Pachanko Labs: Constellation Mini
เป็นมากกว่า Roon Core… HIGH-END DIGITAL TRANSPORT จากผู้ผลิตเมืองน้ำหอม
นิยามบทใหม่ของ Computer Audio Transport ที่ต้องสัมผัส
เปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับฟังเสียงของ Digital Streaming อย่างไม่เคยได้ยินมาก่อน

สวัสดีครับ… ทุกคน
มาคุยกันถึงของดี ค่าตัวไม่แรงกันบ้างจาก audiophile go digital ฉบับออนไลน์กัน
กับนิยามบทใหม่ของ Hi-End Computer Audio Transport ที่กำลังร้อนแรง
สงสัยล่ะซิว่า ทำไม Roon Core บน “Super Hi-End Computer Audio Transport”
ค่าตัวเรือนล้าน… ดีก็ไม่แปลก แต่ถ้าค่าตัวหลักหมื่นก็เฟี้ยวได้ล่ะ สนมะ!!!

Intro

Roon “ตัวตึง” ที่ “ปัง” สุดใน พ.ศ.นี้ ซึ่งก็เป็น Computer Audio Software นั่นเอง ทำงานบนคอมพิวเตอร์ได้ทุก OS ไม่ว่าจะบนคอมตัวบิ๊กเบิ้มจนกระทั่งตัวจิ๋วสุด บทความต่อไปนี้จะตอบคำถามว่า Roon ทำงานบน OS ตัวไหนดีที่สุด มาฟังเหตุและผลกัน

Roonรวบ “ฟังก์ชันสตรีมมิ่งครบทุกมิติ” เล่นกลับ ถอดรหัส จัดการคลังแสง (Render / Decoder, Music library and / Or Cloud Service TIDAL, QOBUZ, + Internet Radio) ไว้ด้วยกัน เชื่อมต่อกับเครื่องเสียงที่ถูกเรียกว่า RAAT (RoonAdvanced Audio Transport) มีไฮไฟที่เป็นพันธมิตรมหึมา เครื่องเล่นปลายทางถูกเรียกว่า Roon Ready (Roon Endpoint) เมื่อ Roon Core ทำตัวเป็น Server ได้ จึงถูกออกแบบให้เล่นได้หลายเครื่องพร้อมกันแบบ Multi Room ไปด้วย ใช้งานก็ง่าย ถูกควบคุมสั่งการด้วยปลายนิ้ว

Roon มีส่วนช่วยผลักดันให้นิยามว่า Computer Audio กลับมาน่าสนใจมากขึ้น ส่วนตัวเริ่มให้ความสนใจตั้งแต่ Roon version 1.6 เป็นต้นมา ฉลาดและเสียงดีขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดด มาถึง Roon 2.0 นี่ดีเลย มีแอปอีกตัวที่เรียกว่า Roon ARC ทำงานคล้าย iTunes on Cloud ประมาณว่าแม้จะอยู่นอกบ้านก็สามารถฟังเพลงจากคลังแสงส่วนตัวที่เปิดทิ้งไว้ ผ่าน Smart Devices ได้ ซึ่ง Roon ARC น่าจะเริดกว่า

… ไม่ปฏิเสธว่าโน้ตบุ๊ก / คอมพิวเตอร์ทำงานทั่วไป ดูหนังฟังเพลงได้ แต่จะดีเพียงไรต่างหาก อย่าเพิ่งเบ้ปากว่าเอาเรื่องเก่ามาเล่าอีก… ไม่เลย นี่คือ New Chapter ในนิยามใหม่ของ Computer Audio ที่พลาดไม่ได้

... สนใจ Roon Core ที่ให้เสียงดีกว่า Roon ติดตั้งบนโน้ตบุ๊ หรือ MAC Book หรือแม้ Roon Core สำเร็จรูป ก็ตามมาเลยกับ Pachanko Labs: Constellation Mini..

Why TRANSPORT?

ในโลกดิจิทัลออดิโอ Transport ก็คือตัวอ่านข้อมูลที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่า D/A Converter ก็เพราะ Transport คือตัวต้นทางที่ส่งผ่านข้อมูลดิจิทัลไปยัง DAC นั่นเอง

เครื่องเล่น ไฮไฟในยุคดิจิทัล ประกอบเป็น 2 ส่วนคือ ตัวอ่านแผ่นหรือเรียกว่า Transport*** ซึ่งเป็นการทำงานประสานระหว่างเมคคานิกส์และอิเล็กทรอนิกส์ (Mechatronics) และตัวแปลงรหัส (Converter) ซึ่งก็คือ DAC* (Digital to Analog Converter) นั่นเอง ตัวอย่างชัดๆ ก็เช่น ตัวแทนของดิจิทัลออดิโออย่างเครื่องเล่นซีดีก็จะติดตั้ง CD Transport และ DAC ไว้ภายในนั่นเอง

ยุคสตรีมมิ่ง Transport ยังคงอยู่ อาจกลายเป็น Network Transport / Streamer แล้วแต่จะเรียก… จากอ่านแผ่นผ่านหัวอ่านทำหน้าที่เป็น Renderer & Decoder ประมาณว่าทำหน้าที่อ่านข้อมูลดิจิทัลจากไฟล์ตรงๆ รวมถึงแปลงไฟล์เป็นข้อมูลดิจิทัลเล่นกลับส่งต่อไปให้กับ DAC รับหน้าที่เพื่อแปลงสัญญาณเป็นอะนาล็อกเช่นเดียวกับใน CD Player ไง

ปัจจุบันอาจจะคุ้นที่จะเรียกว่า Streamer Player / Network Player อื่นๆ อีกมากมาย ล้วนประกอบด้วย Transport และ DAC ทั้งสิ้น Transport ในยุคนี้จะตัดการทำงานของเมคคานิกส์ออกไป ประกอบด้วยหน่วยประมวลผล คงหนีไม่พ้นคำว่าคอมพิวเตอร์นั่นเอง นาทีนี้มันอยู่รอบตัวเราไปหมด แม้กระทั่ง Smartphone ที่อยู่ในมือทุกคนก็ดูหนังฟังเพลงได้ ล้วนประกอบด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น แม้ไม่ได้มาตัวเป็นๆ แบบคอม Desktop / Notebook จะแบบไหนก็ตามล้วนประกอบเป็น 3 ส่วนดังนี้

