CEDIA งานแสดงสินค้าด้านภาพและเสียงที่มีทั้งการ training การออกบูธแสดงสินค้า การโชว์ห้องฟัง โดยงานจะจัดขึ้นประจำทุกปีในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน ปีนี้งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 14 กันยายน 2562 ที่เมือง Denver รัฐ Colorado ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็เป็นอีกปีที่ผมได้ไปร่วมการ training เดินชมห้องฟังในงานแสดงสินค้า พบว่ามีหลายอย่างที่น่าสนใจ

ด้านหน้าของ Colorado Convention Center สถานที่จัดงาน CEDIA EXPO 2019

งาน CEDIA เริ่มมีการจัดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 ถ้าจำได้เมื่อปีที่แล้วผมได้นำเรื่องงาน CEDIA EXPO 2018 มาเล่าให้ฟังไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนั้นงานจัดอยู่ที่เมือง San Diego รัฐ California แต่ในปีนี้ได้เปลี่ยนเป็นเมือง Denver และก็จะจัดอยู่ที่เมืองนี้อีกปีหนึ่งก็แสดงว่างานในปีหน้างาน CEDIA EXPO 2020 ก็ยังจะจัดอยู่ที่เดิมแล้วค่อยย้ายในปีถัดไป ลักษณะของงาน CEDIA ก็จะคล้ายกันในทุกปี คือจะมีงานทั้งหมด 5 วัน เริ่มจากวันอังคาร ในสองวันแรกจะมีแต่การเรียน training ส่วนอีกสามวันจะมีทั้งงานแสดงสินค้า EXPO และมี training ด้วย โดย training ก็จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ CEDIA training ที่จะเชิญผู้มีความรู้ ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ มาสอนให้ความรู้ ส่วนอีกอันเป็น Product training ที่จะเป็นของแต่ละบริษัทพูดให้ความรู้

ในวันแรกหลังจากผมเดินทางถึงเมือง Denver ประมาณห้าโมงเย็นก็เข้าไป register เอาแผ่นป้ายติด Bar code เพื่อคล้องคอเวลาเข้าห้องเรียนหรือห้องโชว์ต่างๆ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการ scan ก่อนเพื่อยืนยันว่าเราได้ลงทะเบียนเรียนใน class นั้นจริงๆ เนื่องจากบาง class ก็ต้องมีการเสียเงินก่อนถึงจะทำการเข้าไปเรียนได้ แต่เนื่องจากว่าเครื่องบินจาก Narita ไปยัง Denver ของผมดีเลย์ไปสองชั่วโมงจากพายุ ทำให้เวลาไปถึงงานล่าช้าไป เจ้าหน้าที่ในการ register กลับไปหมดแล้ว เลยต้องค่อยมาใหม่ในวันรุ่งขึ้นที่เป็นวันเริ่ม training แต่ว่าคนอาจจะเยอะบ้าง แนะนำว่าถ้าใครไปถึงงาน มีเวลาควรจะไปลงทะเบียนไว้ก่อนก็ดี จะได้ประหยัดเวลา ไม่ต้องมาเสียเวลาในตอนเช้าที่คนมากขึ้น หลังจากไม่สามารถลงทะเบียนจึงได้เดินผ่านหน้าสถานที่จัดงาน เริ่มเห็นเจ้าหน้าที่ของแต่ละบูธขนของติดตั้ง สร้างห้องฟังในแต่ละห้องกันแล้ว ถือว่าที่นี่ต่างจากงานในบ้านเรา เพราะให้เวลาในการติดตั้งนานกว่า โดยให้เวลาติดตั้ง setup กว่าสามวัน เพื่อแสดงในงานสามวัน แต่เมืองไทยเวลา setup แค่หนึ่งวันเพื่องานแสดงโชว์สี่วัน เรียกได้ว่าสำหรับงานในเมืองไทยคนติดตั้งไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย

