ชานนท์

ห่างหายไปนานกับรีวิวชุดโฮมเธียเตอร์แยกชิ้นที่จัดเต็มแบบ AV Receiver + ชุดลำโพงไฮไฟศักยภาพสูง ที่เป็นได้ทั้งชุดดูหนังแล้วก็ฟังเพลง บอกได้เลยว่าชุดนี้ เสียงดี ดีไซน์สวย ขนาดกำลังเหมาะ จัดวางในห้องตามบ้านทั่วไปได้ง่าย ที่สำคัญ ทางตัวแทนจำหน่ายกำลังทำราคาโปรโมชั่นอยู่ด้วยครับ

โดยในชุด ประกอบไปด้วย Marantz SR6015 AVR กับชุดลำโพง Monitor Audio Silver 7G (Silver 200 Floorstanding + Silver 50 Bookshelf + Silver C250 Center โปรโมชั่นจะแถมลำโพงซับวูฟเฟอร์ SVS SB1000 Pro ให้ด้วย แต่ไม่ได้นำมาทดสอบในรีวิวนี้ครับ)

Marantz: SR6015 AV Receiver

มาเริ่มกันที่หัวใจหลักของโฮมเธียเตอร์ชุดนี้ คือ AV Receiver รับหน้าที่โดย Marantz SR6015 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นโดยย่อ ดังนี้ครับ

  • ภาคถอดรหัสเสียงรอบทิศทางยุคใหม่ ทั้ง Dolby Atmos, DTS:X รวมถึง IMAX Enhanced
  • ภาคขยาย 9 แชนเนล กำลังขับ 110W/Ch (8 ohm, 20 Hz – 20 kHz, 0.05% 2 ch Drive) รองรับลำโพงมัลติแชนเนลสูงสุดที่ 5.2.4 หรือ 7.2.2 และสามารถขยับขยายได้ถึง 7.2.4 แชนเนล เมื่อเชื่อมต่อกับ Power Amplifier ภายนอกทาง 11.2 ch Pre out
  • HDMI 2.1 In 1 ช่อง, Out 2 ช่อง รองรับสัญญาณ 8K 60Hz, 4K 120Hz รวมถึง HDR และ VRR Pass-through และมี Video Up-scaler สามารถอัพสเกลสัญญาณภาพได้ถึง 8K 60Hz ในตัวด้วย
  • มี HDMI Zone 2 Out กระจายสัญญาณไปยังห้องอื่น รองรับ 4K 60Hz
  • มี eARC เพื่อรับสัญญาณเสียงจาก Smart TV
  • เป็น Network Music Streamer ในตัว กล่าวคือ สามารถรับฟังบริการเพลงออนไลน์ยอดฮิต (ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) อย่าง Tidal, Spotify, TuneIn Internet Radio รวมถึงสตรีมเพลงระหว่างอุปกรณ์ อาทิ NAS, Smartphones, PC ผ่าน Local Network (LAN และ Wi-Fi) หรือเชื่อมต่อ USB Flash drive/HDD เล่นไฟล์เพลงโดยตรงผ่าน USB Input ที่ด้านหน้าตัวเครื่องได้ด้วย
  • ฟังก์ชั่น Bluetooth ของ SR6015 สามารถสลับหน้าที่เป็นได้ทั้ง ตัวรับ (Receiver) และ ตัวส่ง (Transmitter) จึงเชื่อมต่อทั้งรับและส่งสัญญาณเสียงแบบไร้สาย ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น
  • สามารถเชื่อมต่อหูฟังเพื่อฟังเสียงแบบส่วนตัวในช่วงเวลาที่ไม่อยากรบกวนใคร ได้ทั้งแบบต่อสายทางช่อง 6.35mm Headphones Out (ปรับโวลุ่มที่ AVR) และไร้สายผ่าน Bluetooth Transmitter (ปรับโวลุ่มที่หูฟังบลูทูธ)
  • มี Audyssey MultEQ XT32 Speakers Auto Calibration พร้อมไมโครโฟน ช่วยในการเซ็ตอัพลำโพงรอบทิศทาง และสามารถเซฟค่า Speaker Preset แยกอิสระได้ 2 ชุด