Body (Hardware) >> Software: Soul (Software :OS) + Skill (Software: Application)

ในบรรดาสรรพสิ่งในโลกล้วนมีองค์ประกอบ 3 ส่วนที่สำคัญยิ่งคือ

ร่างกาย จิตวิญญาณ และทักษะความสามารถ ไม่ว่าสัตว์ มนุษย์ ยนตรกรรม แม้กระทั่งคอมพิวเตอร์

ที่บัดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องเสียงไฮเอนด์ในหมวดดิจิทัลออดิโอไปแล้ว มาดูกันว่า… เห็นด้วยกับที่ผมเปรียบเปรยหรือไม่?

Body (HARDWARE)

ความหมายของร่างกาย (Body) นั้นคือสรีระ โครงสร้างดีนั่นเอง ยนตรกรรมต้องมีแอโรไดนามิกส์ดี สำหรับเรานักเล่นเครื่องเสียงภายใต้แชสซีส์ที่ต้องสวยดูดี ต้องดีจากฐานล่าง ชีลด์ป้องกันการรบกวนจากภายในและภายนอก ถูกติดตั้งด้วยแผงวงจร (PCB) ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกรดสูง ที่เรียกว่า Mother board (Main Board), Chip sets (Sound I/O) ส่วนหัวใจก็คือขุมพลัง หน่วยประมวลผลหลัก (CPU) >> ที่อาจจะคุ้นกันดี คือ Intel, AMD, ARM… Apple M… Etc.) ซึ่งล้วนต้องมีระบบระบายความร้อนทั้งสิ้น + หน่วยความจำ Memory RAM… และ (HDD, SSD) + Chipset + Graphic Card + Sound Card + ระบบเครือข่าย (Network PCB) อุปกรณ์ที่กล่าวมานี้ล้วนมีหลายมาตรฐานซึ่งราคาต่างกันลิบลับ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบที่ต้องให้ความสำคัญ เช่น เส้นสายและ PSU (Power Supply Unit) ด้วย

SOUL: SOFTWARE: OS (Operation Software)

ร่างกายจะมีชีวิต เคลื่อนไหว มีความนึกคิดได้ด้วย จิตวิญญา (Soul) คอมพิวเตอร์คือวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง คอมพิวเตอร์จะทำงานได้ต้องอาศัย OS (Operation System) หรือชุดปฏิบัติการ ซึ่งก็คือจิตวิญญาของคอมพิวเตอร์นั่นเอง ซึ่งมีหลายตัวแล้วแต่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับ Hardware เช่น OSX, Windows, LINUX, Android หรือ VitOS โดยจะทำงานได้สมบูรณ์แบบต้องประสานกับร่างกายคือ Hardware ที่ดีนั่นเอง

ภาพจำที่คอมประกอบเองจากพันธุ์ทิพย์ อุตส่าห์ควักเงินครึ่งแสนเลือกแต่พาร์ตดีๆ แต่เจอกับปัญหาแฮงค์ประจำจนเบื่อเพราะไม่แมตช์หรือไม่ Compat (Uncompatible) นั่นเอง ตรงนี้คือปัญหาที่ MAC จะไม่พบเลยเพราะถูกคุมไว้หมดนั่นเอง

Skill (Applications: Audio Software)

ในหนัง Matrix นีโอ พระเอกสามารถถูกอัพสกิลทักษะการต่อสู้ โดยการส่งผ่านข้อมูลดิจิทัลวิชาการต่อสู้ให้เก่งกาจได้อย่างรวดเร็ว ความเชี่ยวชาญ เสือมีสัญชาตญาณนักล่า ถ้าเป็นรถอิตาเลียนต้องขับสนุก ท้าทาย เร้าใจมีเสน่ห์เฉพาะตัว ชวนหลงใหล อาจมีความสะดวกสบายน้อยกว่ารถค่ายอื่น

คอมพิวเตอร์เช่นกัน ถ้าทำงานก็ใช้เป็น Microsoft Office, Photoshop เล่นเพลงของฟรี iTunes, Foobar, เสียตังค์ก็มี AMARA, Audirvana จนถึง Roon ที่จ่ายเป็นรายเดือนเหมาปีหรือซื้อขาด ถ้าใช้งานอื่นเฉพาะ บางทีก็อาจจะเรียกเป็นแพลตฟอร์ม Music Server เช่น StreamMagic, BluOS, LINN OS, Esoteric’s Sound Stream แล้วแต่จะเรียก

Application: Music Software เล่นเพลงส่วนใหญ่หน้าที่หลักก็ต้องมีฟีเจอร์เล่นกลับและแปลงสัญญาณเสียง (Render & Decode) ทั้งสิ้น โดยอาจมีฟังก์ชัน Music Server จัดการคลังแสงฉลาดๆ ด้วย

เมื่อมารวมร่างกับภาคแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลเป็นอะนาล็อก DAC (Digital to Analog Converter) ก็จะกลายเป็น Player นั่นเอง

Computer Audio >>

Audio Software: แอปพลิเคชันเล่นเพลงเกิดมานานมากแล้วตั้งแต่ยุคที่เราแต่งเสียง เล่นเพลงบนคอมด้วย MIDI, Wins Amp หรือ iTunes บนคอม โตไปเป็น HT PC PC Audio พัฒนาเปลี่ยนผ่านมาเยอะ JRiver, JPLAY PURE Music จนถึง iTunes, AMARA, Audirvana Plus/Studio เรื่อยมาถึง Roon ที่ติดตั้งได้แทบจะทุกแพลตฟอร์มและมีพันธมิตรกว้างขวางมากด้วยซิ

ออดิโอไฟล์ที่เล่นไฮเอนด์ชุดเบิ้มๆ อาจจะดูแคลนกับการเอาคอมโน้ตบุ๊กมาฟังเพลง แม้เวลาผ่านไปมีการเปลี่ยนรูปแบบไปเล่นเครื่องเล่น Streamer แต่ Computer Audio ยังไม่หายไปไหน...