แผ่นป้ายคล้องคอเพื่อใช้ในการ scan เข้าร่วมงานในห้องต่างๆ

เริ่มงานวันแรกวันที่ 10 กันยายน ผมได้เข้าเรียนเรื่อง Advanced Video Calibration and Setup Including HDR โดย Gregg Loewen อาจารย์คนเดิมที่เคยสอนปรับภาพ THX แต่ตอนนี้มาตั้งสถาบันเองชื่อ PVA (Professional Video Alliance) ถ้าใครสนใจเรื่องปรับภาพสามารถเข้าดูในเว็บไซต์ จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการปรับภาพและคอร์สเรียนปรับภาพของ PVA ที่จะเปิดสอนไปทั่วโลก เนื้อหาที่เรียนในวันนี้เป็นหลักสูตรทั้งวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงห้าโมงเย็น จะเน้นในเรื่องการปรับภาพตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการปรับ HDR แต่เนื่องจากเป็นแค่วันเดียวการฝึกปฏิบัติก็จะเป็นการให้ Gregg เป็นคนทำให้ดูเป็นส่วนมาก จอภาพที่นำมาให้ลองดูมีตั้งแต่จอทีวี OLED TV ทั้งของ Sony LG ไปจนถึงโปรเจกเตอร์ของ JVC, EPSON และตัวใหญ่ๆ อย่าง Barco ก็มีมาให้ลองปรับดูด้วย

วันที่สองผมได้ลงทะเบียนเรียนเรื่อง Home Cinema Master Class ซึ่งเป็น class ที่ต้องเสียเงินลงทะเบียนเรียน มีผู้บรรยายสามคน ได้แก่ Joel Siver, Anthony Grimani และ Theo Kalomirakis สำหรับ Joel Silver ไม่ต้องพูดถึง เขาคือเจ้าพ่อด้านภาพผู้ก่อตั้งสถาบันด้านภาพ ISF มีคอร์สสอนปรับภาพทั่วโลก ที่เมืองไทยเคยมาเปิดสอนอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนและผมก็ได้เข้าร่วมเรียนด้วย ส่วน Anthony Grimani และ Theo Kalomirakis เป็นนักออกแบบห้อง home theater ชื่อดังของอเมริกา คนเข้าฟังนับว่าคับคั่ง แม้จะเป็น class ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม จนทาง CEDIA ต้องเปิดเป็นสองห้องติดกัน เท่าที่ดูจากจำนวนคนลงทะเบียนน่าจะเกือบๆ 90คน เริ่มต้นจากการบรรยายของ Anthony Grimani ที่ผมเคยฟังบรรยายแกมาบ้าง ผมว่าแกพูดได้ดี อธิบายได้ชัดเจนเห็นภาพ อาจจะเพราะจบด้านวิศวกรรมโดยตรงเคยทำงานทั้งที่ Dolby และ Lucasfilm THX เชี่ยวชาญด้าน Acoustics และการออกแบบลำโพง เคยได้รับรางวัล CEDIA Top Instructor award ซึ่งถ้าใครมีโอกาสผมแนะนำให้ลองฟัง Lecture ของ Grimani ดูจะได้อะไรอีกมาก เนื้อหาที่แกสอนในวันนั้นเน้นในเรื่องความถี่ต่ำและการ calibration ลำโพง มีการสอนเทคนิคการใส่ delay เพื่อให้ frequency response มีความราบเรียบมากที่สุด โดยมีการทดลองใส่ในแบบต่างๆ แล้วให้ดูผลออกมา แล้วจบลงด้วยการสอน EQ ว่าทำแบบไหนถึงจะเหมาะสมในสภาพห้องแต่ละแบบ เดี๋ยวเอาไว้ถ้ามีโอกาสผมค่อยเอาเนื้อหาที่แกอธิบายมาเล่าให้ฟังอีกที ต่อมาก็เป็นการบรรยายของ Theo Kalomirakis ที่สำเนียงภาษาของแกจะติดกรีกนิดๆ ทำให้ฟังลำบากเหมือนกัน ส่วนมากเนื้อหาก็จะเป็นเรื่องการออกแบบห้อง home theater ในแบบต่างๆ การออกแบบ การใช้วัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงข้อควรระวังในการออกแบบ ส่วนในช่วงบ่าย Joel Silver มาบรรยายถึงเรื่องพื้นฐานในการปรับภาพ เนื้อหาส่วนมากผมเคยเรียนมาแล้วใน class isf มีเพิ่มเติมก็ในเรื่องของภาพแบบ HDR

