ธรรมนูญ ประทีปจินดา :

ทีวีเป็นแหล่งความบันเทิงในบ้าน ชิ้นแรกของผู้คนมาทุกยุค บ้านยุคนี้ยังไง ก็ต้องมีทีวีอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง ปัจจุบันทีวีจอแบนเข้าครอบครองตลาดจนสิ้น ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีด้านภาพนั้นไปไกล แต่ละแบรนด์แข่งกันออกผลิตภัณฑ์ ด้วยเทคโนโลยีภาพที่สุดล้ำและมีดีไซน์ที่สวยงาม ส่วนจอนั้นบางแล้ว บางอีก จะบางไปไหน จาก LCD, LED จนถึง OLED ในปัจจุบัน ภาพให้รายละเอียดสูงระดับ 4K ราคาหลักหมื่น ซื้อมาทั้งๆ ที่ไม่มีภาพ 4K ดูหรอก…. 

 ในทางกลับกัน ไม่น่าเชื่อว่าระบบเสียงของทีวี สมัยนี้กลับถอยหลังเข้าคลอง ทีวีจอแบนทุกจอเสียง ห่วยแตกเป็น “แมว” ไม่มีทางสู้ทีวีเมื่อยี่สิบปีก่อน ได้เลย แม้จะอ้างเทคโนโลยีเสียงดิจิทัลอะไรสารพัด มันก็ไม่ใช่อยู่ดี ต้องยอมรับว่า เมื่อจอบางแบบนี้จะ เอาเนื้อที่ส่วนไหนไปบรรจุลำโพงดอกโตๆ แอมป์ กำลังสูงๆ ฝันไปเถอะ เขาให้ความสำคัญเท่ากับ ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีจอภาพ ก็เขาขายจอนี่นา ไม่ใช่ขายเครื่องเสียง ร้อยทั้งร้อยเสียงจากทีวีจอแบน นั้นไม่เข้าขั้นเอามากๆ ให้ตายสิ เหมาะแค่ดูข่าวหรือ เกมโชว์ ดู The Mask ยังไม่สนุกเลย 

พูดแบบนั้นได้ไง ก็เพราะถ้าจะดูอะไรที่มาก กว่านั้น อย่างเช่น ดูหนัง หรือคอนเสิร์ตล่ะ ถ้าซีเรียส ก็คงดิ้นรนหาTheater in the box หรือหาแอมป์ เอวีมาต่อลำโพงให้รอบตัว เปิดให้ตูมตามไปซะ เพราะผู้ผลิตจะไปทำดีทั้งภาพและเสียงทำไม สู้แยกขายไม่ดีกว่าเหรอ 

Why Soundbar…? 

เอ่อ… ที่ทางก็แค่นี้ ใช้ลำโพงหลายตัว แล้วจะวางตรงไหน สายต่อก็มั่วมาก รกรุงรัง ไร้สายได้ไหม ดูหนังดี ฟังเพลงดี ทำไมต้องยาก… ง่ายกว่านี้มีไหมอะ 

อะไรน่ะเหรอ ก็ลำโพงสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพเสียงของทีวีให้ดีขึ้น ลำโพงที่มีแอมป์ ในตัวที่เรียกว่า Soundbar ถือเป็นผลิตภัณฑ์ เครื่องเสียงที่ได้รับความนิยมมากในสมัยนี้ เรียกว่าเป็นตัวเลือกระดับต้นๆ ของการอัพเกรด ระบบเสียงของจอทีวี โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ในระบบมากมายอะไร จะดีไหม ถ้าทีวีคือแหล่ง บันเทิงชิ้นเดียวในบ้าน ไม่ว่าอยู่คอนโด หรือใน ห้องนั่งเล่นของบ้านเดี่ยว เพราะมีกี่บ้านที่จะทุบ โรงรถมาทำห้องฟัง แล้วยอมเอารถไปตากแดด 

ทีวีสามารถเป็นศูนย์กลางของความบันเทิง ในบ้าน ดูข่าว ละคร เกมโชว์ ดูหนังให้กระหึ่ม ร้องคาราโอเกะ ฟังเพลงแบบ Streaming เล่นไฟล์ เพลงไฮเรสด้วย เชื่อหรือไม่? 

