เครื่องเสียงจากอังกฤษทำให้นักเล่นเครื่องเสียงส่วนใหญ่นึกถึงอะไร? แฟลต เรียบ สะอาด แต่ไม่น่าตื่นเต้นตูมตามมากนัก แล้วอังกฤษก็ไม่ค่อยชอบทำแอมป์ขนาดใหญ่กล้ามโตออกมาขาย จนทำให้ผมคิดว่าอเมริกาดูจะทำแอมป์เก่งกว่าอังกฤษ จนได้มาฟัง Sugden และ Musical Fidelity จึงทำให้ผมเข้าใจความลึกซึ้งของแอมป์อังกฤษได้ดี ชนิดที่เรียกว่าอยากได้เลยล่ะครับ โดยเฉพาะ Masterclass IA-4 ตัวที่ทดสอบนี้ มันสามารถขับลำโพงแผ่น Magnepan Mini Maggie ได้สบาย โดยที่ปกติลำโพงรุ่นนี้ต้องหาแอมป์โหดๆ มาขับ ถึงจะได้ยินเสียงที่ดี มีพลัง อย่างที่ควรจะเป็น

Sugden ก่อตั้งโดย James Edward Sugden เขาจบการศึกษาจาก E.M.I. คอลเลจ ลอนดอน และก็ทำงานเป็นวิศวกรที่ EMI ประวัติแกแปลกมากครับ เพราะในสายอาชีพของแก เริ่มต้นจากพัฒนาอาวุธ จนมาอยู่ฝ่ายอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียง (Broadcasting) ให้สถานีโทรทัศน์ นาย Sugden ได้คิดค้นวงจรขยายเสียงประเภท Class A ได้ในปี ค.ศ. 1967 และเขาได้ก่อตั้งบริษัท JE Sugden & Co. ขึ้นมา หลังจากนั้นพี่แกก็ขายแบรนด์ให้กับ Patrick Miller ในปี ค.ศ. 1980 ซึ่งหมอนี่ก็มิได้ขายบริษัทต่อไปให้ใครอีก นับได้ว่า Sugden เป็นเครื่องเสียงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 50 ปีแล้ว สิ่งที่เป็นลักษณะเด่นของแอมป์ยี่ห้อนี้คือ วงจร Class A ที่ไม่เปราะหรือพังง่าย ในช่วง 10 ปีหลัง Sugden มีการพัฒนาอันโดดเด่นออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเครื่องเสียงอย่างต่อเนื่อง

Sugden IA-4 ถือเป็นอินทิเกรตแอมป์รุ่นสูงสุด ซึ่งแน่นอนว่า มันมาพร้อมกับภาคขยาย Class A กำลังขับต่อเนื่อง 33 วัตต์ต่อข้าง รูปร่างค่อนข้างจะอวบกว่ารุ่นน้อง A21 หรือ ANV-50 พอสมควร ดูจากภายนอกไม่ต้องเพ่งกันนานก็บอกได้ว่า นี่มันคือ Sugden แผงหน้าอะลูมิเนียมหนาปึ๊ก ปุ่มโวลุ่มขนาดใหญ่ ฮีตซิงก์วางอยู่ด้านข้างยาวไปจรดท้ายเครื่อง
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในเครื่องสมกับเป็นรุ่นเรือธง เซอร์กิตบอร์ดชุบทอง สายเคเบิ้ลเงิน หม้อแปลงทอรอยดัล 350 วัตต์ (Custom-made) ที่สำคัญคือ… มันตอบสนองแบนด์วิธได้กว้างตั้งแต่ 14Hz – 200kHz คาพาซิเตอร์ขนาดเขื่อง 4 ตัว มีภาคโฟโน MM ใส่มาให้ด้วย (เยี่ยมมาก) โวลุ่ม Alps ตัวสีฟ้ายอดนิยม, อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์คัดเกรด มีฟิวส์กันช็อตอยู่ในทางเดินสัญญาณ 2 ตัว, อินพุต Line Level 3 ช่อง, Tape, Phono MM, XLR สามารถทำตัวเป็นปรีแอมป์เพื่อต่อเพาเวอร์แอมป์ภายนอกได้ ค่าความไวขาเข้า 125mV, S/N Ratio >84dB น้ำหนักรวมกล่อง 20 กิโลกรัม ขนาด 165 x 430 x 440 mm ขั้วต่อสายลำโพงไบดิ้งโพสต์ชุบทอง 24K