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์แทรกมาอยู่ในห้องฟังแทบทุกห้องไปแล้วในฐานะ Digital Streamer, NAS, Music Server, Network Player หรือเป็นได้ทั้ง Storage/Player ที่ใกล้ตัวและ “ปัง” ใน พ.ศ.นี้เรียกว่า Roon Core ล้วนมีติดห้องกันแทบทุกบ้าน แปลว่า พวกคุณยอมรับมันไปแล้ว ซึ่งจริงๆ ก็คือคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ นั่นแหละคร้าบ

สงสัยบ้างไหมว่า Roon Core ติดตั้งบนอะไรเสียงดีที่สุด คำตอบคือ Roon Core ที่ถูกติดตั้งบน Computer Audio Transport ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ที่ทำขึ้นเฉพาะนั่นเอง มันเหมือนกับเสื้อสั่งตัดนั่นแหละ

Roon on Computer Audio

Roon Core ที่มีบน OSX ของ MAC ก็ติดตั้งทำงานได้ดี แต่อาจไม่ได้ดีที่สุด เพราะ Apple ไม่เปิดโอกาสให้ Tweak หรือทำอะไรมากนัก ทำได้เพียงปิด Service บางตัวเท่านั้น จึงไปได้ไม่สุด

“Roon Labs ขาย Roon Software License แบบขายขาดและรายปีก็รวยไม่รู้เรื่อง และยังมีผลิตภัณฑ์ Roon Core สำเร็จรูปออกมาขาย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าก็ใช้ Windows เป็น OS” และเป็นที่ยอมรับของกลุ่มไฮเอนด์ ดังนั้นจึงไม่มีข้อกังขาใดๆ ที่ Windows OS สำหรับ Roon คือทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้

มาดูเหตุผลอื่นอีกนิด จะเห็นว่าตรงนี้ Windows เริ่มตีตื้นขึ้น มี Audio Software รวมถึง Hardware ในหลายระดับให้การสนับสนุนมากขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยมีทำขายเป็น Commercial มากนัก เพราะเริ่มมีมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

HiEnd... Windows Computer Audio… today

ปัจจุบัน Windows พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด Windows10 ถือว่าทำออกมาเพื่อสนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้ดี เกิดการพัฒนาต่อยอด มี Audio Software, Drivers ช่วยให้ Tweak BIOS* (ตัดแต่งพันธุกรรม)ได้สุดติ่ง ประกอบกับมีผู้ผลิตอุปกรณ์คุณภาพสูงให้เลือกมากขึ้น

ยังมีผู้ที่รู้วิธีที่จะจัดการกับ Noise ที่เกิดขึ้นในตัวคอมพิวเตอร์เองซึ่งเป็นจุดเปราะบางได้อย่างดีเยี่ยม ผู้ผลิตไฟแรงจับแนวทางตลาดเฉพาะกลุ่มที่ต้องการความแตกต่างของ Digital Audio ผู้ผลิตที่นำเสนอ Computer Audio Windows OS ที่ยังคงขายจุดเด่น เริ่มออกแบบเป็น Commercial มีทางเลือกมากขึ้น แนวทางการออกแบบหลากหลายขึ้น ใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงจัดการเรื่อง Noise แบบเด็ดขาด ผลิตประกอบประณีต ทั้งนี้เพื่อรองรับการ Tweak สุดๆ แบบลงลึกให้ได้ Latency ต่ำ จัดการ Isolation จัดการกับ Noise อย่างหมดจดเพื่อให้ได้เสียงดีที่สุด ตั้งค่าให้ใช้งานง่ายแบบ Plug and Play ที่ใครก็เล่นได้ ถือเป็น New Chapter Computer Audio อย่างแท้จริง

*ไบออส หรือ BIOS (Basic Input / Output System) คือ โปรแกรมที่อยู่ในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ตรวจสอบการเชื่อมต่อของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ภายในเครื่อง ทุกครั้งที่เราเปิดเครื่อง BIOS จะทำงานก่อนเป็นอันดับแรก ที่เราสามารถบูตเข้าระบบปฏิบัติการได้ก็เพราะ BIOS นี่แหละที่เรียกข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ให้ทำงาน

Make for…!

สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง ค่าตัวมีหลายสเตปตามกำลังทรัพย์
ต้องใช้งานง่าย ติดตั้งง่ายแบบ Plug and Play แปลว่าไม่ต้องเซียนก็เล่นได้
มีความเสถียร ไม่กวนใจ สวย คงคุณค่า ใช้งานได้ยาวนาน
ค่าตัว หลักหมื่น ขยับสูงเป็นสเตป ระดับเรือนล้านก็มี หนึ่งในนั้นก็คือ Pachanko Labs ผู้ผลิตที่อยู่ในวงการมานับสิบปี มีผลิตภัณฑ์หลายตัวให้เลือก

Pachanko Labs

บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสก่อตั้งในปี 2013 โดยกลุ่มคนสี่คนที่เป็นทั้ง audiophile, music lover, Engineers ซึ่งมี Passion ในดิจิทัลออดิโอที่ให้ความแตกต่างอย่างไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งนี้เพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้แก่นักแสวงหาผู้ต้องการความแตกต่าง ซึ่งก็คือกลุ่มไฮเอนด์นั่นเอง

จากฐานผลิตใน La réunion. เร-อูว์-นี-ยง เกาะในมหาสมุทรอินเดียแถวมาดากัสการ์ สมาชิก EU กลุ่มแรกๆ ประมาณนี้… ก็ไม่เคยไปเสียด้วยซิ