Theo Kalomirakis, Joel Siver และ Anthony Grimani 
ผู้บรรยายเรื่อง Home Cinema Master Class

หลังจากจบ class Home Cinema Master เนื่องจากในวันรุ่งขึ้นจะเริ่มเปิดงาน Expo ที่มีการแสดงสินค้าด้านภาพ เสียง รวมถึงห้องฟังจากบริษัทต่างๆ วันนี้จึงเป็นการ setup และ calibrate ห้องฟัง โชคดีทางบริษัท Trinnov ได้ให้โอกาสผมเข้าไปชมการ calibration ห้องของทาง Trinnov ที่ร่วมกับลำโพง Triad และบริษัทรับทำห้อง HTE โดยเป็นห้อง sound room ที่จัดแสดงในระบบเสียง DTS:X Pro 11.4.6 เป็นครั้งแรกของฝั่งอเมริกา อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องนี้เรียกได้ว่าคัดมาอย่างดี Pre-processor ใช้ Trinnov รุ่น Altitude32, Power Amplifier เป็น Trinnov Amplitude8 ลำโพง front ใช้ Triad Gold, Surround Gold Mini Monitors, Subwoofer รุ่น Platinum ขนาด 18 นิ้ว 2 ตัวอยู่ด้านหน้า รุ่น Silver Subs 12 นิ้ว อีกสองตัวอยู่ด้านหลัง โดยมี Triad 700 เป็น power amplifier ขับ Subwoofer โปรเจกเตอร์ที่ใช้เป็น Barco จอภาพของ Seamour Screen Excellenc ต้นทางเป็น Kaleidescape (Player and Movie Servers) ซึ่งเท่าที่ดูในงาน CEDIA ครั้งนี้ source เกือบทั้งหมดใช้จาก Kaleidescape ห้องนี้ได้ Adam Pelz คนปรับเสียงมืออันดับต้นๆ ของอเมริกามาปรับให้ ขั้นตอนการปรับเริ่มจากการปรับ Manual ร่วมกับการใช้ Room Correction Expert ของ Trinnov เพื่อที่จะดูค่าทั้ง frequency domain และ time domain ของห้อง หลังจากปรับเสร็จก็มานั่งดู content จริงๆ อีกหลายเรื่อง เช่น แทร็กที่เป็น DTS X: Pro โดยเฉพาะชื่อ Koko, Shallow เพลงจากภาพยนตร์ A Star is Born ซึ่งเป็นแทร็กยอดนิยมที่เปิดในงาน CEDIA, เสียงปืนจากหนังเรื่อง John Wick ในขณะฟังก็ปรับ fine tune ในส่วนของ curve ให้เสียงเป็นไปในแนวทางที่ต้องการอีกที และตอนหลังเสร็จงาน CEDIA ผมก็พึ่งรู้ว่าห้องนี้ได้รับรางวัล Best show award at CEDIA 2019 จากทาง AVS Forum ซึ่งนับว่าเป็นไปตามความคาดหมาย เนื่องจากห้องนี้มีคนมาเข้าคิวรอจำนวนมากเพื่อมาฟังเสียงในระบบ DTS X: Pro

