สวัสดีครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วครับกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital Audio จะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

ผ่านไปแล้วกับกิจกรรมดีๆ JUST LISTEN DAY ที่ LINN Thailand จัดขึ้น มีคำพูดดีๆ จากคุณ Gilad Tiefenbrun – CEO: Linn Products ที่แวะมาเยือน เอามาฝากกัน

“ถ้าคุณลงทุนกับระบบไฮไฟดี ๆ แล้วฟังมันทุกวัน จะทำให้คุณ “รู้สึกดีขึ้น” จริง ๆ มันจะมอบช่วงเวลาดี ๆ ให้กับคุณทั้งกับครอบครัว กับภรรยา กับสามี กับลูก มันคือความสุขประจำวันเลยครับที่ได้เติบโตท่ามกลางเสียงที่งดงาม

และเราในฐานะคนรักไฮไฟเรารู้ดีว่า “คุณค่า” ที่ได้จากเสียงดีๆ มันติดอยู่กับเราในทุกๆ วัน

แม้ตอนที่คุณไม่อยู่ใกล้ซิสเต็มของคุณ สมองคุณยังสามารถ “จำ” และ “เรียกคืน” เสียงอันน่าทึ่งเหล่านั้นได้

มันเป็นสิ่งที่พิเศษจริง ๆ “นี่คือของที่ดีที่สุดที่เคยซื้อในชีวิต”

ไม่ใช่แค่ “เครื่องเสียงที่ดีที่สุด” แต่คือ “สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด” ที่เคยใช้เงินซื้อมาเลย
มันให้ความสุข มากกว่ารถมากกว่านาฬิกาหรู มากกว่าหลายสิ่งที่มีราคาสูง
ใช่ครับ ระบบไฮไฟราคาสูง แต่ “คุณค่า” ที่ได้ มันสูงกว่าสิ่งอื่นที่แพงๆ เยอะมาก
มันคือเรื่องของคุณค่า และไฮไฟที่ดีจริงๆ จะมอบคุณค่านั้น มากกว่าสิ่งใดในชีวิตคุณเลยครับ

Mr. Gilad Tiefenbrun – CEO: Linn Products

…Majik DSM รุ่นล่าสุดในปี 2025 ล้ำกว่าเครื่องเสียงทั่วไป

จึงไม่ใช่แค่เครื่องเสียงแบบ All-in-One ปกติอย่างที่คิด แต่มันคือเครื่องเสียงที่ถ่ายทอดตัวตนของเสียงดนตรีตามแนวคิดที่ผสมผสานเทคโนโลยีระดับเรือธงของ LINN เข้ากับความเรียบง่ายอย่างชาญฉลาด และเมื่อจับคู่กับลำโพง Linn 119 สี Satin White คุณจะได้เซ็ตเครื่องเสียงที่ “เปิดเผยหัวใจของเสียงดนตรี” ได้อย่างง่ายดาย ไร้การปรุงแต่งใดๆ

สวยเนี้ยบ… สมบูรณ์แบบในตัวเครื่อง Majik DSM เป็นโครงสร้างอะลูมิเนียมหนา 2 มม. ใช้ CNC กัดขึ้นรูปอย่างแม่นยำ พ่น powder-coated เข้มเรียบหรู เนี้ยบ ดูดีทั้งกลางวันและเมื่อแสงไฟสลัว แผงด้านหน้าที่โฉบเฉี่ยวมันวาวเป็นกระจกสีดำมีหน้าจอ OLED สีดำที่เหมือนรุ่นพี่ ติดตั้งแป้นหมุนควบคุมแม่เหล็ก (Magnetic Dial) ไว้ด้านบนโดยนำมาจากรุ่นพี่ Klimax และ Selekt แต่ไม่มี pin เหมือนรุ่นพี่ ส่วนด้านข้างและฝาหลังมี Grille fin สะท้อนการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์เพื่อการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพและทำงานเงียบกริบ

Majik DSM นั้นมี Linn DNA และถูกย่อส่วนความล้ำจากรุ่นพี่ Selekt DSM มารวมไว้ในเครื่องเดียว โดยไม่ลดทอนคุณภาพหรือแนวทาง “เสียงจริง” ที่ Linn ยึดถือมาตลอด

แม้มองไม่เห็นจากภายนอกจากหน้าปัดที่ดำมืด ถ้าไม่มองด้านหลังเครื่องถึงจะรู้ว่าภายในครบเครื่องระดับโปรก็เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ “ที่เข้าถึงหัวใจดนตรี” ซึ่งในวงการอาจมีไม่มาก Linn ส่ง Majik DSM (Gen 5, 2025) ออกมาตอบโจทย์แบบไร้เงื่อนไข

DSM ย่อมาจาก Digital Streamer Multimedia และ Majik DSM ก็คือเครื่องเดียวกินรวบที่รวม Network Streamer, DAC, Preamp, Integrated Amp, Phono Stage, EXAKT และ ระบบ Room Optimization ไว้ในดีไซน์ที่เรียบหรูและพร้อมใช้งานจริง

ที่ออกแบบเหมือนงานศิลป์โดยใช้ AKM DAC Chipset ที่นำมาปรับโครงสร้างให้เป็นไปตาม DNA ของ Katalyst Architecture ของ Linn เอง แยก Clock Reference, แยก Power Supply และออกแบบ Buffer Output ใหม่ทั้งหมดรองรับถึง DSD256 / PCM 384 kHz ให้เสียงที่ “นิ่งอย่างมีน้ำหนัก” และ “โปร่งอย่างมีโฟกัส”

ที่ “ไม่ต้องอวด” เพราะขับได้จริง Class D 2×100W @ 4Ω พลังพอสำหรับลำโพงที่โหลดโหดกว่านี้ ใช้ Power Supply แบบ Dynamik ให้กำลังไฟนิ่งสงัด แม้ตอนเพลงกระชากพีค ขับลำโพง Linn 119 ได้ “เต็มวัตต์” โดยไม่ต้องง้อภาคขยายเสริม ความสามารถที่ “ครบ” จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา

เช่นเดียวกับรุ่นพี่ที่ติดตั้งฟังก์ชัน “จูนด้วยฟิสิกส์ ไม่ใช่ EQ” แทนที่จะ boost หรือ cut frequency แบบเดาสุ่ม ระบบ Space Optimization ของ Linn ใช้แบบจำลองทางฟิสิกส์ของห้อง มาช่วย “ลบข้อเสีย” โดยไม่แตะ “ข้อดี” ของลำโพง ไม่ต้องย้ายลำโพง ไม่ต้องวัดเสียงด้วยไมค์ จะให้เสียงที่คุณได้ยิน “แม่นยำขึ้น ใสขึ้น และบาลานซ์กว่าเดิม” โดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งลำโพงจริง ๆ

Space Optimization จะช่วยจัดการลบเอฟเฟกต์จากการบิดเบือนผิดเพี้ยนอันไม่พึงประสงค์ของสภาพแวดล้อมในห้องฟัง และจะเปิดเผยเสียงที่แท้จริงของเสียงดนตรีจากเครื่องเสียงไม่ดีกว่าเหรอ

แน่นอนว่าคงไม่ชอบ จะทำให้เซ็ตอัปง่ายกับลำโพงทุกชนิด ไม่ว่าจะวางหิ้งหรือตั้งพื้น มีซับหรือไม่ เนื่องจากมี data base ของลำโพงเป็นร้อยๆ แบรนด์ นับพันโมเดลที่จะแมตชิ่งในทุกห้องในบ้าน ไม่ว่าผิววัสดุใดๆ แม้ว่าจะเป็นห้องที่ไม่ได้สัดส่วน

1. ใช้กับอุปกรณ์ Linn ที่รองรับ
เช่น Majik DSM, Selekt DSM, Klimax DSM — ทุกรุ่นจะมีระบบ Space Optimization ภายใน