Vision & Mission

เป้าหมายเพื่อนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงในจุดสำคัญที่สุดของระบบสู่โลกใหม่ของดิจิทัลออดิโอ มุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เครื่องเสียงไฮเอนด์ โดยเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพสูงและเหมาะสมที่สุดในแต่ละรุ่นของผลิตภัณฑ์ ออกแบบ คัดสรร โดยไร้ซึ่งการประนีประนอม จูนเสียงให้ส่งผลดีที่สุด เชื่อว่า จะสร้างความตื่นตลึงให้กับผู้ใช้ชนิดไม่เคยได้ยินเช่นนี้มาก่อน

Products

ผลิตภัณฑ์ในระยะแรกคือสินค้าประเภทเส้นสาย ซึ่งยังพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน เช่น สายอะนาล็อกประเภท Inter connects, Power cable ส่วนฟากดิจิทัลก็มี Ethernet LAN cable, USB, SPDIF(Coax) ก็ไม่แปลก แต่ดันมีผลิตภัณฑ์ SATA cable ด้วยซิ แปลว่าเอาจริงแฮะ อ้อๆ ยังมีสายกราวด์และภาคจ่ายไฟแบบ LPSU (Linear Power Supply Unit) ด้วย

Pachanko Labs: CAT (Computer Audio Transport) …!

บอกอยู่แล้วว่าเป็นทรานสปอร์ต ก็ต้องเชื่อมต่อจาก Digital Output ให้กับภาค DAC (Digital to Analog Converter) ภายนอก กลายเป็นเครื่องเล่นดิจิทัลออดิโอชั้นดี จะด้วยสาย USB หรือ LAN cable เป็นพื้นฐานที่ทำได้ทุกรุ่นอยู่แล้ว จะมีบางรุ่นที่เลือกออปชันได้ ยังมีหลายรุ่น ค่าตัวหลักหมื่น หลักแสน หลายๆ แสน หลักล้านก็มีให้เลือก

Pachanko Labs: CONSTELLATION Series ทุกตัวใช้หลักการออกแบบที่เป็นพื้นฐานเดียวกันดังนี้ เป็น Computer Audio Transport ชั้นดี ออกแบบ ผลิต ประกอบด้วยมือ ติดตั้งบนตัวถังอะลูมินัมซึ่งเป็นวัสดุที่ส่งผลต่ออะคูสติกส์และคุณภาพเสียง นอกเหนือจากตัวโครงสร้างที่สวย ประณีต เป็นงาน Hand-crafted ประดุจเครื่องเสียงไฮเอนด์ชั้นดีชิ้นหนึ่งในห้องฟัง ตรงนี้ใครๆ ก็อาจทำได้ใช่ไหม แต่ไหนจะมี Hardware เป็นแผงวงจรอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะ อย่างตัวเล็กสุดก็หาใช่นำแผงวงจรของมินิคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปมายัดลงไปในเคสหรูๆ ให้ดูดี ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่ทำให้เป็น Roon Core เสียงดี เช่นการวางอุปกรณ์สายสัญญาภายใน รู้ว่าต้องใช้อะไร จัดการอย่างไรให้ได้เสียงดีที่สุด ที่นักคอมพิวเตอร์เพียวๆ จะไม่มีวันเข้าใจ

BODY >> Silent Operated

การจัดวางเพื่อให้ได้การทำงานที่เงียบ ไร้เสียงรบกวนใดๆ จากภายใน ติดตั้งด้วยอุปกรณ์ที่เป็นสแตติกส์ไร้การเคลื่อนไหว ติดตัว Damping ให้กับอุปกรณ์ซึ่งปราศจากเมคคานิกส์เป็น Statics parts เช่น Fanless (ไร้ซึ่งพัดลมระบายความร้อน) จาก CPU และ Graphic card ก็เพราะถูกออกแบบให้ NO graphic card ไร้ซึ่งการ์ดจอนั่นเอง RAM & ใช้ SSD สำหรับ OS ทำให้เปิดเครื่อง Boot ได้ไว รวมถึง Memory storage, NO Sound Card ไร้ซึ่งการ์ดเสียง รวมถึงออกแบบภาคจ่ายไฟภายในและให้รองรับภาคจ่ายไฟจากภาคนอก ทั้งหมดย่อมส่งผลต่อคุณภาพเสียงโดยรวมด้วย

อุปกรณ์ภายในประกอบร่างกับเคสที่เป็นอะลูมินัมเป็น Hardware (BODY) ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ณ ราคานั้นๆ จัดการกับกระบวนการเสียงเช่น isolation สัญญาณเสียงดิจิทัล audio processes เช่นตัดการรบกวน Low Jitter, Noise management อย่าง Galvanic Isolation ขจัดปัญหากับระบบ Ground loop รวมถึง Graphene Shield เป็นการจัดการกับการรบกวนใดๆ ของ EMI (Electro Magnetic Interference) ซึ่งก็คือปัญหาใหญ่ที่ต้องจัดการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั่นเอง

SOUL >> Sound Quality built

คอมพิวเตอร์ก็คือวงจรอิเล็ทรอนิกส์ จะทำงานได้ก็ด้วย OS หรือชุดปฏิบัติการนั่นเอง Pachanko Labs ทุกรุ่นติดตั้ง OS เป็น Windows 10 ซึ่งเปิดโอกาสให้จัดเต็มแบบ Fully Tweak BIOS เพื่อให้ได้ Latency ต่ำ ทั้งนี้เพื่อคุณภาพเสียงสมูไหลลื่น ดีเยี่ยม เช่นเครื่องเสียงไฮเอนด์ต้องการนั่นเอง

SKILL>> Audio Software

เมื่อสรีระ ประสานกับจิตวิญญาณที่ดีเยี่ยมแล้ว ทันทีที่ติดตั้ง Roon หรือ HQ Player, JPLay ให้มัน คอมพิวเตอร์ตัวนี้ก็เหมือนถูกอัปสกิลเป็นนักดนตรีเทพขึ้นมาทันใด