วันที่สามเป็นการเริ่มงานแสดงสินค้า และเปิดห้องฟังให้ได้ชมกัน แต่ก็ยังมีในส่วนของ training ด้วย โดยช่วงเช้าได้เข้าเรียนในคลาส Home Theater Audio and Acoustics, Part1 ความจริงคลาสนี้เคยเข้าไปแล้วทั้ง Part 1, 2, 3 เมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้เปลี่ยนคนสอนเป็น Jeff Gardner ก็เลยลองมาเรียนดูอีกรอบหนึ่ง เนื้อหาก็เป็นพื้นฐานด้านเสียงในห้องขนาดเล็กคล้ายๆ กับปีที่แล้วที่สอนโดย Todd Welti และ Sean Olive ศิษย์เอกของ Dr.Floyd Toole เจ้าพ่อ Acoustics ในห้องขนาดเล็ก ส่วนในช่วงบ่ายก็ได้เวลาเดินดูสินค้าภายในงาน expo เข้าชมห้อง sound room ต่างๆ ส่วนในวันอื่นผมก็ได้ลงเรียนคลาสที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง เช่น “Immersive Audio: Unified 3D Speaker Layouts for Multiple Listeners”, “Digital CinemaInitiatives-From the Commercial Movie Theater to Your Customers’ Homes” และที่เป็น products training อีก ได้แก่ “UltraWide 4K anamorphic cinema made simple why and how better than commercial cinema resolution is transforming the home theater landscape”, “Home Projector Solutions: See the Sony Difference” และคลาสสุดท้ายที่เรียนได้แก่ “Sony High-Performance TV Solutions – See the Difference”

ภายในงาน CEDIA EXPO 2019 วันแรกช่วงบ่ายมีคนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ถึงแม้บริเวณจัดงาน Colorado Convention Center ในชั้นที่เป็น Exhibit Hall จะมีขนาดถึง 90,000 ตารางฟุต แต่เมื่อมีบูธต่างๆ และห้องฟัง รวมกับคนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่ดูคับแคบไปถนัดตา คนที่มาร่วมงานในสองวันแรกที่เป็นวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ก็จะเป็นคนทำงาน หรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับด้านเสียงและภาพโดยตรง ส่วนในวันเสาร์วันสุดท้ายของงานส่วนมากก็จะเป็นนักเล่น ผู้ชื่นชอบใน home theater ดูหนัง ฟังเพลง สำหรับภายในงานแต่ละบูธก็จะโชว์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่พึ่งจะออกสู่ตลาด หรือตัวที่เป็นเรือธงในระดับสุดยอด หาฟังยากมาให้ดูกัน ห้องฟังที่เป็น sound room หรือ home theater ก็มีให้ชมหลายห้อง งานโชว์จะเริ่มตั้งแต่เวลาเก้าโมงเช้าจนถึงประมาณหกโมงเย็น แต่ส่วนมากที่เห็นห้าโมงกว่าๆ ก็ทยอยกันกลับแล้ว ตรงนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างจากงานแสดงเครื่องเสียงในบ้านเรา ที่ส่วนมากคนจะมาหลังห้าโมงหกโมงเย็นในวันธรรมดา ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์คนจะเยอะมากขึ้น แต่ที่งาน CEDIA นี้ช่วงกลางวันวันพฤหัสบดี วันศุกร์คนจะเยอะมาก ช่วงเย็นคนก็จะน้อยลง ส่วนวันเสาร์คนก็จะน้อยลงอีก น่าจะเพราะคนที่มาเดินในงานนี้ส่วนมากเป็นคนที่ทำงานด้านนี้โดยตรง มาเพื่อธุรกิจหรือหาความรู้กันจริงจัง