เดี๋ยวผมจะขยายความเกี่ยวกับคุณสมบัติข้างต้น พร้อมแนวทางการใช้งานอีกที แต่ก่อนอื่นมาดูอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง และดีไซน์ตัวเครื่อง SR6015 กันครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง นอกจากตัวเครื่อง SR6015 แล้ว มีเอกสาร Quick Start Guide, สติ๊กเกอร์ติดสายลำโพง, ขาตั้งไมโครโฟนกระดาษ ในซองเดียวกันมีเสาอากาศ Wi-Fi/Bluetooth, สายอากาศรับวิทยุ AM/FM, Audyssey Microphone, Remote Control พร้อมแบตเตอรี่ และสายไฟเอซี

หลายคนน่าจะคุ้นรูปลักษณ์ SR6015 กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นดีไซน์ที่ Marantz ใช้มานาน ก่อนที่จะปรับโฉมใหม่ไปเร็วๆ นี้เอง ใน Cinema Series

ช่องรับสัญญาณให้มาครอบคลุม นอกจาก HDMI In 7 ช่อง (ในจำนวนนี้เป็น HDMI 2.1 1 ช่อง), Out 3 ช่อง (ในจำนวนนี้เป็น HDMI Zone 2 1 ช่อง) ยังมี Digital Audio Coaxial และ Optical In อย่างละ 2 ช่อง, Analog Audio In 5 ช่อง, MM Phono Input เชื่อมต่อรับสัญญาณจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงโดยตรงได้ และมี 11.2 Ch Pre out ให้ขยับขยายอัพเกรดแชนเนลลำโพงเพิ่มเติมในอนาคต

ภายในติดตั้งวงจรภาคขยาย Class AB กำลังขับ 110 วัตต์ จำนวน 9 แชนเนล ผนวกเข้ากับส่วนประกอบที่เอื้อต่อคุณภาพเสียงเมื่อใช้ฟังเพลงตามแบบฉบับของ Marantz นอกเหนือจากภาคถอดรหัสเสียงรอบทิศทาง ทั้ง 192kHz/32-bit DAC พร้อม Hybrid PLL Clock Jitter Reducer และวงจร HDAM

HDMI 2.1 & 8K Video Up-scaler

ปัจจุบัน AVR รุ่นใหม่ๆ ทยอยให้ช่องต่อ HDMI 2.1 (40Gbps) เพื่อรองรับมาตรฐานระบบภาพ 8K 60p, 4K 120p รวมถึง HDR (Dolby Vision, HDR10+, HLG) และ VRR Pass-through เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ SR6015 ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่จะต่างจาก AVR รุ่นล่าสุด ตรงที่มี HDMI 2.1 In ช่องเดียว ถามว่าเป็นปัญหาไหม? ก็ไม่นะ…

ปัจจุบันมาตรฐานคอนเทนต์วิดีโอภาพยนตร์ไม่ต้องการศักยภาพของระบบถึงระดับ HDMI 2.1 (HDMI 2.0 ก็เพียงพอ) จะมีก็เฉพาะฝั่งเกม ซึ่งถ้ามีเครื่องเกมยุคใหม่มากกว่า 1 เครื่อง สำหรับ SR6015 แนะนำให้เชื่อมต่อสัญญาณจากเครื่องเกมตรงเข้าที่ทีวี แล้วค่อย eARC/ARC สัญญาณเสียง กลับมาที่ AVR ครับ

SR6015 มี Video Processor พร้อมให้อัพสเกลสัญญาณภาพใดๆ ก็ตามให้ขึ้นไปได้ถึง 8K 60Hz อย่างไรก็ดี กรณีที่ต้องการเชื่อมต่อสัญญาณจากเครื่องเกมคอนโซล และ PC รวมถึงใครที่ต้องการเชื่อมต่อ Video Scaler ภายนอกคุณภาพสูง แนะนำให้ตั้งค่า Bypass Video Processor ของ SR6015 ที่หัวข้อ Video/Output Settings ตัวเลือก Video Mode โดยเปลี่ยนเป็น “Game” เพื่อ Pass-through สัญญาณออกไป โดยไม่ผ่านการประมวลผลซ้ำซ้อน ป้องกันการเกิด Input Lag

Online + Local Network Music Streaming with USB Hi-res Files Playback

เมื่อเชื่อมต่อ SR6015 กับเครือข่ายบ้าน (ทาง LAN หรือ Wi-Fi ก็ได้) จะสามารถสตรีมเพลงออนไลน์ หรือระหว่างอุปกรณ์ใน Local Network มาฟังได้ โดยจะสตรีมผ่าน HEOS app ด้วย Smartphone ตามภาพ หรือจะควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลที่ตัวเครื่อง AVR โดยตรงก็ได้ เช่นเดียวกับการเลือกไฟล์เพลง จัดทำ Playlist จาก USB Flash Drive/HDD ด้วย