Just… Plug and Play >>

เสียบสาย 2 -3 เส้นแล้วเปิดทิ้งไว้ได้เลย สามารถ Remote access โดย AnyDesk app เพื่อ custom ให้ได้ Performance สูงสุด หมายถึงเสียงดีที่สุดด้วย

Product Models

ก็เพราะ Pachanko Labs “รักทุกคน” พูดเหมือนพี่เบิร์ดเลย อยากให้ทุกคนที่รักเสียงจากดิจิทัลออดิโอ มีโอกาสใช้ของดีในงบประมาณตามกำลังของแต่ละคน กำหนดค่าตัวไว้เหมาะสม “หลักหมื่นยันเหยียบล้านบาท” เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องเสียงจากชุดกลางๆ จนถึงชุดเบ้งๆ สมฐานะระดับ Ultra Hi-End กันเลยทีเดียว

>> ใช้ชื่อรุ่นว่า Pachanko Labs Constellation เป็น Series จากตัวเริ่มต้น สู่รุ่นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนี้

  • Pachanko Labs: Constellation Mini
  • Pachanko Labs: Constellation Mini SE
  • Pachanko Labs: Constellation Reference
  • Pachanko Labs: Constellation SE
  • Pachanko Labs: Constellation Masterpiece

Pachanko Labs Constellation Mini CAT (Computer Audio Transport)

นิยามบทใหม่ของคอมพิวเตอร์ออดิโอ ที่คุณชายสายสตรีม ทอมมี่ แห่ง Prestige HiFi หิ้ว Constellation Mini น้องเล็กสุดท้องตัวเครื่องสีเงิน ซึ่งที่จริงมีสีดำให้เลือกด้วย มาประจำการในห้อง Home Studio แถบชานเมือง หลังจัดวางคู่กับ Mola Mola TAMBAQUI Streaming DAC แล้ว ยังไม่ทันเซ็ตอัพผมก็ชวนไปซดเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็ก นายหมูจิ๋วแถวบ้านซะคนละชามสองชาม ก่อนขอตัวไปเปิดร้าน ส่วนผมเองก็มีคิวเข้ากล้อง Live Stream เสียด้วย จากนั้นค่อยโทรมาถามว่าลื่นหรือไม่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับรุ่นพี่ Constellation ทุกตัวคือเป็น Roon Core ที่ติดตั้งชุดปฏิบัติการ Windows 10 ผ่านการทำ customization และ optimization มาเพื่อให้เป็น High-End Roon Core โดยเฉพาะ ถูกจูนมาด้วยชั้นเชิงวิศวกรคอมพิวเตอร์ผู้ช่ำชองและเข้าใจธรรมชาติเสียงดนตรี เพื่อให้ได้ latency ที่ต่ำที่สุด มีการออกแบบวงจรและอุปกรณ์ภายในมาอย่างดีเลิศ ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เกรดสูงสุดในระดับราคาเดียวกัน เช่น ช่อง USB และ LAN มี Galvanic Isolation และ Graphene Shielding ไร้พัดลมและเมคคานิกส์ใดๆ ที่จะทำให้เกิดเสียง รวมถึงการรบกวนใดๆ ทำให้ noise และการรบกวนต่ำที่สุดเพื่อส่งผลต่อคุณภาพเสียงนั่นเอง

เมื่อเชื่อมต่อกับ Streamer และ DAC ตัวที่ใช้อยู่ เผื่อใครก็ตามที่เล่นเพลงด้วย Roon สามารถใช้ Panchako Labs CAT” เป็น Roon Core music server ที่สมบูรณ์แบบ ถือเป็น New Chapter ของ CAT (Computer Audio Transport) ที่ทำหน้าที่ Roon Core อันทรงคุณค่า ให้เสียงแตกต่างจากที่เคย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ตัวอื่นๆ กันเลยทีเดียว

BODY & SOUL > CHECK IN

ภายใต้อะลูมินัมเคสอะลูมินัมอโนไดซ์สีเงิน ถ้าวางแนวนอนจะเห็นว่าหลังเครื่องเป็นครีบฮีตซิงก์ที่ดูดี มี 2 สีให้เลือกคือเงินและดำ ที่แน่ๆ คือคอมพิวเตอร์ในเคสหล่อดูดี ขนาดกะทัดรัดแบบ Half Size ซึ่งจะวางตั้งหรือนอนก็ได้ ผมตั้งแนวนอนเพื่อให้คู่ควร เมื่อได้วางคู่กับ MOLA MOLA : TAMBAQUI Streaming DAC ดูเข้ากันเชียว อีกอย่างถ้าวางตั้งเกรงว่าสาย LAN เส้นใหญ่และหนาจะรั้งด้วยครับ

Constellation Mini หาใช่ NUC ในเคสหล่อเพื่อให้ดูดี ทำตัวกลมกลืนกับเครื่องเสียงเท่านั้น แต่เป็นอะไรที่มากกว่า ภายในติดตั้งไว้ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกรดดีจากการออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด

ด้านหน้ามีปุ่มปิดเปิดเครื่องและไฟ LED ดวงเล็กจิ๋วอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ใกล้กันจะมีช่องเสียบ USB 2.0 หนึ่งช่องเพื่อหน่วยความจำภายนอก ด้านขวาบนมีชื่อ Pachanko เป็นตัวอักษรตัวเขียน ด้านข้างมีกริลระบายความร้อนให้อากาศไหลผ่าน

ด้านหลังมีช่องเสียบ USB 3.0 เพื่อหน่วยความจำภายนอก เช่นกัน USB 2.0 อีกช่องก็เพื่อเสียบ DAC ภายนอก ขั้ว RJ45 (LAN cable) มีมาหลังเครื่อง 2 ขั้ว ขั้วทางซ้ายเป็น LAN dlNA ปกติ ส่วนทางขวาเป็นช่องของ DIRETTA*