2. เข้าไปที่เว็บไซต์
https://linn.co.uk
เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Linn Account ของคุณ > manage system

3. ระบุข้อมูลห้องของคุณ

  • ขนาดห้อง: กว้าง x ยาว x สูง (หน่วยเมตรหรือฟุต)
  • วัสดุกำแพง: คอนกรีต, ยิปซัม, อิฐ ฯลฯ
  • ตำแหน่งลำโพง: ระยะจากผนังหลัง – ผนังข้าง
  • ตำแหน่งผู้ฟัง (sweet spot)
  • เฟอร์นิเจอร์หลัก เช่น โซฟา, ผ้าม่าน, ชั้นหนังสือ

ระบบจะประมวลผล Room Modes และเลือกจุดที่มี “การบวมของเบส” แล้วใช้ DSP ลดทอนให้สมดุลขึ้น

4. เลือกประเภทลำโพง
เช่น Linn 119 ระบบรู้ค่าตอบสนองของลำโพงนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องตั้งค่า EQ เองเลย

5. กด Apply แล้วฟัง!
ระบบจะปรับเฉพาะจุดที่ “มีปัญหา” เช่น เบสบวม ก้อง หรือตกหล่น ไม่เปลี่ยนเสียงกลาง-แหลมที่ดีอยู่แล้ว

ผลลัพธ์คือ:
เบสแน่นโดยไม่บวม เวทีเสียงคมขึ้น เสียงร้องไม่ถูกกลืน รายละเอียดไม่ถูกรบกวน

เชื่อมต่อครบ พร้อมทุกแพลตฟอร์มและทุกอุปกรณ์

  • HDMI 2.0 × 4 (รองรับ 4K 60Hz, eARC, CEC, HDCP 2.2)
  • Optical × 2, Coaxial × 1, USB-C (รองรับ PCM / DSD)
  • RCA × 2, MM / MC Phono (Configurable)
  • Ethernet / Wi-Fi / Bluetooth 4.2
  • รองรับ Roon Ready, AirPlay 2, Qobuz, TIDAL, Spotify, Deezer TuneIn, Calm Radio
  • Binding posts, Subwoofer RCA, SPDIF out, Headphone (¼”), Exakt Link

ไม่ใช่แค่ “พอร์ตเสริม” เสียบหูฟังแล้วได้เสียงที่นิ่ง เงียบ มีเวที ฟัง Tidal หรือ Qobuz ผ่านหูฟัง เหมือนยกเวทีคอนเสิร์ตมาไว้ในหัว เหมาะกับการฟังเงียบๆ ยามดึกแบบไม่ลดคุณภาพ ช่องหูฟังไม่ใช่ของแถม เสียงที่ได้จาก ¼ Headphone jack คือ รายละเอียดระดับสตูดิโอ เวทีเสียงลึกจริง ไม่แบน ไม่มีนอยส์ ไม่มีฮัม ฟังตอนดึกแบบ “จมดิ่งกันเลยทีเดียว”

Linn App: เรียบ หรู ควบคุมได้ครบทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าเล่นจากแอปตัวอื่น ตัวนี้เห็นหมด

Roon: UI ลึก เสียงละเมียด Bit-perfect

Audirvana / JPLAY: สำหรับนักเล่นสาย pure sound

mConnect: ตัว lite แต่ครบ แถมใช้ฟรีเสียด้วย

PS. อ้อๆ Roon / Audirvana จะต้องมี CORE ด้วยนะ

ลำโพงที่ส่งมา Linn 119 ลำโพงคอมแพกต์สี Satin White หนึ่งในสีที่ไม่ได้มาเล่นๆ มีผิวตู้เป็นไม้ลามิเนตผิวด้านแบบไข่มุก สะอาด สง่างาม ไม่มีตะแกรงหน้า เพื่อให้เสียงเปิดเป็นธรรมชาติ ตะแกรงโลหะ electro-formed ที่ปกป้องทวีตเตอร์อย่างบางเฉียบแต่แข็งแรง