Internet is all around

สมัยนี้ไม่ว่าจะอยู่อาศัยอยู่บนคอนโด หรืออย่างผมในชุมชนหมู่บ้านขนาดกลางย่านชานเมือง สภาพแวดล้อมดี บรรยากาศร่มรื่น มีบ้านอยู่ราวสามสี่ร้อยหลัง แม้อยู่ห่างไกล เราหาได้ด้อยโอกาสที่จะเข้าถึงเทคโนโลยี IT ได้ไม่ยาก เพียงเปิดกว้างผู้ให้บริการ Hi-Speed Internet ทั้งสี่ค่าย (AIS, TRUE, 3BB, TOT) เข้ามาวางข่ายสาย Fiber Optic เพื่อให้ลูกบ้านเลือกใช้ ก็เป็นอันว่าปัจจุบันคงมีอินเทอร์เน็ตกันทุกบ้านแล้ว และเชื่อแน่ว่า คุณผู้อ่านก็คงไม่หนีจากนี้ ที่บ้านต้องมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในบ้าน จะเป็นระบบโฮมเน็ตเวิร์กเต็มรูปแบบ คือ มี NAS อยู่ในระบบ หรือ CLOUD service 

จะดีไหม ถ้าแหล่งบันเทิงเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายกันทั้งบ้านในแบบ Multi-Room อยู่ที่ไหนของบ้านก็บันเทิงได้

BLUESOUND: PULSE SOUNDBAR

ผลิตภัณฑ์ในอนุกรมของ BluesoundPULSE ที่เป็นลำโพงแอ็กทีฟประเภท Smart Speaker ในรูปแบบ Soundbar ที่มีDNA ของ Bluesound PULSE ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ หาใช่Soundbar พื้นๆ ที่มีดื่นๆ 

Bluesound Pulse Soundbar มีฟีเจอร์ที่ทำอะไรได้เยอะ อย่างเช่น มีช่องเสียบ Analog Input, สามารถสตรีมไฟล์เพลงไฮเรสได้ด้วยตัวเอง, รองรับไฟล์หลายฟอร์แมต (FLAC, MQA, WAV, AIFF, Dolby Digital), รองรับไฟล์ไฮเรสทะลุถึง 24/192 ทีเด็ดอยู่ตรงเล่น MQA ได้ฉลุย นับว่าเป็น Soundbar ตัวแรกของโลกที่เล่นไฟล์ Hi-Res รวมถึง MQA ซึ่งเป็นอนาคตของโลกคนรักเสียงดนตรีไฮเรสจากบริการสตรีมมิ่งที่มีเพลงคุณภาพสูงหลายล้านอัลบั้ม หรือจะฟังเพลงจาก Internet radio อีกนับหมื่นสถานีจากทั่วโลก ฟีเจอร์เทพเช่นนี้อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีลำโพงแอ็กทีฟแบบ Soundbar ที่มาพร้อมกับขุมพลังมหาศาล ให้เสียงใหญ่คับห้องแบบไม่เกรงใจใครเสียด้วย