IA-4 มาพร้อมรีโมตคอนโทรลสีดำทำด้วยพลาสติก และแน่นอนว่ามันใช้ขั้วต่อสายไฟชนิด IEC เพื่อรองรับการเปลี่ยนสายไฟคุณภาพสูงทั้งหลาย ซึ่งผมแนะนำให้พิจารณาสายไฟที่โดดเด่นด้านเบสและอิมแพ็กต์สักหน่อย เพื่อความสมบูรณ์แบบในโครงสร้างเสียงโดยรวมครับ Sugden Masterclass IA-4 ตัวที่ผมได้รับมาทดสอบมีแผงหน้าสีเทาอ่อนๆ ส่วนตัวถังและครีบระบายความร้อนสีดำ ดูเรียบหรู มีราคา เมื่อเริ่มต้นใช้งานวงจรจะมีระบบดีเลย์อยู่ประมาณ 15 วินาที พอได้ยินเสียงคลิกเบาๆ เครื่องถึงจะปล่อยสัญญาณเสียงไปที่ลำโพง ผมเข้าใจว่าเครื่องที่มาถึงผมคงจะผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว แต่เพื่อความแน่นอน ผมก็เบิร์นมันไปสัก 20 ชั่วโมง สลับลำโพง 3 คู่ คือ… Reference 3A: Episode, Revolver: RW-16, Magnepan: Mini Maggie ซึ่งปรากฏว่ามันขับลำโพงทั้ง 3 คู่นี้ได้อย่างสบาย จะมีที่รู้สึกว่าต้องเร่งโวลุ่มมากกว่าเพื่อนคือ Mini Maggie เนื่องจากลำโพงรุ่นนี้บริโภคกระแสโหดมาก ขนาดเล่นปรี+เพาเวอร์แอมป์ Class AB 120 วัตต์ ยังต้องเร่งโวลุ่มไปเกือบ 12 น. ถึงจะมีเสียงดังที่ผมฟังในระดับปกติ แต่กับ Sugden IA-4 นี่ แค่ 11 น. ก็เริ่มจะดังมากแล้ว ระดับกำลังขับต่อเนื่อง 33 วัตต์ Class A นี่ ไม่ใช่เล่นๆ เลยครับ ถือว่ามากพอที่จะขับลำโพงหินๆ ได้อย่างเพียงพอ อีกอย่างคือ หม้อแปลงที่ใช้เผื่อไว้ให้จ่ายกระแสได้สูงมาก ขณะที่เครื่องทำงาน ผมลองเอามือสัมผัสตัวถังร้อนเอาการอยู่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดปิ้งปลาหมึกได้อะไรแบบนั้นครับ และสิ่งที่ผมสังเกตได้คือ ทุกครั้งที่ปิดสวิตช์ และเปิดขึ้นมาเล่นใหม่ เสียงจะดีที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว

ในการทดสอบครั้งนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเพลงที่ชอบและไม่น่าจะชอบของแอมป์คลาสเอ เพลงชอบ เช่น Vocal Jazz เพลงร้องบัลลาด บรรเลงน้อยชิ้น พวกดนตรีอะคูสติกทั้งหลาย เพลงบรรเลงแนว Easy Listening เพลง Folk หรือ Blues ก็ยังได้ ส่วนเพลงที่แอมป์แนวนี้ไม่น่าจะชอบคือ ร็อกหนักๆ และเพลงคลาสสิก Overure ที่ใช้ออร์แกนท่อบรรเลง หรือเพลง Overture หนักๆ กลองใหญ่แรงๆ ต้นทางผมจงใจใช้เครื่องเล่นซีดี Marantz 63 KI Signature ที่คุ้นชินกันมาเป็นอย่างดีแล้ว คุณภาพเสียงไม่ได้ช่วยให้กลายเป็นระดับเทพแน่นอน สิ่งที่จะทำให้ดีหรือไม่ดีในการทดสอบอยู่ที่แอมป์ล้วนๆ ครับ เสียงแรกที่ทำให้ผมรู้สึก “ว้าว” คือ เสียงเปียโนครับ ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้ยินฮาร์โมนิกที่สมจริงขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นเปียโนที่บันทึกสดในสตูดิโอจะได้ยินแอมเบี้ยนต์ที่ชัดมาก เสียงค้อนที่กระทบสายโลหะมีความกังวานไล่เสียงจากจุดกำเนิดแตกตัวออกไปในอากาศเป็นธรรมชาติอย่างยิ่งยวด การเชื่อมต่อเข้าหากันของชิ้นดนตรีไร้รอยต่อ สร้างสนามสียงอันเป็นสามมิติขึ้นมาได้ โดยที่ไม่ต้องเซ็ตอัพลำโพงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย พูดง่ายๆ คือ เฟสมันดีครับ เพราะฉะนั้น เรื่องการจัดวางเวทีเสียงเป็นสามมิติจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับแอมป์ตัวนี้ ความประทับใจที่มากพอจะทำให้คนฟัง Sugden IA-4 