Linn 119 ลำโพงคอมแพกต์ที่ “ขับได้เกินตัว” ที่ First Look: เนียน... สะอาดแบบมีชั้นเชิง Linn 119 สี Satin White คู่นี้ดูเผินๆ อาจเหมือนลำโพงวางหิ้งมินิมอลทั่วไปแต่ถ้ามองลึกเข้าไป คุณจะพบการออกแบบที่เป๊ะทุกมิติ

ทั้งไดรเวอร์ระดับ audiophile, พอร์ตเบสด้านหลัง และทวีตเตอร์ที่ถูกครอบด้วยตะแกรง electro-formed ภายใต้โลโก้ Linn คือความเรียบหรูแบบ “สกอตติชที่มีความตั้งใจ”

ลำโพงชนิด 2-Way Bookshelf ขนาดเล็ก กะทัดรัด แต่ใช้ไดรเวอร์คุณภาพสูง ติดตั้งหน้าแบฟเฟิลตรง ไม่มีตะแกรงที่จะลดการบังเสียง เพิ่มพื้นที่กระจายเสียง มีครอสโอเวอร์แบบ lower-order ให้เสียงเร็วและแม่น มี dynamism และตอบสนองฉับไว แต่ให้เสียงเต็มห้อง ด้วยไดรเวอร์คุณภาพสูง Sonomex Tweeter ให้ปลายเสียงเแหลมไม่แข็ง มีเท็กซ์เจอร์ ส่วน Nextel Woofer ให้เบสลึกโดยไม่บวม มีช่อง Rear Ported ช่วยให้เบสลึกและทรงพลัง เบสมีน้ำหนักแม้วางใกล้ผนังก็อุดโฟมซิ ขั้วลำโพง Bi-Wire (binding posts) และเมื่อใช้ร่วมกับ Majik DSM สามารถปรับ digital bass augmentation ได้ sensitivity และ impedance อยู่ที่ 86 dB กับ 4Ω แอมป์ของ DSM ขับได้สบาย ลำโพงวางหิ้งตัวเล็ก 4Ω ที่ออกแบบมาพร้อมทำงานร่วมกับ MAJIK DSM ได้สมบูรณ์แบบเสียงมีมิติ เวทีนิ่ง อิมเมจแม่น และเบสควบคุมได้แม้วางใกล้ผนังรองรับการปรับ Space Optimization โดยอัตโนมัติผ่าน Majik

Linn Majik DSM + Linn 119 คือระบบเสียงที่สร้างมาเพื่อฟังจริง ไม่ใช่แค่ฟังดัง แต่ฟังดีมีเสน่ห์ จูนเข้ากับห้องได้โดยไม่ต้องจูนหู เปิดฟังทุกวันได้โดยไม่เบื่อ พร้อมรองรับอนาคตด้วยเฟิร์มแวร์ใหม่ที่อัปเดตได้ยาวๆ และระบบ ecosystem ของ Linn ด้วย

บอกเลยว่า ติดตั้งง่ายมากเพียงเสียบสายลำโพง บังเอิญผมใช้จัมเปอร์ก็มีเครื่องมือมาให้ในกล่องนะ เสียบสายไฟ สาย LAN เมื่อติดตั้งครบแล้วก็ฟังได้เลย อ้อๆ DSM จะทำงานร่วมกับ Space Optimization ได้ทันทีถ้าต้องการ

เปิดเพลงผ่าน Linn app แว้บแรกก็รู้เลยว่า Majik DSM + Linn 119 ถ่ายทอดเสียงได้อย่างหมดจด โปร่ง ใส รายละเอียดดี แบบ “ไร้หน้ากาก” ก็ไม่ใส่มาจากโรงงานเลยนิ แหลม ลึกแต่ไม่คมบาดหู เสียงกลางให้เสียงอิ่มเป็นธรรมชาติแต่ไม่บาง เบสมีแรงกระแทกพอตัว เกินตัวด้วยซ้ำ