Connectivity

เมื่อมีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในบ้านกันทุกบ้านแล้ว ก็เพียงเราจับมันมาเชื่อมโยงกับระบบเสียงจาก Soundbar ฉลาดๆ อย่าง Bluesound Pulse Soundbar ซึ่งจะติดปีกให้กับมัน คุณจะลืม Soundbar ยุคเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าจะเรียกมันว่าSoundbar เช่นสินค้าตัวอื่น เพราะว่าหน้าตามันก็ไม่ต่างจากแบรนด์อื่นก็คงไม่ผิด ก็มันเรียก Soundbar หน้าตาก็ต้องแบบนี้สิ แต่ก็คงคิดว่าไม่แฟร์นะที่จะเรียกว่า Soundbar เฉยๆ ทำไมพูดเช่นนั้น งงล่ะสิ ที่ว่ามานี้ก็เพราะ Soundbar ทั่วไปก็เป็นลำโพงแอ็คทีฟดาดๆ ตัวหนึ่งที่ต้องอาศัยเครื่องเล่นมาเป็นต้นทาง ใส่อินพุต อะไรก็ออกมาแบบนั้น ไม่สามารถเล่นหรือทำอะไรได้ด้วยตัวเองหรอก ซึ่ง Bluesound Pulse Soundbar ฉลาดกว่านั้น เพราะเชื่อมต่อด้วยโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทั้งสายและไร้สาย Gigabit Ethernet RJ45/802.11 b/g/n, Wi-Fi, aptX Bluetoothจึงคล่องตัวในการใช้งานมาก ทั้งยังเผื่อไว้เชื่อมต่อกับ Smart Devices ตัวอื่น ก็แปลว่ามันสามารถสตรีมไฟล์เพลงจากที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจาก Thumbdrive, คลังแสงในบ้าน หรือแม้จากคนละซีกโลก ปฏิบัติการและควบคุมด้วย BluOS อันแสนฉลาด ยังๆ ยังไม่พอ Bluesound ยังเป็นพันธมิตรที่ดีของ Roon ซึ่งดีงามมาก

Roon ประกอบด้วยการทำงานสองส่วน ในส่วนแรกทำหน้าที่จัดการเพลงในคอลเล็กชั่นของคุณ ซึ่งจะจัดการเครื่องมือที่อาจจะเป็น Mac หรือ Windows PC หรือ server แล้วก็ไม่ต้องเอ่ยถึงความดีงามของยุคดิจิทัลครองโลก ที่สามารถคุณเข้าถึงฐานข้อมูลมหึมาที่รวบรวมข้อมูลจาก libraries ทุกแหล่งในวงเน็ตเวิร์กเดียวกัน ไม่ว่าจะNAS หรือ USB HDD รวมถึง Tidal Streaming Service และ Internet Radio รวบข้อมูลที่เกี่ยวข้องอ้างอิงจากฐานข้อมูลดิจิทัลใหญ่บนโลกไซเบอร์มาอยู่ในหน้าต่างเดียวกัน แล้วเล่นกลับด้วย Roon Ready devices ซึ่งจะครบวงจรก็ตรงนี้หลับตานึกภาพถึงสมัยวัยรุ่นที่ปลื้มไปกับการได้สัมผัสปกอัลบั้มจากแผ่นดำทำให้ Pulse Soundbar กลายเป็น Roon Endpoint ชั้นดีได้ โดยจะได้อานิสงส์เต็มๆ ไปกับการเข้าถึงจิตวิญญาณของการเสพสื่อดนตรีแบบเต็มรูปแบบ เพียงแต่โหลดแอพRoon Remote มาติดตั้งบน Smart Devices หรือคอมพิวเตอร์ก็ได้

BluOS

BluOS ระบบปฎิบัติการซึ่งถูกพัฒนาจากเทคโนโลยีของ NAD Electronics และ Bluesound ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการ ควบคุมสื่อทางเสียงเพลงบน Home Network, ทำให้คุณเข้าถึงคลังแสง,สร้าง Playlist, สั่งการให้เครื่องเล่นสตรีมไฟล์lossless msic ในระดับมาตรฐาน 24-bit/192kHzรวมถึงแหล่งเพลงสุดขอบฟ้า Cloud music serviceหรือ Internet radio station จาก BluOS-enabled music system ทุกเครื่องในบ้านได้ จะสั่งทีละเครื่องหรือหลายๆ เครื่องพร้อมกันก็ได้ ทีนี้ก็ต้องหาตัวที่จะคุยกับมัน โดยทำตัวเป็น Control Point ก็ด้วยแอพที่ต้องติดตั้งบน Smart Devices เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมฯ ก็ยังได้