DIRETTA จากญี่ปุ่น เป็นการส่งผ่านข้อมูลดิจิทัลใน Protocol ใหม่ผ่านเน็ตเวิร์ก หลักการใช้งานคล้าย Network Bridge ต้องซื้อออปชัน Software ที่จะทำให้ Pachanko กลายเป็น DIRETTA HOST และอุปกรณ์เสริมอีกตัวที่เรียก DIRETTA TARGET มาต่อเข้ากับ DAC… ไม่ขอลงรายละเอียดล่ะนะ

ยังมีภาคจ่ายไฟมากับเครื่องด้วย 12 v DC adapter ภายนอกซึ่งถ้ามีงบเหลือก็สอย Stellar Linear Power Supply มาเป็นอุปกรณ์เสริมด้วยก็จะแหล่ม

ตามสรีระของ Mini ตัวนี้ติดตั้งขุมพลังมาแบบพอตัวด้วย Intel CPU 4 core และ 8 GB RAM บน Industrial custom modules ถูกแขวนลอยขึ้นจากด้านบนของเคสสำเร็จรูปเกรดพรีเมียมขนาดคอมแพ็ค ฮีตซิงก์หลังเครื่องถูกประกบกับตัวเฟรม ด้านข้างทั้งสองทำเป็นกริลให้อากาศหมุนเวียน มีเสาสี่มุมที่ถูกแดมป์ด้วยซิลิโคนซึ่งเป็นวัสดุรับแรงสั่นสะเทือนได้ทุกด้านไม่ว่าจะวางแนวตั้งหรือแนวนอน

เช่นเดียวกับรุ่นพี่ที่ใช้ Windows 10 OS ตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อให้ได้ latency ต่ำ ทำให้การส่งผ่านข้อมูลดิจิทัลที่บริสุทธิ์สมบูรณ์ครบถ้วน Pachanko เคลมว่าเป็น Clock-less (No TCXO, OCXO…) เสียด้วย อธิบายตรงนี้ว่าเมื่อจัดการได้สมบูรณ์ Latency ต่ำมากๆ Data Transfer จะสมบูรณ์ ก็จะไม่เกิด Jitter ใดๆ สัญญาณมาอย่างไรก็ส่งผ่านไปแบบนั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้ CLOCK เทพเช่น TCXO, OCXO อย่างที่คนอื่นคุยกัน ซึ่งควรเอาไว้ใช้ตรงภาค D to A จะดีกว่า

ภายในเป็น Fanless มีชีลด์ที่ดีเลิศ ประสานการทำงานของ Windows OS ที่จัดเต็มตัดแต่งแบบสุดๆ ทำงานเงียบ สงัดเพื่อผลรวมที่ดีต่อคุณภาพโดยรวม ได้เสียงธรรมชาติของเครื่องดนตรีอย่างแท้จริงออกมานั่นเอง

(SKILL) Applications: Audio Software (customer choice)*

เช่นเดียวกับนีโอ … CONSTELLATION ภาคบังคับทุกตัวจะถูกอัปสกิลด้วย Roon (Default) ให้เป็น Roon Core ชั้นดี มาพร้อมใช้งาน ส่วน Roon ทำอะไรได้ก็ตามนั้นแหละไม่ต้องอธิบาย เพียงแต่เราต้องมี Roon License เป็นของตัวเอง หรือจะเลือกติดตั้ง Application ตามความชอบเป็นออปชัน เช่น Diretta, JPLAY แต่ไปต่อ HQ Player ไม่ได้นะ ถ้าอยากได้คุณต้องไปต่อกับรุ่นสูงกว่านี้ถึงติดตั้งได้ ตรงนี้ก็ตามกำลังทรัพย์เลย

และทันทีที่ติดตั้ง Audio Software ก็เท่ากับเป็นการอัทักษะ (SKILL) ให้มันทำตัวเป็นนักดนตรีที่เก่งกาจได้อย่างแน่นอน

Just Plug and Play

หน้าปัดมีอยู่แค่ปุ่มปิดเปิดปุ่มเดียวจะให้ทำอะไรอีกล่ะ เสียบสาย LAN, USB และสายไฟเข้าเครื่องจาก 12v DC adapter ก็เพียงเปิดทิ้งไว้ แล้วอาจลืมไปได้เลยว่ามีมันอยู่ จนกว่าจะใช้ Roon Remote เลือกเพลงมาฟังนั่นแหละถึงจะรู้ว่ามันมีตัวตน

ปกติคอมพิวเตอร์ Windows เดิมต้องตั้งค่าพอสมควร แถมตัวมันก็ขยันอัปโน่นนี่นั่น ต้องลง driver เสมอ บอกเลยว่าง่ายขนาด เสียบสายครบก็เปิดเครื่องได้เลย ทุกอย่างจัดการมาเรียบร้อยแล้ว ในที่นี้คือจากเสี่ยทอมมี่จัดการให้ แต่ว่ากันไปแล้วขณะติดตั้งหน้างานก็อาจทำได้เอง แต่ถ้าปรับแต่งนี่กดมาจากฐานปฎิบัติการใน เร-อูว์-นี-ยง โน่นเลย ประมาณว่าเขาสามารถ Remote Access เพื่อ customization ให้เราได้ โดย Config ผ่านทางแอป AnyDesk ประมาณว่าเขารู้บ้านเลขที่เรา ไม่ว่าเครื่องจะอยู่ที่ใดในโลก

ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะแมตชิ่งกับอุปกรณ์ประเภท Streamer / DAC ของเราเลย เปรียบเหมือนสูทสั่งตัดที่ช่างวัดตัวอย่างละเอียด สามารถปรับแต่งได้ตามสภาวะการใช้งานจริงอย่างแท้จริง ลืมไปได้เลยกับคำว่า “ไม่แมตช์” (Uncompatible)

ไม่น่าเชื่อว่า ค่าตัวเท่านี้ก็ได้สิทธินี้เช่นเดียวกับเครื่องเสียงราคาเรือนล้าน ที่ทำให้ Pachanko Labs CAT แตกต่างจาก Mini / Micro computer ที่ทำหน้าที่เป็น Roon Core ทั่วไปในตลาดไงล่ะครับทุกคน