ลองฟังดนตรีหลายแนว แต่โดนใจกับเสียงร้องและดนตรีเครื่องสายโดยเฉพาะงานของตัวแม่ผมแดง Loreena McKennitt นั้นมีลายเซ็นชัดเจนเป็นการผสมผสานระหว่าง Celtic, World music และ Classical instrumentation พร้อมเสียงร้องที่ลึก นุ่ม สเกลเสียงสูงและสะกดคนฟัง ระบบเสียงไม่แม่นจริงจะพาให้อารมณ์เพลงหลุดไปง่ายมาก เมื่อใช้ชุด Majik DSM + Linn 119 ฟังอัลบั้มของเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ… อิ่มเอิบจริง ๆ

เสียงร้องของ Loreena เป็นโซปราโนมีไดนามิกส์ มี Airy ถูกวาง “อยู่บนอากาศ” เป็นธรรมชาติ ไร้แรงอัดหรือความขุ่นมัว เปียโน ฮาร์ป ซิตาร์ และเครื่องสายตะวันออกกลาง มีเท็กซ์เจอร์ละเอียดมาก เสียงปลายนิ้วกระทบสายชัดเจน

เวทีเสียง (soundstage) ถูกถ่ายทอดกว้างลึก เหมือนนั่งในโบสถ์ที่กำลังเล่นสด จุดนี้ Linn 119 แสดงศักยภาพ จินตนาการได้เกินตัว เบสและเพอร์คัสชัน ไม่ล้น ไม่จม ลึกและกระชับอย่างพอดี ฟังสบายๆ ด้วยการคุม low-end ที่แม่นของ Majik DSM อัลบั้มแนะนำสำหรับลองฟังกับชุดนี้

The Visit (1991) อัลบั้มที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพบันทึกเสียงยอดเยี่ยมที่สุดของ Loreena เพลงแนะนำ: “All Souls Night”,

“Greensleeves”, “The Lady of Shalott” เสียงร้องและบรรยากาศโบสถ์มีมิติอย่างชัดเจน สังเกตการสะท้อนและเสียงแผ่วปลายได้ชัดเจนมาก

แรงบันดาลใจจากเส้นทางสายไหม – ผสมดนตรีตะวันออกกับ Celtic อย่างกลมกลืน

เพลงแนะนำ: “Beneath a Phrygian Sky”, “The Gates of Istanbul”

Linn ถ่ายทอดเสียงเครื่องดนตรีพื้นบ้านและเพอร์คัสชันในตำแหน่งที่แม่นยำ

อัลบั้มฮิตที่สุดของเธอ มีเพลงระดับตำนาน The Mummers’ Dance” จะโชว์ความกลมกลืนของ layering ทั้ง vocal, beat และเครื่องสายหลายชนิด เพลงเอกอย่าง Dante’s Prayer” ถูกถ่ายทอดแบบ “มีชีวิต”: เสียงร้องหางเสียงสะอาดระดับ “หายใจยังได้ยิน” ล่องลอยกลางอากาศ ไม่มีฟุ้ง เครื่องสายอย่างฮาร์ป / ซิตาร์ รายละเอียดชัดทุกสัมผัส คอรัสท้ายเพลงโอบล้อมได้สมจริง เวทีเสียงสูง-ลึก แม้ในห้องเล็กแสดงให้เห็นศักยภาพ imaging / noise floor / dynamic resolution ได้ชัดเจน ผมว่าดนตรีแนวนี้เข้าทาง Majik DSM+119 ชะมัด

Majik DSM ถ่ายทอดเสียงได้โปร่ง มีไดนามิกส์เป็นธรรมชาติ เบสแม่นยำ ควบคุมได้ดี เสียงกลางเด่น ชัดเจน รายละเอียดครบ ปลายเสียงแหลมสะอาดไม่แสบหู การอินทิเกรตภาคขยายภายในที่แม่นยำทำให้แมตช์กับลำโพงหลากหลายได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้ยุ่งยาก ซึ่งคือข้อเด่นเลยล่ะ