Streaming Service

ฟีเจอร์ของเครื่องเสียงสมัยใหม่ที่ถือเป็นฟีเจอร์ที่ “ต้องมี” ไม่เว้นแม้ Soundbar ฉลาดๆ ตัวนี้ ทีเด็ดก็ตรงรองรับการเล่นเพลง Streaming Service ระบบบอกรับสมาชิกที่ให้เสียงดีระดับที่ดีเยี่ยมไร้ข้อกังขา จึงจัดเต็มกับค่ายหลัก WiMP, Slacker Radio, Qobuz, HighResAudio, JUKE, Deezer, Murfie, HDTracks, Spotify, TIDAL, Napster เพื่อให้คุณเข้าถึงการฟังเพลงแบบไร้ขีดจำกัดหลายล้านอัลบั้มหลายสิบล้านแทร็ก “สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่น Streaming service อย่าง TIDAL คิดว่าคุณพลาดอะไรไปเยอะเชียวนะ” 

MQA (Master Quality Authenticated) music supported

Bluesound พันธมิตรลำดับต้นๆ ของ MQA (Master Quality Authenticated) ฟอร์แมตมาตรฐานใหม่ของไฟล์เพลง จากเดิมซึ่งมี PCM และ DSD เป็นการปฏิวัติการส่งผ่านไฟล์ระดับ Studio Master ตั้งแต่ต้นน้ำในสตูดิโอมาสู่ผู้ฟังในบ้าน เครื่องเล่นของ Bluesound ทุกตัวสามารถถอดรหัส (audio renderer) ของ MQA ให้เราได้ยินด้วยคุณภาพเดียวกันกับที่ศิลปินและมาสเตอริ่งเอ็นจิเนียร์ในสตูดิโอได้ยินเลยทีเดียว เนื่องจากไฟล์ MQA มีขนาดเล็กมาก ซึ่งไม่ใช่เกิดการบีบอัด แต่เป็นฟอร์แมตใหม่ที่ใช้วิธี “พับแล้วคลาย” โดยที่คุณภาพเสียงยังคงเป็นเช่น Studio Master ที่ได้อานิสงส์เต็มๆ ก็น่าจะเป็น Streaming service อย่าง TIDAL นี่แหละ เพราะสามารถสตรีมไฟล์ Hi-res ได้ง่ายขึ้น ทำให้ไม่กินแบนด์วิธด้วย หมายถึงจะรองรับการเติบโตของธุรกิจ Cloud Service อย่างง่ายดายทีเดียว ไม่ว่า MQA (Master Quality Authenticated) จะมาในรูปใด ซึ่งขณะนี้ TIDAL MASTER ก็ถือเป็นทีเด็ดที่มาก่อนใคร ที่นำเสนอไฟล์ไฮเรสโดยวิธีสตรีมจากฐานปฏิบัติการในนอร์เวย์จัดให้แล้ว Bluesound ก็เล่นได้สบายใจไป ให้เสียงทะลุทะลวงเกินกว่า CD ไปไกล เรียกว่าล้ำสุดๆ แล้ว 

Check in

บนตัวถังอะลูมิเนียมรูปทรงโค้งมนด้านหลัง ให้ผลเรื่องแอคูสติกส์ ความยาวของตัวตู้ราวเมตรกว่าๆ และค่อนข้างหนา ติดตั้งไว้ด้วยทวีตเตอร์จำนวน 2 ตัว ขนาด 3/4” (19 mm), มิดเรนจ์ซอฟต์โดมจำนวน 2 ตัว ขนาด 2” (50 mm), วูฟเฟอร์กรวยกระดาษ ขอบยาง จำนวน 2 ตัว ขนาด 4” (102 mm) รวมไดรเวอร์ทั้งหมด 6 ตัว กับ passive radiators อีก 2 ตัว ให้กำลังขับ 120 วัตต์ ภาคขยายแบบ Direct Digital power ซึ่งบอกเลยว่า แทบไม่มี Soundbar ตัวใดเทียบได้ในเรื่องพละกำลัง ส่วนถ้ายังกระหึ่มไม่พอก็สามารถเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ภายนอกได้ทั้งระบบใช้สายและไร้สาย แต่ต้องเป็นของ Bluesound เอง