Bluetooth Receiver & Transmitter

นอกจากทำหน้าที่รับสัญญาณเสียงแบบไร้สายจากอุปกรณ์ Bluetooth เพื่อมาฟังกับชุดลำโพงไฮไฟ-โฮมเธียเตอร์ ได้แล้ว SR6015 ยังสลับหน้าที่เป็นตัวกลางส่งสัญญาณเสียงจากอุปกรณ์ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับ AVR แล้วส่งออกแบบ Bluetooth ไร้สายไปยัง Bluetooth Headphones/Speaker ได้ด้วย

Audyssey MultEQ XT32 Auto Speaker Calibration

อย่างที่ทราบกันดีว่า หากต้องการรีดศักยภาพของชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ออกมาใช้อย่างเต็มที่ จะเลี่ยงกระบวนการเซ็ตอัพไปไม่ได้ ซึ่งระบบ Audyssey ที่มาพร้อมกับไมโครโฟนวัดเสียง เข้ามาช่วยเหลือในจุดนี้ได้ดี

ผลลัพธ์จากระบบ Audyssey Auto Calibration อาจแตกต่างกันไปตามแต่ซิสเต็มและสภาพแวดล้อม แนะนำให้ตรวจสอบผล ทดลองฟังเสียง แล้วทำการไฟน์จูนตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้นอกเหนือจากค่าลำโพงพื้นฐาน อย่าง Level, Distance และ Crossover (Bass Management) แล้ว  อาจทำการปรับเปลี่ยนเปรียบเทียบผลลัพธ์ในหัวข้อ Audio/Audyssey (ตัวเลือก MultEQ XT32 คือ Room EQ) ดูด้วยครับ

ซึ่งตัวเลือกในหัวข้อ Audio/Audyssey นี้ จะกำหนดตั้งค่าแยกอิสระสำหรับแต่ละอินพุตแหล่งสัญญาณ หากทำการเปลี่ยนแปลงที่อินพุตหนึ่ง ก็ต้องต้องดูที่อินพุตอื่นๆ ด้วย

กรณีที่ต้องการไฟน์จูนในส่วนของ Room EQ เพิ่มเติม สามารถทำได้ละเอียดผ่าน Audyssey MultEQ Editor app บน Smartphones หรือ Tablet (ทำได้ละเอียดกว่า Manual Graphic EQ) แต่แอพมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ

พักในส่วนของ AVR ไว้เท่านี้ก่อน มาดูลำโพงในชุดนี้กันบ้าง ซึ่งขอบอกว่าทั้งคุณภาพเสียงและหน้าตา ดูโดดเด่นไม่ธรรมดาเลยครับ!

Monitor Audio Silver 7G

นักเล่นเครื่องเสียงน่าจะคุ้นชื่อ Monitor Audio กันดี อีกหนึ่งผู้ผลิตลำโพงสัญชาติอังกฤษเก่าแก่ ขวัญใจออดิโอไฟล์ที่มีอายุอานามกว่า 50 ปี ซึ่งไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียง ลำโพงยุคหลังๆ ยังออกแบบมาได้สวยเก๋เข้ากับยุคสมัยดีมาก อย่างรุ่นเรือธงล่าสุด Hyphn ก็เสียงดี และดูสวยล้ำเกินจินตนาการสุดๆ

สำหรับ Silver Series 7G ถือเป็นลำโพงบ้าน รุ่นระดับกลางบน เป็นรอง Gold Series 5G แต่เหนือกว่า Bronze Series 6Gรองรับการใช้งานเป็นลำโพงไฮไฟ หรือจัดชุดเป็นลำโพงโฮมเธียเตอร์ได้

ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดชุดโฮมเธียเตอร์ Silver Series 7G ประกอบด้วย Silver 200 7G ลำโพงตั้งพื้นขนาดเล็กสุดของซีรี่ส์ ติดตั้งตัวขับเสียงแบบ 2.5 ทาง ทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่หน้า, Silver 50 7G ลำโพงวางขาตั้ง 2 ทาง ขนาดเล็กสุดของซีรี่ส์ ใช้ไดรเวอร์ชุดเดียวกันกับ Silver 200 ทำหน้าที่เป็นลำโพงเซอร์ราวด์ และลำโพงเซ็นเตอร์หนึ่งเดียวของซีรี่ส์รับหน้าที่โดย Silver C250 จัดเต็มด้วยการออกแบบเป็นลำโพง 3 ทาง แบบ W(T/M)W ใช้ตัวขับเสียงขนาดเดียวกับลำโพงคู่หน้าและเซอร์ราวด์ แต่เพิ่มเติม Mid-range ขนาด 3 นิ้ว เข้ามา