…เปิดขีดสุดของ Majik DSM แม้ภาคขยายในตัวของ Majik DSM จะขับลำโพง Linn 119 หรือแม้เจ้าถิ่น Manger ZeroBox109LE ซึ่งเป็นลำโพง 4 Ohm เหมือนกันก็ขับได้เต็มแบบ “ไม่ต้องพึ่งพาใคร” แต่ถ้าหากเป็นลำโพง 8 Ohm ความไวต่ำโหลดโหด ก็อาจต้องการ “เพิ่มพลังเสียง” ให้เวทีใหญ่ขึ้น ลึกขึ้น และพลังต้องมีแรงส่งมากขึ้น การเสริมด้วย Power Amp ภายนอก หรือ Subwoofer ชั้นดี คือการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของ Majik DSM

โดยสามารถเสริม Power Amp ทำให้ขับได้ไกลขึ้น ลำโพงใหญ่ขึ้น เพียงต่อผ่าน Line Out หรือแม้จากช่อง Linn ส่วน ExakT ก็ตาม จะไม่ลงรายละเอียดนะ… ซึ่งถึงตรงนี้ Majik DSM จะทำหน้าที่เป็น Streaming DAC / Preamp ชั้นดีที่ทำงานได้นิ่ง แม่นยำ เพื่อขับลำโพงที่ใหญ่กว่า หรือกินวัตต์มากกว่า…คุณจะได้ยินเวทีเสียงที่มี “แรงผลัก” ทรงพลัง รายละเอียดที่เคยมัวในบางครั้ง… กลับกระจ่างชัด และน้ำหนักของเสียงเปียโนหรือเครื่องสาย… กลับมามีแรงส่งทางอารมณ์มากขึ้น แน่นอนจะได้เบสที่ไม่ใช่แค่ลึก… แต่ควบคุมได้ เสียงกลองกระแทกอย่างมีแรงอัดเสียงร้องลอยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เวทีเสียงขยายออกทั้งด้านข้างและด้านลึก เวทีเสียงใหญ่ขึ้น

ส่วนเมื่อเติม Subwoofer นั้นจะทำให้เบสลงลึก ให้เสียงเต็มย่านสมดุลขึ้น ฟังได้ดีทุกแนว เมื่อทั้งคู่มารวมกัน Majik DSM ที่เปิดเผย “ทุกสิ่งที่เสียงควรเป็น” อย่างสมบูรณ์แบบได้นั่นเอง

ขยายความให้ชัดก็คือเมื่อ 119 เมื่อจับคู่กับซับ จะช่วยให้ Majik DSM แสดง “พลังที่ซ่อนอยู่” เปลี่ยนจากแอมป์เสียง “สะอาด” บริสุทธิ์ เป็น “ครบย่าน” คุม Low-End ได้แน่น มี Impact รองรับเพลงแนวเมทัลได้สบายๆ ช่วยขับให้ฟังเพลงได้กว้างขึ้น แนวเมทัล EDM หรือคลาสสิกได้สบายๆ ฟังแล้ว “ไม่อั้น” เมื่อเพิ่มซับ REL ที่มีอยู่คู่หนึ่งเข้าไป… Linn 119 จะกลายเป็นลำโพง “สามทางชั้นดีจำแลง” เหมือน “ลำโพง 3 ทางที่มีจิตวิญญาณ” ที่โต ดุ และหมัดหนักขึ้นตามต้องการ ซึ่งหมายถึงถ้าต้องไปต่อเพื่อ “เสียงที่อยากได้ยิน” ในแบบของคุณ… ก็จัดไป

