ชุมพล
ชุมพล มุสิกานนท์

Zensonice Gate & Zensonice Cloud: X
ปลั๊กราง Zensonice Gate และ สายไฟ Zensonice Cloud: X

หลังจากที่ Zensonice ประสบความสำเร็จในการทำสายไฟเอซี, สายลำโพง, สายสัญญาณ และจั๊มเปอร์ คุณภาพสูงราคายุติธรรม ใครที่ซื้อไปเล่นต่างก็พากันชอบอกชอบใจไปตามๆ กัน ล่าสุด Zensonice ได้ทำลำโพงวางขาตั้ง Fullrange ดอกเดียว ขนาด 4” ออกมาเขย่าวงการ แค่นั้นยังไม่พอ คุณแหลม ผู้ลึกซึ้งในศาสตร์แห่งสายไฟฟ้ายังได้ผลิตปลั๊กรางคุณภาพสูงออกมาให้ลูกค้าได้ทดสอบกันอีกด้วย โดยที่แนะนำว่า หากจะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควรใช้งานคู่กับสายไฟของเขาเอง รุ่น Cloud: X ที่จูนมาให้ได้พละกำลังเต็มๆ 

 ผมได้รับปลั๊กรางตัวนี้มาทดสอบ ดูจากรูปลักษณ์แล้วสวยงาม ถูกใจคนชอบไม้ เพราะตัวถังเป็นไม้สักเก่าแท้ๆ ไม่ใช่ MDF ปะผิววีเนียร์ ส่วนแผงหน้าที่เจาะยึดเต้ารับนั้นเป็นโลหะผสมบางอย่างเคลือบสีดำสวิตช์เบรกเกอร์ยี่ห้อ Eagle รุ่นเก่า ซึ่งหายากมากแล้ว รวมทั้งเต้ารับทั้งหมดเป็นของ Eagle ผลิตในสหรัฐ-อเมริกาแท้ๆ เคล็ดลับที่ทำให้ปลั๊กรางตัวนี้เสียงดีอยู่ที่สายไฟไวริ่งภายในที่ Zensonice ออกแบบมาเป็นพิเศษ ใช้สายผสมกันหลายชนิด แข็งมากๆ นอกจากนั้นยังมีการจูนเสียงด้วยการใช้วัสดุบางอย่างที่มีคุณสมบัติดูดคลื่นรบกวนประเภท EMI และเพิ่มวัสดุที่ปรับแต่งเรโซแนนซ์เข้าไปด้วยครับ ตัวเต้ารับที่ให้มามี 2 คู่ เป็นแบบขาตรง เสียบหัว 20A ไม่ได้ครับ น้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม ไม่เบาไม่หนักจนเกินไป

สายไฟ Zensonice Cloud: X รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับ Cloud รุ่นก่อนหน้า เพียงแต่วงแหวนที่ครอบสายต่อจากปลอกไม้เป็นสีดำครับ ตัวนำเป็นทองแดงบริสุทธิ์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เท่ากัน ถักเกลียวด้วยสูตรพิเศษของ Zensonice และมีฉนวนทำจากวัสดุธรรมชาติห่อหุ้ม เพื่อให้ได้เบสที่ถูกต้อง และตอบสนองแบนด์วิธได้กว้าง สำคัญที่สุดคือ ไดนามิกต้องไม่กุด หัวปลั๊กและท้ายปลั๊กใช้ปลอกทองเหลืองที่ส่งกลึงขึ้นมาใหม่เป็นพิเศษ ส่วนปลั๊กตัวผู้ชุบทอง ส่วนที่เป็น IEC ท้ายปลั๊กนั้นชุบโรเดียม คือกว่าจะมาจุดนี้ได้ คุณแหลม แกผ่านการทดลองผิดลองถูกมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งได้สายไฟที่คุณภาพไม่แพ้ของนอก สายไฟ Zensonice รุ่น Cloud ทุกรุ่นจะมีเบสที่ทิ้งตัวได้ลึก กลางอิ่มหวาน มีความกังวาน 

ซาวด์สเตจกว้างและลึกอย่างสมดุล ลีลาการถ่ายทอดเสียงค่อนข้างสุภาพ เป็นผู้ดี ไม่บุ่มบ่าม กระโชกโฮกฮาก ในรุ่น Cloud: X นั้น เพิ่มน้ำหนักและแรงปะทะเข้าไปอีกเพื่อช่วยให้พลังที่ส่งออกไปยังเต้ารับนั้น วิ่งสู่เครื่องเสียงที่นำมาเสียบต่อใช้งานกันได้อย่างเต็มที่ บางท่านไม่ได้เปลี่ยนสายไฟเข้าเครื่อง (ใช้สายแถม) โดยที่นำมาเสียบต่อกับ Zensonice: Gate + Cloud: X ก็ได้ความฟินไประดับหนึ่งแล้ว นับเป็นวิธีการเล่นเครื่องเสียงที่เน้นต้นทางไว้ก่อนครับ

ในการทดสอบ ผมใช้สาย Cloud: X เสียบต่อเข้ากับเต้ารับ Oyaide เคลือบ Platinum Gold โดย อ.เจมส์ C-3 มาเข้า IEC ของปลั๊กราง Gate แล้วรุมสกรัมด้วยสาย Exotiq และ Zensonice: Savour อีกเส้นเป็น Oyaide Tunami II (เข้าซับวูฟเฟอร์) สาย Exotiq เข้าปรีแอมป์ Octave ส่วน Savour เข้า DAC Bryston BDA II ครับ อุปกรณ์หลักชุดทดสอบเดิมๆ แต่เปลี่ยนสายลำโพงที่เดินไปเข้า Focal Utopia Diablo เป็น Zonotone Supreme X

สุ้มเสียงของปลั๊ก Zensonice Gate + สายไฟ Cloud: X มีความเปิดโล่ง ไดนามิกสวิงได้กว้าง ไม่มีอั้นตื้อ พละกำลังคล้ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เบสลึกๆ ที่กระแทกออกมาได้ดีมาก เสียงกลางสุภาพ ฟังสบาย อิมเมจขึ้นรูปเป็นสามมิติ สมจริง บรรยากาศมาจากไหนก็ไม่รู้ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เต้ารับยี่ห้อ Eagle จะให้ออกมาได้ดีขนาดนี้ เมื่อเทียบกับปลั๊กพ่วงอะลูมิเนียมชุดของส่วนตัวที่ผมใช้อยู่ ราคาตัวละสามหมื่นกว่าบาทแล้ว ตัวนั้นให้ประกายเสียงแหลมบนๆ และแรงดีดตัวได้ดีกว่านิดหน่อย แต่เมื่อเทียบค่าตัวแล้ว ไม่แปลกใจครับ เพราะ Zensonice Gate ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง แต่ฮาร์โมนิกดีเหลือหลาย ผมฟังปลั๊กรางตัวนี้อยู่ร่วมเดือน พบว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ให้ความเป็นดนตรีออกมาได้อย่างเหนือชั้น แต่ผมอยากให้มันเพิ่มแรงดีดตัวของแต่ละโน้ตออกมาอีกนิด เลยจัดส่งไปไครโอเจนิก พอกลับมา ตรงนี้ละครับ… เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม และมันก็กลายเป็นอาวุธประจำห้องฟังหลักของผมไปเรียบร้อยครับท่าน. ADP

Zensonice Gate สามารถสั่งสีพิเศษได้

ปลั๊ก Zensonice Gate 4 ช่อง ราคา 12,000 บาท
สายไฟ Cloud: X ราคา 39,000 บาท
ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Zensonice Team Audioworks
โทร. 081-446-7141

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 256