ความพิเศษของลำโพงซีรี่ส์นี้ คือ “ตัวขับเสียง” ที่ใช้วัสดุผสมอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม และเคลือบผิวชั้นนอกด้วยเซรามิก ตามชื่อ C-CAM (Ceramic-Coated Aluminium/Magnesium) อันเป็นเทคนิคสุดล้ำที่ได้มาจากการพัฒนาวัสดุศาสตร์เพื่อใช้กับเทคโนโลยีด้านอากาศยาน จึงมั่นใจได้เรื่องความแข็งแกร่งทนทานเมื่อนำมาทำเป็นไดรเวอร์ลำโพง

จุดที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของ Monitor Audio มากๆ คือ “โดมทอง” C-CAM Gold Dome Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ผสานเข้ากับ Uniform Dispersion (UD) Waveguide II ตะแกรงโลหะที่นอกจากช่วยป้องกันการกระทบกระแทกแล้ว ยังทำหน้าที่ควบคุมมุมกระจายเสียงได้กว้างขวาง แต่ขณะเดียวกันก็คงความแม่นยำ ลดทอนเสียงสะท้อนอันไม่พึงประสงค์เพื่อรายละเอียดเสียงที่เที่ยงตรง

ส่วนวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว คือ C-CAM พร้อม Rigid Surface Technology (RST) II โครงสร้างหลุมเล็กๆ หลากหลายขนาดกระจายตำแหน่งอยู่บนพื้นผิววูฟเฟอร์ มีหน้าที่เสริมความแกร่งป้องกันการผิดรูป เมื่อวูฟเฟอร์ต้องทำงานในสภาวะอันหนักหน่วง

อีกจุดที่นับว่าเด่นไม่แพ้กัน คือ การออกแบบรูปลักษณ์ลำโพงได้ลงตัวสวยเก๋มาก เฉพาะผิวลำโพงก็มีให้เลือกถึง 5 แบบ ให้เข้ากับรสนิยม หรือสไตล์การตกแต่งภายใน ทั้งผิวดำเงาแบบเปียโน ผิวขาวด้าน ไปจนถึงผิวลายไม้แท้อ่อนและเข้ม ส่วนตัวผมชอบสีขาวมากๆ มันดูเรียบๆ สะอาดตา แต่ลงตัวเข้ากับวูฟเฟอร์สีขาว ตัดด้วยทวีตเตอร์สีทอง ถือเป็นหนึ่งในลำโพงที่ออกแบบมาได้สวยถูกใจ

หนึ่งในเคล็ดลับความสวยเรียบเนียนของแผงหน้าลำโพง คือ หน้ากากผ้ายึดติดด้วยแม่เหล็ก จึงไม่จำเป็นต้องมีเดือยหรือรูยึดอะไรบนหน้าลำโพงให้เกะกะสายตา

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง Silver 200 ลำโพงตั้งพื้น นอกจากหน้ากากผ้า และคู่มือใช้งาน จะเห็นว่ามีขารองรับลำโพง 4 จุด และโฟมสำหรับอุดท่อเบส (มี 2 ชุด เพราะรุ่นนี้มี 2 ท่อ) ให้ใช้งานกรณีวางลำโพงชิดผนังหลังมากๆ ป้องกันเบสบูม

ส่วนลำโพงวางขาตั้ง และเซ็นเตอร์ จะให้วัสดุรองตู้ลำโพงแบบในรูปมาแทน ส่วนโฟมอุดท่อเบสมีเฉพาะลำโพงวางขาตั้ง (เซ็นเตอร์เป็นลำโพงตู้ปิดไม่มีท่อ) ว่าแต่จะให้ประแจหกเหลี่ยมมาทำไม?