ในวาระที่ Ozzy Osbourne หรือ “ป๋าออส” เจ้าชายแห่งรัตติกาลศาสดาแห่งศาสตร์มืด บิดาแห่งวงการเพลงเฮฟวีเมทัลขึ้นเวที Back to the Beginning ครั้งสุดท้ายท่ามกลางสาวกกว่า 4 หมื่นคนและ Live Stream ไปทั่วโลก ที่วิลลาปาร์ค ในบ้านเกิดเบอมิงแฮมป์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจากนั้นไม่นานป๋าออซก็เพิ่งจะลาจากโลกนี้ไปหลังขึ้นเวทีเพียง 17 วันเท่านั้น เล่นเอาช็อกกันเลยทีเดียว… ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะกับการเปิดเพลงของป๋าออซเท่านี้อีกแล้ว เปิดเพลงของป๋าออให้สุดเสียงไปเลย

นี่ไม่ใช่แค่ฟังเพลงเมทัล…แต่มันคือการเคารพตำนาน ด้วยระบบที่ถ่ายทอดได้ทั้ง พลังดิบ ความหม่น ความหนัก และอารมณ์เพี้ยนๆ แบบที่ Ozzy มีครบ

“No More Tears” เสียงเบสลากยาวแต่ควบคุมได้ดี เมื่อเสริมมวลชั้นล่างแบบไม่บวม Solo กีตาร์ของ Zakk Wylde ฟาดหัวได้สะอาด ใส แต่ยังเจ็บ

“Mr. Crowley” ให้เวทีเสียงกว้าง เสียงออร์แกนต้นเพลงลอยแบบหลอนๆ แล้วค่อยบีบอัดเข้าใส่

ป๋าร้องเสียงพุ่งอยู่ตรงกลาง กีตาร์ของ Randy Rhoads ไหลลื่นทรงพลังไม่โดนซับกลืน

คู่ควรที่ Ozzy Osbourne จะปิดฉากตำนานเวทีการมีเซ็ตนี้อยู่ที่บ้านคือการให้เกียรติเขาอย่างแท้จริง ดูซีนคอนเสิร์ตสุดท้ายผ่าน YouTube ยังสนุกและซึมซับบรรยากาศเหมือนได้อยู่หน้าเวทีในวิลลาปาร์ค… แม้ตัวมันจะอยู่หน้าชั้นวางทีวีก็ตาม

ผมเองได้ฟัง Linn DS จนถึง DSM มาทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นเล็กยันรุ่นเรือธง ให้เสียงเป็นเอกลักษณ์ที่มี DNA เดียวกัน มีเพื่อนพ้องเล่นก็หลายคน… ข้อเด่นที่อยากบอก… Linn ยึดการออกแบบระบบเสียงแบบเปิด ขณะที่คู่แข่งหลายรายมีระบบ ecosystem ปิด ก็ต้องใช้กับอุปกรณ์แบรนด์เดียวกัน หรืออาจไม่รองรับระบบอย่าง Roon, AirPlay หรือ Streaming services โดยสมบูรณ์

Majik DSM กลับตรงข้าม เปิดกว้าง รับได้ทุกสัญญาณดิจิทัล (จาก USB, HDMI, Optical) รองรับ Wi-Fi / Bluetooth ใช้งานกับลำโพงทั่วไปได้สบาย รวมถึงรองรับ multi-room แบบไม่ล็อกแพลตฟอร์มความมั่นใจระยะยาว คู่แข่งบางรายผลิตในระดับ mass production อาจไม่ได้อัปเดตเฟิร์มแวร์ต่อเนื่อง มีอายุการสนับสนุนสั้น ก็แปลว่า “ตกรุ่นเร็ว” แต่ Linn จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

Linn มีแนวทางชัดเจน “ผลิตรุ่นน้อย ดูแลนาน” คิดดูซิเครื่องรุ่นเก่ากว่า 10 ปีหลายรุ่นยังได้รับอัปเดตซอฟต์แวร์ของ Majik DSM ยังอิงระบบเดียวกับรุ่นเรือธงของ Linn เอง