มีช่องเสียบ RJ32 (LAN cable), Optical, RCA, USB (FAT32)เผื่อต้องการเล่นไฟล์ตรงๆ ก็ใช้เป็น input ได้ ซ่อนอยู่ด้านหลังที่จะเชื่อมต่อกับทีวี อย่าแปลกใจว่า ทำไมไม่มีช่อง HDMI ทาง Bluesound อธิบายว่า ไม่ต้องการให้ยุ่งยาก เพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะมี HDMI Output ช่องเดียว และยังไงเสียเครื่องก็เชื่อมต่อด้วยทางอื่นที่รองรับถึง 24-bit/192kHz ได้อยู่แล้ว ใช้ HDMI ต่อกับระบบภาพอย่างเดียวไปเลยจะดีกว่า แต่ถ้าต้องการต่อกับเครื่องเล่นตรงๆ ก็ได้ ถ้ามีปัญหาเรื่อง Lip Sinc. ก็แก้ไขได้ เพราะมีตัวปรับ

Bluesound PULSE Soundbar เป็นระบบ 2 channel bar สามารถถอดรหัสระบบเสียง Dolby Soundtracks แต่จะ mix down ไปเป็นระบบสเตริโออยู่ดี อย่างไรก็ตามในอนาคตจะสามารถเชื่อมต่อระบบไร้สายกับ Pulse, Mini หรือ Flex เพื่อให้เป็นระบบMulti-Channel ได้ไม่ยาก จะเล่นเดี่ยว เล่นรวม คุมเดี่ยว หรือเปิดเหมือนกันทุกห้องได้ทุกอย่าง จะต่อกับซับวูฟเฟอร์ไร้สายก็ทำได้อยู่แล้ว เป็นการต่อยอดจากระบบ Multi-room อันเป็นฟีเจอร์ที่เป็น “ขนม” ของลำโพงฉลาดในสายพันธุ์ Bluesound PLUSE อันเป็น “สายแข็ง” ในวงการเครื่องเสียงสมัยใหม่ยุค Network Audio ครองโลก

สำหรับการติดตั้งถือว่าง่ายมาก มีอุปกรณ์ในการติดตั้งให้มาพร้อม โดยสามารถติดตั้งได้สองวิธี คือ… ยึดติดกับผนังใต้จอทีวีจะดีที่สุด หรือวางบนชั้นทีวีตรงๆ ซึ่งของผมเป็นทีวี LG กำลังดีเลย แต่ถ้าขาตั้งของทีวีสั้นกว่านี้ก็จะถูกบัง ที่เหลือก็เสียบสาย Lan แนะนำอย่างยิ่งใช้สาย Cat7 หรือ Cat8 ไปเลยเถอะ ดีกว่ากันเยอะ ให้ความเสถียรมากกว่าต่อแบบไร้สาย แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ไร้สายก็ไม่มีปัญหา จากนั้นก็ต่อสายไฟเพื่อจ่ายไฟเข้าเครื่องก็จบ พร้อมเล่นแล้ว

อย่าแปลกใจที่ไม่เห็นปุ่มหรือสวิตช์ใดๆ บนตัว Soundbar มีไฟ LED แสดงสถานะเปิดการทำงาน และจะเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงิน เมื่อการบู๊ตเครื่องเสร็จสิ้น แล้วก็รออัพเดตชั่วครู่ (ไฟกะพริบ) พออัพเดตเสร็จ จากนั้นก็คว้าปัจจัยที่หกของคนสมัยนี้ขึ้นมา อะๆ สมาร์ทโฟนตัวเก่ง เปิดแอพ BluOS จัดการ Sign in Tidal account เสียก่อน แล้วก็เชื่อมต่อกับ Noon NAS หาเพลงใน NAS ที่อยู่ในวง Lan เดียวกันอีกเครื่อง ก็มาตามนัด เห็นกันง่ายๆ จากนั้น Re-index เพลง รอนานหน่อย เพราะคลังแสงใหญ่เหมือนกัลล์ พอเสร็จก็เล่นเพลงกันได้แล้ว ง่ายสุดๆ