หากสังเกตด้านหลังตู้ลำโพงของซีรี่ส์นี้จะเห็นหัวสกรูสีดำ (ตรงศรชี้ในภาพ) เป็นเทคนิคพิเศษในการยึดไดรเวอร์ลำโพง โดยใช้วิธีขันสกรูจากทางด้านหลังเพื่อดันให้ไดรเวอร์แนบติดกับหน้าตู้ แทนการขันสกูรยึดไดรเวอร์เข้ากับหน้าตู้ลำโพงโดยตรง (ต้องใช้สกรูมากกว่า 1 ตัว) ซึ่ง Monitor Audio ให้เหตุผลว่า แนวทางนี้ลดทอนการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนจากไดรเวอร์ไปยังตู้ลำโพงได้ดีกว่าครับ ความเพี้ยนเสียงที่จะเกิดขึ้นย่อมต่ำลง

อย่างไรก็ดี หากพบว่า สกรูเกิดการคลายตัว (ซึ่งคงไม่เกิดขึ้นบ่อย) สามารถใช้หกเหลี่ยนที่ให้มาขันสกรูกลับให้แน่นได้ครับ

หกเหลี่ยมสำหรับ Silver 200 ที่เป็นลำโพงตั้งพื้นนั้น ยังนำมาใช้ติดตั้งขารับลำโพงทั้ง 4 จุดด้วย ช่วยเพิ่มความมั่นคง เพราะขนาดตู้ค่อนข้างสลิม ขณะเดียวกันก็ไว้ปรับระดับ หากพื้นที่วางไม่ได้ระนาบ และยังเอาไว้ติดตั้งเดือยแหลม (Spike) เพิ่มเติมได้ กรณีที่ตั้งวางลำโพงบนพื้นพรม

ผมชอบการออกแบบโครงสร้างขาปรับระดับของซีรี่ส์นี้ มันใหญ่จับปรับหมุนได้ง่ายกว่าลำโพงหลายๆ รุ่น ที่หมุนปรับที่เดือยแหลมเล็กๆ (Spike) จากภาพจะเห็นว่า ผมไม่ได้ใช้เดือยแหลม เพราะวางกับพื้นไม้ หากปรับดีๆ ก็ให้ความมั่นคงดีครับ

ทั้ง 3 รุ่น ติดตั้งขั้วลำโพงไบดิ้งโพสต์ ชุบทอง ใช้เชื่อมต่อสายลำโพงได้อย่างมั่นคง หากต้องการสามารถอัพเกรดจัมเปอร์ที่เชื่อมระว่างขั้ว HF และ LF หรือเปลี่ยนไปใช้สายลำโพงแบบ Bi-wire หรือเชื่อมต่อแบบ Bi-amp ได้ครับ

คุณภาพเสียง

คำถามแรกที่ผมเชื่อว่าหลายคนอยากรู้ คือ SR6015 สามารถขับลำโพง Monitor Audio Silver 7G นี้ได้ดีแค่ไหน? ส่วนตัวผมถือว่าแฮปปี้กับผลลัพธ์ที่ได้เลยนะครับ ลำพังศักยภาพของ AVR ก็สามารถรับรู้จุดเด่นของลำโพงรุ่นนี้ได้ ทั้งรายละเอียดเสียงที่จะแจ้งชัดเจน ปริมาณเบสเกินตัว แต่ที่ว้าวสุดของลำโพงชุดนี้ คือ มิติเวทีเสียงในแบบลำโพงล่องหน

อาจด้วยขนาดที่เล็ก หน้าตู้ที่แคบ แต่เหนืออื่นใด คือ C-CAM Tweeter with UD Waveguide II ที่ให้มุมกระจายเสียงกว้างมันจึงกลายเป็นลำโพงตั้งพื้นที่เซ็ตอัพจัดวางให้ได้มิติเวทีเสียงแบบล่องหนได้ไม่ยากนัก ขอเพียงมีพื้นที่วางลำโพงห่างระหว่างกันอย่างเหมาะสม และห่างจากผนังทุกด้าน ซึ่งด้วยขนาดที่กะทัดรัด คงดำเนินการได้ไม่ลำบากเกินไป

อานิสงส์นี้ไม่ได้ส่งผลดีกับลำโพงคู่หน้าเท่านั้น กับ Silver 50 ที่ทำหน้าที่ลำโพงเซอร์ราวด์ ก็ให้บรรยากาศเสียงโอบล้อมได้ดีเช่นกัน และกลมกลืนผสานเข้ากับลำโพงอื่นในซีรี่ส์ได้อย่างลงตัว

ปริมาณเบสจาก Silver 200 เมื่อใช้งานแบบ 2 แชนเนล เพียงพอต่อการฟังเพลงแนวทั่วๆ ไป หากใช้งานเป็นลำโพงฟังเพลงอย่างเดียว จะไม่เสริมซับวูฟเฟอร์ก็ยังได้ครับ แต่กับชุดโฮมเธียเตอร์ ยังไงก็ต้องมีซับวูฟเฟอร์รับหน้าที่ถ่ายทอดย่าน LFE และแน่นอนว่านำมาเสริมย่านต่ำลึกให้กับ Silver 200 ก็จะรองรับแนวเพลงได้เต็มที่หลากหลายยิ่งขึ้นไปอีก