ฟังได้จริงไม่ต้องแต่งเสียง เครื่องบางรุ่นอาจจูนเสียงมาให้ “สนุก ตื่นเต้นทันที แบบฉาบฉวย” เช่น เบสบูสต์ กลางพุ่ง หรือเน้นซาวด์สเตจกว้างเกินจริง แต่ Linn Majik DSM กลับยืนบนความเที่ยงตรงให้เสียง โปร่ง ใส เป็นธรรมชาติ รายละเอียดดีเยี่ยม ฟังได้นานไม่ล้าหู

Linn Majik DSM ยึดความเป็น All-in-One ที่แท้จริง คู่แข่งบางรุ่นยังต้องมี External Power Amp หรือ Phono Stage เสริมในขณะที่ Majik DSM มาแบบครบจบ — Integrated Amp ที่มาด้วย DAC, Streamer, Spdif In/Out, Phono MM/MC, Amp, HDMI eARC, Analog In, Line Out และ Sub Out ที่ขยับขยายได้ในอนาคตถ้าต้องการโดยไม่ต้องขายทิ้ง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ยังรองรับระบบ Exakt ของ Linn ด้วย
Majik DSM + Linn 119 เซ็ตเดียว “จบอย่างมืออาชีพ” ใช้กันยาวๆ ไม่ตกรุ่นง่ายๆ

เหมาะสำหรับคนที่ฟังหลากหลายแนว (Digital / Vinyl / TV / Streaming) นักฟังที่ต้องการระบบที่ไม่หลอกหู ผู้ใช้ที่ต้องการ “เสียงจริง” โดยไม่ต้องจัดชุดใหญ่ หรือแม้ผู้ที่อยากเข้าสู่วิถีของ Linn โดยไม่ต้องการที่จะไปถึง Selekt / Klimax จึงเป็นเครื่องเสียงที่ให้เสียงดนตรีจริงเป็นธรรมชาติ ดีไซน์หรู ฟีเจอร์ครบ จูนเสียงให้เข้ากับห้องได้ง่าย พร้อมใช้ทันที

Majik DSM (2025) ไม่ใช่แค่ Integrated amplifiers All-in-One แต่มันคือเครื่องเล่นที่สามารถวางใน All in Zone จะบนโต๊ะทำงาน หน้าทีวีในห้องนั่งเล่น หรือห้องฟังจริงจัง ตัวเดียวอยู่ไว้ตรงกลางทุกอย่าง ดีไซน์หรู ให้เสียงจริง ฉลาด รองรับการเชื่อมต่อครบอะนาล็อกและดิจิทัล ยิ่งเมื่อจับคู่กับ Linn 119 สี Satin White… ให้ตายซิ มันคือชุดเครื่องเสียงที่คุณอยากเปิดฟังทั้งวันในทุกวัน ไม่อยากเปลี่ยนไปไหนอีกเลย ยิ่งกับนักเล่นมือใหม่ที่ต้องการของพรีเมียม Linn Majik DSM + 119 จะเป็นตัวจบก็ยังได้หรือจะไปต่อก็ได้ และเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆ… จริงอยู่ที่อาจไม่ใช่ “เครื่องเสียงที่ดีที่สุด” แต่คือ “สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด” ที่ใช้เงินซื้อมาเลยนะ. ADP

Majik DSM
ราคา 215,000 บาท       ราคาพิเศษ 195,000 บาท

ลำโพง 119
ราคา 125,000 บาท        ราคาพิเศษ 115,000 บาท

system Majik DSM + 119
ราคา 340,000 บาท        ราคาพิเศษ 280,000 บาท

(ถูกกว่าซื้อแยกถึง 30,000 บาท)

*ราคาพิเศษนี้ สิ้นสุด 1 เดือนนับจากวันที่รีวิว*

นำเข้าและจำหน่ายโดย
Linn Flagship Store
Siam Paragon 215B 2nd Floor, 10330
โทร. 094-194-1464

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