ทีนี้มาดูโหมดเซ็ตอัพกันต่อ Soundbar นี้มีการเซ็ตอัพเลือกโหมดเสียงได้ว่าจะดู TV, Music ฟังเพลง หรือ Movie ดูหนังแบบเน้นพลัง แล้วก็มีการเลือกความกว้างของเสียง เสริมให้เสียงกว้างโอบล้อมมากขึ้น3 ระดับ คือ… ปิด (สำหรับการฟังเพลง), Wide แบบปกติ และ Widerคือกว้างมาก จากนั้นก็มีการเลือกระบบการเน้นเสียงพูด Enhanced Dialog 3 ระดับ, โหมด Late Night สำหรับฟังเบาๆ ยามดึกไม่ให้รายละเอียดเสียงจม, Deep Bass เพิ่มเบสลึกไปรบกวนคนข้างห้อง,ปรับ Lip Sync Delay ให้เสียงพูดตรงกับจอ,ปรับทุ้มแหลมได้, เปิด/ปิดซับวูฟเฟอร์ ซึ่งพูดถึงตรงนี้ ตัว Soundbar มีช่อง Sub out ไว้ให้ต่อกับซับวูฟเฟอร์ได้ด้วย ซึ่งผมต่อกับ REL T5i (หากต่อกับ PULSE SUB จะ Sync กันเองโดยอัตโนมัติ), ปรับ Delayซับวูฟเฟอร์ให้เสียงซิงก์กับ Soundbar ได้ด้วย

Showtime

เริ่มแรกก็ทดลองฟังเพลงเป็นหลักครับ ต่อแบบใช้สาย LAN ที่ให้ความเสถียร เครื่องใช้ง่าย ตอบสนองเร็ว ดี เสถียร ไม่มีอาการเดี๋ยวหลุด เดี๋ยวหลุดให้กวนใจ จะมีเกี่ยงไฟล์ตรง DSD นิดเดียวที่ไม่เล่น แต่ไม่ซีเรียส เล่นง่ายด้วยแอพ ไม่ว่าจะเป็น Roon Remote appแต่ที่เน้นเห็นจะเป็น BluOS app ใช้งานง่าย เร็ว ไม่หน่วงหรือหนืด ไร้แฮงก์ ชอบตรงที่อัลบั้ม Tidal Master (MQA) แสดงให้เห็นบนหน้าจอเลยว่ามีอัลบั้มอะไรบ้าง ปกอัลบั้มมีไอคอน MQA แปะไว้ง่ายเลย บอกเลยว่าเสียงดีกว่าซีดีปกติเยอะ 

PULSE Soundbar ยังรองรับ Internet Radio ซึ่งทำให้คุณท่องโลกไปกับสถานีนับหมื่นสถานี อย่าง Tune In Radio และอื่นๆ อีกมากมายจริงๆ มีอะไรให้ค้นหา เสียแต่ว่ามีเวลาที่ใช้กับมันน้อยไป ฟังเพลงแว้บแรกก็ต้องว้าวออกมา “เฮ้ย นี่กำลังฟังเพลงจากลำโพง Active หรือฟะ จัดว่าเป็นลำโพง Soundbarเสียงดีที่สุดเท่าที่เคยฟังมา” โห! ตัวเดียวกินรวบเลยนะเนี่ย ที่พูดเช่นนี้ก็เพราะเชื่อว่าชุดเครื่องเสียงฟังเพลงดีย่อมดูคอนเสิร์ตหรือหนังได้ดีไปด้วยอยู่แล้ว เรียกว่าอย่างอื่นชิลๆ เลย จบการทดสอบ 555