Sound Room ที่เปิดให้เข้าไปฟังเสียงจริงๆ มีอยู่หลายสิบห้องในงานนี้ เรียกได้ว่าถ้าจะฟังให้แบบละเอียดครบทุกห้องนั้น สามวันไม่น่าจะพอ ผมขอเอาห้องที่น่าสนใจ ห้องที่เด่นๆ ในงานมาเล่าให้ฟังพอเห็นภาพ ห้องแรกก็ได้เล่าให้ฟังไปแล้วคือ ห้องแสดงเสียง DTS X: Pro ที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ว ห้องต่อมาที่น่าสนใจทุกปีอีกห้องคือ ห้องแสดงของทางลำโพง Wisdom ห้องนี้คนเขาคิวรอก็ไม่น้อยไปกว่าห้องของทาง DTS X:Pro ทั้งที่ขนาดห้องใหญ่กว่า จุคนฟังได้รอบละ 24 คน คนที่เข้าคิวรอต้องนับกันเลยว่าอีกกี่รอบถึงจะได้เข้าไปชม จะรอไหวไหม เพราะถ้าเสียเวลารอมากเกินไปก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสห้องอื่นๆ ได้ ห้องนี้ที่มีคนสนใจมาก เนื่องจากว่าทาง Wisdom Audio เห็นว่าจัดหนักกว่าทุกปี (ที่ทุกปีก็จัดหนักอยู่แล้ว) ขนอุปกรณ์ในห้องราคาร่วมยี่สิบกว่าล้านมาโชว์ในระบบเสียง 13.6.8 โดยมีอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องได้แก่ Pre-processor ของ Trinnov รุ่น Altitude32 แน่นอนลำโพงทั้งหมดเป็นของ Wisdom โดยลำโพง LCR และ Surround ใช้ตัว Wisdom Audio Series LS4i, ลำโพง Top Surround เป็น Wisdom Audio Cinema Point 2V2, Subwoofer เป็น Wisdom Audio STS RTK จำนวน 6 ตัว วางไว้ด้านหน้าสี่ตัว ด้านข้างสองตัว เห็นบอกว่าตอนแรกเตรียมมา 8 ตัว แต่วางดูแล้ว 6 ตัวเสียงดีกว่า โปรเจกเตอร์เป็น Barco Loki จอภาพ Seamour Screen เครื่องเล่นก็ใช้ Kaleidescape การโชว์ก็เริ่มจากการแนะนSystem ทั้งหมด แล้วจึงทำการเปิดคลิปทั้งหมด 3 แทร็ก เรื่องแรกจากภาพยนตร์ The Missing Link เพื่อโชว์ความมี clarity ของเสียง Dialog ที่ให้ทั้งความสดใส แทร็กต่อมาเป็นเรื่อง Unbroken ฉากยิงต่อสู้กลางอากาศที่คุ้นตาในคลิปจากหลายแผ่นทดสอบ ฉากนี้แสดงความคมชัด impact เสียงความถี่ต่ำและแทร็กสุดท้ายเพลงจากคอนเสิร์ต Hans Zimmer Live in Prague แสดงถึงความใหญ่โต เสียงเบสที่แน่น บรรยากาศโอบล้อมดังเช่นได้เข้าไปอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ พอจบสามคลิปที่แสดงนี่ผมได้ยินคนปรบมือให้หลายคน ซึ่งนับได้ว่าห้องนี้เป็นห้องที่ผมประทับใจเสียงอีกห้องหนึ่งในงาน CEDIA 2019 ครั้งนี้เลย อีกห้องที่มีคนต่อคิวยาวไม่แพ้สองห้องแรกก็ได้แก่ ห้องแสดงของลำโพง Klipsch โดยเปิดตัวลำโพงที่เอาระบบใน Professional เข้ามาสู่ในบ้านในชื่อ Modular Consumer Cinema System ที่มีการวางลำโพง LCR สลับกับมี Subwoofer สองตัวเรียงกันเป็นแผงอยู่ข้างหลังจอภาพ ในโชว์เปิดอยู่ 2 – 3 แทร็ก มีแทร็กเสียงปืนจาก John Wick เพลง Shallow