ต้องยอมควักกระเป๋าออกมาจ่ายเงินเพื่อยกมันกลับบ้านเห็นจะเป็นเรื่องการเชื่อมต่อเข้าหากันระหว่างชิ้นดนตรีและ Airy หรือบรรยากาศ หรือแอมเบี้ยนต์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีมาอยู่ในแผ่นซีดีที่ถูกบันทึกมา แล้วคุณไม่เคยได้ยินเวลาที่ฟังแอมป์ Class AB ไม่ว่าจะระดับราคาใด อ่านแล้วอาจจะเข้าใจยาก เอาอย่างนี้ดีกว่า Sugden Masterclass IA-4 ให้คุณได้ยินเสียงบางเสียงที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งไม่ใช่แค่ Resolution เพียงลำพัง แต่เป็นเพราะมันขับเสียงออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมเพรียง จึงทำให้การกำเนิดเสียงตามธรรมชาติเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นอะไรที่แอมป์ซิงเกิ้ลเอ็นด์คลาส A เท่านั้นที่จะทำได้ การที่คุณฟังแอมป์คลาส AB 200 วัตต์มานานๆ แล้วลองสลับไปฟังแอมป์คลาส A กำลังขับ 30 วัตต์ อาจจะทำให้คุณรู้สึก… ว้าว และอยากได้มันมาไว้ในความครอบครอง แต่สิ่งที่ควรจะวิเคราะห์ให้ดีก่อนตัดสินใจคือ แอมป์ตัวนี้ไม่ใช่แอมป์บ้าเบสอย่างแน่นอนครับ บุคลิกโดยรวมจะออกไปในลักษณะที่สวยงาม โอ่อ่า เปิดเผย มีความหวานเจือปนอยู่พอดีพองาม โวลุ่มของมันค่อนข้างจะไวในช่วงต้น บิดเร่งเสียงเพียงนิดเดียวจะรู้สึกว่าดังขึ้นเยอะ แต่พอพ้น 11 น. ไปแล้ว ความแตกต่างจะลดลงครับ
หลายๆ คนที่ชอบเพราะฟังสบาย แต่คนที่ฟังดนตรีสดบ่อยๆ ก็จะรู้ว่ามันไม่สมจริง แต่กับ Masterclass IA-4 นี่ ผมคิดว่า Sugden คงตั้งใจปล่อยของ ทำแอมป์คลาส A ที่ให้เสียงออกมาใกล้เคียงความเป็นจริงของเสียงเครื่องดนตรีชนิดนั้นมากที่สุด ซึ่งผมขอชื่นชมว่า พวกเขามาถูกทางแล้ว สิ่งที่ผมต้องบอกต่อคือ “ไดนามิก” ครับ ไม่น่าเชื่อว่าแอมป์ตัวนี้ฟังเพลงคลาสสิกจากสังกัด Reference Recordings ได้ดีมากๆ ผมแปลกใจเลยล่ะครับ ที่ไม่พบอาการอั้นตื้อใดๆ เวลาที่ดนตรีโหมประโคม หรือแผดดังขึ้นจากโน้ตที่เล่นเบามากก่อนหน้านั้น จังหวะที่เบสกระแทกโครมลงมาก็ยังได้อยู่ แสดงว่าภาคจ่ายไฟของมันแข็งแรงมากจริงๆ
คุณสมบัติย่านเสียงต่ำด้วยลักษณะการออกแบบวงจรของมัน ผมไม่ควรคาดหวังเรื่องเสียงต่ำจาก IA-4 เท่าใด แต่พอมาฟังจริงๆ แล้ว กลับกลายเป็นว่า มันดีกว่าที่คิดไว้ครับ ดีขนาดที่หากคุณไม่ใช่คอเพลงแนวฮิพฮอพ หรือร็อกหนักๆ แล้วล่ะก็ แอมป์ตัวนี้ให้แรงปะทะ การทิ้งตัวและรายละเอียดของโน้ตเบสที่น่าพอใจ สิ่งที่ยังอยากได้เพิ่มอีกนิดคงจะเป็นเบสลึกๆ ซึ่งผมว่ามัน Roll off เร็วไปนิดหนึ่ง และยังไม่มีการกระเพื่อมตาม แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่จุดอ่อนนะครับ การจับคู่ Sugden Masterclass IA-4 กับลำโพงที่โดดเด่นทางด้านเบสสักหน่อย หรือหา Footer ดีๆ มารองให้มัน จะช่วยทำให้การฟังของคุณสมบูรณ์แบบ
ผมยกให้ IA-4 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่เคยทดสอบมาครับ. ADP

ราคา 270,000 บาท
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Sound Box โทร. 089-920-8297, 0-2642-1448