แต่เนื่องจากเกรงว่าจะขัดใจคอ Videophileก็เลยยังจบไม่ได้ ต้องคุยกันเรื่องวิดีโอกันหน่อย ยอมรับว่าเป็นคนที่ชอบดูคอนเสิร์ตมากกว่าดูหนัง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ดูเอาเสียเลย เพียงแต่ไม่คลั่งไคล้กับหนังมากนักเท่านั้น หนังแอ็กชั่น ดูขำๆ, แอนิเมชั่นเนื้อหาเบาๆ เนื้อหาไม่หนัก, ไม่ดูหนังประเภทชีวิตบัดซบ หนังแหวะ ดูแล้วเครียด จะดูทำไม พอพูดถึงหนังแอนิเมชั่นก็ชอบอีก ถือว่ามีความเป็นเด็กอยู่ มีคนแซวว่า “เฒ่าทารก” คริ คริ ลองดูคอนเสิร์ตของพ่อโจหน้าจืด Joe Bonamassa – Live At The Greek Theatre โชว์ใหญ่เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะ Joe Bonamassa เป็นหัวเรือใหญ่ นำศิลปินนักร้องนักดนตรีระดับ worldclass ฝีมือเก๋ามารวมตัวกัน ทำให้โชว์ Three Kings ยิ่งใหญ่กว่าที่เราเคยเห็นจากโชว์ของ Joe Bonamassa เอง จากการที่ได้นักร้องสามสาวชาวออสซี่ ประกอบด้วย Mahalia Barnes (ลูกสาวของ Jimmy Barnes), Jade MacRae และ Juanita Tippins มาร่วมเวที

ซึ่ง Bluesound PULSE Soundbar ให้เสียงร้อง เสียงดนตรีหกสายที่เวิร์กมาก ได้จิตวิญญาณบลูส์สมบูรณ์แบบมาก 

คอนเสิร์ตของแม่นาง Regina Spektorสาวในชุดสี Chocking Pink ที่เสียงร้องของเธอเป็นเอกลักษณ์น่าฟัง PULSE Soundbar ถ่ายทอดให้เรารู้ว่า เธอเล่นเปียโน Steinway & Sons ให้เสียงที่เราฟังออกว่าต่างจากเปียโนทั่วไปอย่างไร เสียงร้องนี่ได้เลย PULSE Soundbar ทำให้ลืมชุดเครื่องเสียงชุดใหญ่ได้เลย

มาดูหนังบ้าง แม้ว่าไม่ใช่ชุดโฮมเธียเตอร์ที่มีลำโพงหลายตัวที่ต้องได้ชุดเครื่องเสียงที่ให้เสียงใหญ่ หนักแน่น จึงจะให้เสียงสมจริง ด้วยขนาดตัวตู้ที่ใหญ่เต็มหน้าจอทีวีในสัดส่วน 1073mm x 141mm x 70mm หนัง Musical อย่าง Beauty and the Beast, แอ็กชั่นอย่าง Avengers: Age of Ultron, John Wicks 2, 13 Hours, American Sniper, Lone Survivor, Need for Speed ที่เอ่ยชื่อมานี้ บันทึกเสียงมาดีมาก PULSE Soundbar ให้รายละเอียดได้ครบ สมบูรณ์ทุกมิติ ไม่ว่า Dialog หรือเสียงคำรามของเครื่องยนต์ เสียงกระสุนวิ่งผ่านอากาศข้างซ้าย กระทบเป้า ปลอกกระสุนหล่นที่พื้น ระเบิดตูมตรงนั้น แอมป์ที่ติดตั้งมาให้พลังเหลือเฟือ ไม่เครียดหรือเค้น ให้เสียงสบายๆ บทเจรจาทางวิทยุแทรกมากับเสียงปืน ไม่มั่ว ผมลองปิดซับฯ ดู ก็ไม่เห็นว่าขาดมากมายนัก เอาเป็นว่าไม่ใช้ซับฯ ก็ยังสบายๆ แต่ต้องเข้าใจว่าใส่ซับฯ ย่อมดีกว่า