อีกหนึ่งพระเอกที่ต้องกล่าวถึง คือ ลำโพงเซ็นเตอร์ Silver C250 ด้วยลักษณะจัดวางตัวขับเสียง 3 ทาง แบบ W(T/M)W คือ ทวีตเตอร์วางเหนือมิดเรนจ์ ขนาบข้างด้วยวูฟเฟอร์ เมื่อบวกกับศักยภาพของ C-CAM Tweeter ในโครงสร้าง UD Waveguide II จึงให้มุมกระจายเสียงกว้างและเที่ยงตรง หรือจะเรียกว่า Sweet Spot กว้างก็ได้ ตำแหน่งรับฟังที่เบี่ยงออกไปด้านข้างไม่อยู่ตรงกับหน้าลำโพงก็ยังคงได้ยินย่านเสียงที่เที่ยงตรงครบถ้วนไม่ต่างกัน

มิดเรนจ์ขนาด 3 นิ้ว ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดเสียงกลางได้เด่นชัด แต่ที่สำคัญคือ ความต่อเนื่องที่กลมกลืนเข้ากับทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ จึงได้รายละเอียดเสียงที่ดี เนื้อเสียงที่เต็มอิ่ม ขณะเดียวกันวูฟเฟอร์คู่ขนาด 5.25 นิ้ว ยังคงให้ปริมาณเบสได้กลมกลืนเข้าคู่กับ Silver 200 ที่เป็นลำโพงตั้งพื้นได้ดี

การออกแบบ Silver C250 เป็นลำโพงตู้ปิดยังเอื้อสำหรับใครที่ต้องวางลำโพงเซ็นเตอร์ในซอกชั้นใต้ทีวี หรือวางชิดผนัง เพราะเสียงจะไม่บวมเบลอจากปัญหาเบสบวมมากนัก แต่ด้วยขนาดตู้ที่ค่อนข้างสูง ช่องชั้นคงต้องใหญ่หน่อย

จากศักยภาพที่ได้ นับว่าโฮมเธียเตอร์ชุดนี้ตอบโจทย์ครบถ้วนคุ้มค่า แต่ถ้าต้องการอัพเกรดเพิ่มเติมก็ทำได้

แนวทางการอัพเกรดในอนาคต

การเพิ่มลำโพงด้านสูงเพื่อให้รองรับระบบเสียงรอบทิศทางยุคใหม่อย่าง Dolby Atmos และ DTS:X จะเติมเต็มอรรถรสการรับชมภาพยนตร์ให้สมบูรณ์ขึ้นได้อีก ซึ่งในส่วนของ SR6015 AVR พร้อมรองรับตรงนี้อยู่แล้วครับ เพียงแค่หาลำโพง Up-firing Speakers ในซีรี่ส์เดียวกัน อย่าง Silver AMS 7G หรือลำโพงฝังฝ้า Monitor Audio ก็มีให้เลือกหลากหลายซีรี่ส์

หรือถ้าใครอยากอัพเกรดคุณภาพอีกขั้นด้วยการเพิ่ม Power Amplifier คุณภาพสูงก็ทำได้ครับ อันจะส่งเสริมให้ลำโพง Monitor Audio ซีรี่ส์นี้ ฉายแสงความโดดเด่นออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง SR6015 สามารถปรับเปลี่ยนหน้าที่เป็น Pre Amplifier เพื่อเชื่อมต่อลำโพงกับภาคขยายภายนอกได้แบบเต็มระบบ หรือจะอัพเกรดเฉพาะลำโพงคู่หน้าก่อนก็ได้

จะเห็นว่าประสิทธิภาพที่ได้จากโฮมเธียเตอร์ชุดนี้โดดเด่นคุ้มค่าในตัวมันเอง แต่ขณะเดียวกันก็รองรับการอัพเกรดขยับขยายเพิ่มเติมในอนาคตได้อีกยาวๆ หากสนใจ ลองไปสัมผัสของจริง และทดลองฟังเสียงกันครับ. VDP

ราคาทั้งเซ็ต 162,600 บาท

สอบถามเพิ่ม
บริษัท T.E.K. Marketing จำกัด
ติดต่อ.. คุณปราโมทย์ โทร. 084-000-2146