชว์รูม บริษัท เดโค 2000 จกัด ชั้น 4 อมรินทร์ พลาซ่า
โทร. 0-2256-9700

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 274