Wrap Up

ใครก็ตามที่มองหาเครื่องเสียงสำหรับเสิรมเขี้ยวเล็บให้กับทีวีจอแบบตัวโปรด ก่อนตัดสินใจเลือกอยากให้ลองหาฟัง และคิดตาม ดังนี้…

ถ้าจะคิดค่าตัว Bluesound Pulse Soundbar ตัวนี้เป็น Soundbar ที่ติดตั้ง Node2 ราคาประมาณสองหมื่นมาด้วย หักออกก็จะเหลือลำโพงแอ็กทีฟกำลังขับ 120 วัตต์ แบบ Direct Digital powerตัวตู้อะลูมิเนียมที่ให้เสียงดีมีพลังและติดตั้งง่าย ถามว่า Soundbar ราคาสองหมื่นในตลาดก็คงมีเยอะ แต่จะได้คุณภาพเช่นที่ Bluesound Pulse Soundbarคงยาก หรือจะทำหน้าที่ Smart Speaker สมัยใหม่ได้สมบูรณ์แบบหรือไม่ 

แต่กับ Bluesound Pulse Soundbar สามารถให้เสียงที่ใหญ่ โอบล้อมด้วยบรรยากาศ มีกำลังสำรองเหลือเฟือ รองรับกับเสียงของภาพยนตร์สมัยใหม่ที่เน้นไดนามิกเรนจ์กว้าง ให้อิมแพ็คดุดัน ไม่มีอั้น นอกเหนือจากดูหนังได้มันถึงใจแล้ว เมื่อดูคอนเสิร์ตก็ให้ความสมจริงของชิ้นดนตรีดีมาก ที่เจ๋งก็ตรงที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบโฮมเน็ตเวิร์กด้วยระบบไร้สาย สามารถสตรีมไฟล์ Hi-Res 24-bit/192kHz จากคลังแสงส่วนตัวมาฟังได้แบบชิลล์ๆ ถึงตรงนี้ถ้าคุณมิได้มีของเยอะเท่าผม เราไม่ต้องคุยกันถึงไฟล์ Hi-Res ที่เก็บไว้ในคลังแสงส่วนตัวแล้วมั้ง ในเมื่อ TIDAL MASTERจัดไฟล์ MQA พร้อมกับไฟล์ CD อีกสี่ล้านอัลบั้มมาให้ฟัง เท่านี้พอไหม ง่ายสุดก็ตรงที่ส่งตรงถึงห้องนอนในระบบบุฟเฟ่ต์เหมาจ่ายรายเดือน จ่ายน้อยกว่าซื้อซีดีแผ่นหนึ่งเสียอีก จะฟังเมื่อไหร่ หรือจะฟังเท่าไหร่ก็ได้ ไม่อั้น แถมคุณภาพดีด้วย ซึ่งเมื่อ PULSE SOUNDBAR ได้ “กินของดี” ย่อมทำให้เสียงของ Soundbarหน้าตาธรรมดาๆ ติดปีกกลายเป็นเครื่องเสียงราคาแพงขึ้นไปอีกขั้นทีเดียว แล้วยังฟังเพลงได้ดีสุดๆ ประมาณว่ากลายเครื่องเสียงชั้นดี “ตัวเดียวกินรวบ” บังเกิดขึ้นในห้องนั่งเล่นของคุณ เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้านที่สมาชิกใช้ร่วมกัน ทั้งดูหนังฟังเพลง คาราโอเกะ เล่นเกม ในตัวเดียว แต่ถ้ามีห้องเดียวคงไม่ต้องการเครื่องเสียงตัวอื่นอีกแล้วมั้ง. ADP

ราคา 39,100 บาท 

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย 
บริษัท โคไน้ซ์ อีเล็คโทรนิค จำกัด โทร. 0-2276-9644

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 245