Control & Set Up

ถ้าเป็นแฟน Roon ก็ต้องคุ้นกับ Roon Remote app บน Smart Devices ซิ ที่สามารถตั้งค่าทุกอย่างได้หมด เช่นเลือก Audio Output จัดการกับคลังแสงและตั้งค่าอื่นๆ ไม่ขอลงรายละเอียด ทีนี้ก็เลือกเล่นเพลงได้แล้ว

the Ways we connect…

เมื่อ Constellation MINI เป็นทรานสปอร์ตซึ่งไม่มี DAC ในตัว เพียงจับคู่กับ DAC ตัวโปรดหรือ Streamer ที่มี จริงอยู่ที่เราสามารถใช้งานได้หลายรูปแบบจากพื้นฐานยันสุดติ่งกันไปเลย เปิดประสบการณ์แบบ >> Ultimate<< กันไปเลย ซึ่งทำได้โดย

1. ใช้กับเครื่องเล่นที่เป็น Roon Ready (Roon Endpoint) ก็เช่น > Streaming DAC, Streamer เพียงเชื่อมต่อผ่านnetwork ด้วย RAAT (Roon Advance Audio Transport) ตามปกติของ Roon เอง

2. ใช้กับ USB DAC โดยต่อผ่านช่อง USB 2.0 หลังเครื่อง เพราะมี Galvanic Isolation & Graphen Shielding เพียงเลือกใช้ WASAPI driver ที่สามารถปรับแต่งให้ได้เสียงที่ดีที่สุดสำหรับ DAC ตัวนั้นๆ

3. ผ่าน DIRETTA อันเป็น protocol ใหม่จากญี่ปุ่นในการรับส่งเพลงผ่านทาง network ที่ว่ากันว่าให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด Pachanko Labs รับบทเป็น DIRETTA Host ทางฝั่ง DAC ต้องมี DIRETTA Target (USB-DAC Bridge) Diretta Host กับ Diretta Target เชื่อมต่อกันด้วยสาย LAN ซึ่งว่ากันว่าสงัดมาก เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ลองฟัง

4. Ultimate Playback experience จัดแบบสุดๆ ใช้ Pachanko Labs Constellation 2 ตัว ตัวแรกเป็น Roon Core (Default) เชื่อมบนเน็ตเวิร์กผ่าน Network Switch กับตัวที่ 2 เป็น Network Bridge (ต้องตั้งค่าผ่าน ANYDESK) ใช้ตัวที่สองต่อเชื่อมกับ USB DAC หรือขั้วต่ออื่นตามออปชันที่เลือก โดยทาง Pachanko แนะนำว่าให้น้ำหนักการลงทุนมาที่ Roon Core มากกว่า น่าสนใจแฮะ ยังไม่มีโอกาสได้ลองเช่นกัน

Hook Up

ต่อแบบพื้นฐานใน 2 ข้อแรก ให้ Constellation Miniเป็น Roon Core อย่างเดียว โดยที่ MOLA MOLA TAMBAQUI เป็น Streaming DAC ต่อทาง LAN และ USB cable ก็ได้ เวลาใช้ให้เลือกใช้เอา

Pachanko Labs Constellation Mini จับคู่มากับ MOLA MOLA: TABAQUI Streaming DAC กลายเป็นสุดยอด Front End ในทันที เพียงลากสาย XLR คู่เดียวไปเข้าแอมป์ VITUS เจ้าถิ่นได้เลย โดยต่อพ่วงเป็น 2 แบบคือทั้ง LAN cable และ USB cable สะดวกแบบไหนเลือกเอาได้เลย แม้ว่าเล่นจาก Roon Core ตัวเดียวกัน บอกเลยว่าเสียงต่างกันแน่นวล เลือกเปิดได้จากแอปตามชอบ

ShowTime

ทันทีที่เปิดเครื่อง ใช้เวลาชั่วครึ่งอึดใจก็ Boot เครื่องเสร็จ พร้อมใช้งานแล้ว ควัก iDevices ขึ้นมาเปิดแอป Roon Remote ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Constellation Mini ทันที

ตั้งค่าบน Roon เข้ามาที่ Setting > Audio > จัดการ Enable กับอุปกรณ์ตั้งชื่อ TABAQUI ซะ เช่น Roon Ready และ USB output ให้เลือก WASAPI Exclusive Mode ก็แค่นี้เอง

จากนั้นก็เช่นปกติ เพราะตัวที่ส่งมาไม่มีหน่วยความจำติดตั้งมา ซึ่งเป็นออปชันเลือกได้ถึง SSD 8 TB แค่เลือกไฟล์เพลงจาก NAS ส่วนตัวให้ Roon Index ลงไปใน Library จากนั้นลงทะเบียน Tidal, QOBUZ เพียงแค่นี้ก็จะเข้าสู่คลังแสงสุดขอบฟ้าที่จะกู่ไม่กลับ เพราะเพลินกันไปเลย

DIGITAL SOUND AS YOU’VE NEVER HEARD BEFORE

ความต้องการของนักเล่นที่ตื่นเต้นได้ลองของใหม่นั้นเป็นกันทุกคน ต้องเสียงดี ให้ความแตกต่างได้ มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ใช้งานง่าย เสถียร ไม่งอแง ตรงนั้นคือจุดเด่น

แม้เสียงดีให้ตาย แต่โค-ตร “กวนใจ” ต้องเล่นท่าไม้ตายถึงจะได้ฟัง หรือเล่นไปซ่อมไป เปิดครั้งใดต้องลุ้นตลอด จะไหวมะ ประมาณว่าถ้าไม่ผ่านข้อใดข้อหนึ่ง คงจะไปต่อได้ยาก

อาจมีคนเล่นเฉพาะกลุ่ม “คอแข็ง” เท่านั้น!!!