สรุปเท่าที่ฟังโดยรวมแล้วต้องบอกว่า Klipsh ในซีรีส์นี้เสียงไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้จะไม่ให้เสียงเหนือชั้นสุดยอดเหมือนลำโพงราคาแพงมากๆ หลายตัว แต่เสียงที่ออกมานั้นสร้างบรรยากาศใหญ่โตของโรงภาพยนตร์ได้ดี เสียงความถี่ต่ำที่มีพลัง เสียง Dialog ที่สดใสแนวลำโพง Klipsh ยังอยู่ครบ จุดสำคัญคือราคาของอุปกรณ์ทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ไกลสุดกู่แบบเอื้อมไม่ถึง ผมว่าน่าจับตาสำหรับลำโพงในซิสเต็มนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลำโพงในซิสเต็มนี้ยังไม่ได้วางจำหน่ายในอเมริกา เห็นว่าจะเริ่มจัดจำหน่ายต้นปีหน้า ก็รอดูกันว่าลำโพงในซีรีส์นี้จะเข้ามาขายในประเทศไทยหรือไม่ อีกห้องที่ลืมกล่าวถึงไม่ได้คือ ห้องของลำโพง Alcons® ที่ขนเอาลำโพง Alcons® ตัวดังๆ ที่มีพื้นฐานมาจากลำโพงในโรงภาพยนตร์มาเต็มที่ โดยลำโพง LCR วางไว้หลังจอใช้รุ่น Cinema Reference Monitor System(CRMS) mkII, subwoofer CRMSC-LFE 18นิ้ว, Surround SRHV90, SRHV120 ใช้ Pre-pro Storm Audio ISP 3D.32, โปรเจกเตอร์ Sony VPL-VW5000ES ผ่าน anamorphic lens ของ Paramorph ฉายลงบนจอภาพ Screen Acoustics UltraWeave V6 ในห้องนี้เปิดโชว์คลิปแบบยาวๆ ไม่ตัดเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งจากหนังเรื่อง Alita เพลง Shallow ยอดนิยมที่เปิดกันเกือบทุกห้อง โดยรวมแล้วห้องนี้ต้องยกให้ในเรื่องเนื้อเสียงของคน เสียงร้องมีความสดใสโดดเด่นตามสไตล์ของ Ribbon tweeter เสียงความถี่ต่ำทำได้ดีมีความกลมกลืนกันของเสียง ที่ชอบอีกอย่างของห้องนี้เลยคือ ถึงแม้จอภาพใหญ่แต่ภาพก็ยังมีความสว่าง สวยงามดีมาก ไม่มีการดร็อปลงของภาพถึงแม้จะใช้เลนส์ภายนอกอยู่ก็ตาม และในส่วนของบูธแสดงสินค้าต่างๆ ผมคงให้ดูจากรูปภาพเอาเลย เนื่องจากว่ามีบูธสินค้าอยู่เยอะมากเล่าไปคงไม่หมด เลยให้ดูรูปดูบรรยากาศงานเอาเลยละกัน

สำหรับงานแสดงสินค้าและโชว์เครื่องเสียงประจำปี CEDIA EXPO 2019 ได้จบลงแล้ว พบกันอีกทีเดือนกันยายนในปีหน้า ที่จะจัดแสดงอยู่ที่เดิมคือเมือง Denver รัฐ Colorado ซึ่งถ้าใครชื่นชอบในเรื่องของภาพและเสียงโดยเฉพาะในงาน Home Theater / Home Cinema งาน CEDIA นั้นไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นงานที่มีทั้งการฝึกสอน มีการแสดงสินค้า มีห้องฟัง Sound room ที่ภาพสวยเสียงดีระดับโลกโชว์อยู่เป็นจำนวนมาก ไปงานเดียวเรียกได้ว่าได้รับทั้งความรู้ประสบการณ์การฟังอย่างมากมาย คอ Home Theater ผมขอแนะนำเลยสำหรับงาน CEDIA EXPO ครับ. ADP

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 272