ด้วยรูปลักษณ์ที่เนี้ยบของ Pachanko Labs Constellation Mini นั้นดูดีมีสกุล ใช้งานง่ายมาก เสถียร ไม่กวนใจ การทำงานเงียบเหมือนไม่มีตัวตน ถูกออกแบบมาดีให้ส่งผลต่อ Background noise ที่ต่ำ จึงได้ความสงัด ถูก custom รีดเค้นและแมชิ่งกับซิสเต็มของเราให้ส่งประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้เป็นเสียงจาก Digital Streaming ที่ดีที่สุดในจุดที่อาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ดีกว่า เหนือกว่าโดยสิ้นเชิงของ Roon Core ที่ทำงานบน PC หรือ MAC ตัวใดๆ เมื่อฟังเพลงของศิลปินวงโปรด หลากหลายแนว คงจะทราบนะว่าแนวไหน ไม่ตอบว่าผมฟังได้ทุกแนวหรอก เดี๋ยวจะหาว่า “ไม่มีจุดยืน”… ฮา

เมื่อ Constellation Mini ถูกวางสรีระ (BODY) อย่างประณีต สวมหัวจิตหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณ (SOUL)ที่แกร่งมีสติ สยบทุกความเคลื่อนไหว เสริมจุดแข็งยิ่งขึ้นเมื่อถูกอัปสกิลของทักษะ (SKILL) เล่นเพลงอย่าง Roon ที่เก่งอยู่แล้วอย่างถูกทาง ย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพเสียงโดยรวมแน่นอน

ความสงัดส่งผลให้เสียงเป็น Analog liked ให้เสียงโอบล้อมมีตัวตนแบบ Full Body มี Sound stage 3D มีเวทีใหญ่โอ่อ่า ให้ Dynamic Headroom ดีเยี่ยม เผยรายละเอียดเล็กๆ ระยิบระยับดีขึ้นมากในระดับ Micro และ Macro details เมื่อไร้ซึ่งความเพี้ยนจึงให้เสียงเป็นออแกนิกส์ที่สะอาดเป็นธรรมชาติมาก พร้อมกับเสียงร้องที่เป็นธรรมชาติ อิ่มฉ่ำมีตัวตน เบสทรงพลัง สามารถถ่ายทอดเสียงตามเนื้อแท้ของเสียงดนตรีที่ออกจาก MOLA MOLA TAMBAQUI ซึ่งให้เสียงเป็นอะนาล็อกลื่นหูน่าฟัง แต่มีสปีดไม่เฉื่อยอยู่แล้ว ถือเป็นคู่หูที่คู่ควรทีเดียว

จริงๆ แล้ว Constellation Mini คงคู่ควรกับ DAC เทพหลายตัวได้อยู่แล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่า Constellation รุ่นสูงกว่านี้จะไปได้ไกลเพียงไร

เมื่อได้ฟังอัลบั้มเก่งจากศิลปินวงโปรดอย่าง DireStrait: Love Over Gold อัลบั้มเก่งเป็นไฟล์ DSD สังเกตได้ถึงความสงัด ได้ยินสำเนียงกีตาร์ของพี่มาร์กก้องกังวาล กระจะแจ้งแบบไม่เคยได้ยินมาก่อน PinkFloyd: Animal (2018 Remix) ว้าว ไม่เคยฟังอัลบั้มนี้เพราะเท่านี้มาก่อนเลยให้ตายซิ และ Porcupine Tree: Closer and Continuation อัลบั้มสตูล่าสุด เข้าถึงอารมณ์ พี่ตบเบสได้สะใจ กลองของน้า Gavin ที่หวดได้มันสะใจจริงๆ ลูกเล่นแต่ละลูก เสียงหัวไม้กระทบหนังกลอง กลองกระเดื่องที่ถูกย่ำ เสียงฟาดสแนร์กระจาย เล่นได้สุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่อัลบั้มแสดงสดนะ ทำไมนึกภาพถึงพวกพี่ๆ น้าๆ กำลังเล่นในคอนเสิร์ตในขณะกำลังทัวร์กันอยู่แฮะ

เครื่องเสียงเสียงดีจะนำพาให้ดื่มด่ำสู่ห้วงนทีแห่งเสียงดนตรี หลุดเข้าไปในบรรยากาศของคอนเสิร์ตฮอลล์แบบไม่ยาก ได้บรรยากาศ Live music เต็มๆ ฟังเพลงแนวอะไรก็เพราะไปหมด เพลิดเพลินไปกับแนวเพลง ฟังสนุก ฟังได้นาน บอกเลยว่าบ่อยครั้งที่หลานสาวแม่ยายต้องมาเคาะห้องฟัง Home Studio ว่าจะทานข้าวเย็นไหม

Welcome to a “New world of digital audio playback”.

Pachanko Labs Constellation MINI Computer Audio Transport อีกหนึ่งทางเลือกที่ สายตรีมติด Roon” ห้ามพลาด มิเพียงเป็น HiEnd Roon Core ตัวย่อม แต่เป็นมากกว่าคำว่า Roon ที่จะพาให้ชุดเครื่องเสียงของคุณยกระดับเสียงให้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ตัวเริ่มต้นที่พร้อมจะเป็นตัวจบถ้าไม่ไปต่อก็หยุดตรงนี้ได้ แต่ถ้ารำคาญแสง LED หลังเครื่องแยงตาขณะดับไฟดูหนังนัก จะขยับไปต่อก็ยิ่งเริด ไปให้ถึงตรงนั้นไม่ยาก ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะความก้าวล้ำของโลกดิจิทัลและเงินในกระเป๋า

นี่คือ Hi-End Roon Core ในนิยามบทใหม่จาก Pachanko Labs CAT ที่สมบูรณ์แบบ สวยดูดีเสียงดี ควบคุมด้วยปลายนิ้ว แนะนำให้นัดหมายเพื่อทดลองฟังได้ที่ Prestige HiFi ครับ. ADP

Introductory Price 59,000 บาท ถึง 31 ธ.ค. 2565

นำเข้าและจำหน่ายโดย Prestige HiFi
โทร 063-638-4498
LINE ID: TMY168-2

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