ในงาน BAV Hi-End SHOW 2022 #2 ไฮไฟโชว์ปลายปีที่ผ่านมา

Living Sound เปิดห้องฟังบนชั้น 11 เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด 2 รุ่นจาก YG Acoustics โดยที่ห้องแรกจะพบกับลำโพง Smart Active รุ่น YG Acoustics Vantage Live และห้องที่สองด้านในเป็นรุ่น Tor ลำโพงวางหิ้งจาก Peaks Series ซึ่งนำเสนอโดย Small Room ทั้งสองเป็นลำโพงรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวทั่วโลก

ในขณะเดียวกันที่จะพบว่ามีแขกคนสำคัญจาก YG มาประจำห้อง เพื่อตอบข้อซักถามเองเสียด้วย ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ Mr.Dick Diamond: Director of Sales & Marketing ผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องเสียง เพื่อให้รู้เบื้องลึกแนวทางออกแบบรวมถึงการทำตลาดเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ได้เลยครับ

Exclusive Interview:
Mr.Dick Diamond: Director of Sales & Marketing

พบกันช่วงเช้า เมื่อทักทายด้วย Good morning แต่น้าแกตอบกลับเป็นภาษาไทยซะงั้น…

“สวัสดีครับ” พูดทักทายด้วยภาษาไทยเสียด้วย Mr. Dick Diamond กล่าวกับเรา

คุ้นหน้ากันดีกับแขกของเรา ผู้เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้งหลังจาก Covid สำหรับ Mr.Dick Diamond: Director of Sales & Marketing จาก YG Acoustics ค่ายเครื่องเสียงไฮเอนด์อเมริกัน การมาเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ก็เหมือนเช่นทุกครั้งที่จะต้องเอนจอยกับอาหารไทยที่แสนอร่อย พบผู้คนที่น่าคบหาอย่างคุณบอลแห่ง Living Sound นี้ไง โดยเฉพาะ BAV Hi-End SHOW 2022 #2 งานไฮไฟโชว์ยิ่งใหญ่แบบนี้จะพลาดได้อย่างไรต้องแวะมาเมืองไทยเพื่อเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ พร้อมพบปะกับลูกค้าในเมืองไทยด้วยตนเอง  ต้องกล่าวคำว่า Welcome to BAV Hi-End SHOW 2022 #2

Bio

เกิดและโตในซอลล์เลคซิตี้ ยูทาห์ ส่วน YG Acoustics ตั้งอยู่ในเดนเวอร์ โคโรราโด เล่นกีตาร์มาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น รักเสียงดนตรีมาก เรียกว่าทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่จำความได้คุณพ่อของผมท่านต่อแอมป์ขึ้นเอง ผมนอนเกลือกกลิ้งอยู่หน้าชุดเครื่องเสียงของท่าน โตมากับมัน มีวงดนตรี เล่นกีตาร์โซโลในคลับด้วย ไอดอลของผมคือ Dan Fogelberg, David Crosby, Graham Nash, Kenny Loggin, James Taylor ศิลปินระดับตำนาน เชื่อแน่ว่าคนไทยคงชื่นชอบด้วยเช่นกัน อยู่ในแวดวงดนตรี Snow Skies และในที่สุดก็สู่วงการไฮไฟ ตั้งแต่ปี 1982 ประมาณว่าถึงปัจจุบันก็ 40 ปีมาแล้ว บางทีจะมากกว่าอายุนักเล่นบางคนเสียด้วยซ้ำ ทำงานอยู่กับ Kimber Cable ร่วม 10 ปี เคยคิดว่าจะปักหลักอยู่ที่นั่น จนในที่สุดปัจจุบันทำงานรับผิดชอบการตลาดให้กับ YG Acoustics ได้ประมาณ 15 ปีแล้ว เราพบกันหลายครั้งก็ถูกต้องแล้วครับ (บางส่วนจากบทสัมภาษณ์ครั้งก่อนหน้านี้)

YG Acoustics

YG Acoustics เป็นบริษัทเครื่องเสียงไฮเอนด์อเมริกันอยู่ในวงการมา 20 ปีแล้ว ปัจจุบันอยู่ภายใต้ผู้บริหารคนใหม่ไฟแรง Dr. Matthew Webster, CEO และ YG ยังคงเป็นผู้ผลิตลำโพงที่มีเทคโนโลยีของตัวเอง เช่นทวีตเตอร์ ForgeCoreTM และกรวยไดรเวอร์ BilletCoreTM ที่มีชื่อเสียง พร้อมตัวตู้อะลูมินัมรูปทรงเป็น Iconic shape ซึ่งให้เสียงดนตรีเปิดเผยตัวตนความเป็น YG โดยแท้ ทำลำโพงดังๆ ประดับวงการหลายรุ่น มีชั้นวางด้วยนะ เวลาผ่านไปก็ยิ่งแก่กล้า แข็งแกร่งขึ้นมาก และเกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมากมาย YG นำเสนอสิ่งใหม่เป็นที่ฮือฮาตลอดเวลา ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ขยายสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่อีกด้วย และเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมผมถึงออกทัวร์ครั้งใหม่ รวมถึงได้มาร่วมงาน BAV Hi-End SHOW 2022 #2 ครั้งนี้ที่กรุงเทพฯ

งั้นเข้าประเด็นคำถามกันเลย

– What are 3 Major Keys Success for YG!

YG Reference Series

สามคำตอบคือ

  • Best Sound Quality
  • Best Phase
  • Best Frequencies respond

มั่นใจมาก คำตอบชัดเจนแบบนี้ไม่ต้องขยายเลยครับ

– What make YG difference than others?

YG Sonja XV
  • “ผู้ที่ได้สัมผัส” จะรู้ว่า YG เป็นลำโพงที่ให้เสียงเป็นดนตรีอย่างแท้จริง ให้เสียงโปร่ง มีไดนามิกส์ยอดเยี่ยมมาก มีความเป็นดนตรีสูงกว่าลำโพงใดๆ ในระดับราคาเดียวกัน
  • รูปลักษณ์เป็น Iconic Shape เห็นเงาก็รู้ว่าเป็น YG Acoustics ซึ่งต้องขอขยายต่อนิดนึงว่าลำโพง YG ออกแบบให้มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ ใน Reference Series นั้นได้ Porche designed certified ด้วย
  • จุดเด่นอีกข้อของลำโพง YG คือ ออกแบบให้สามารถอัปเกรดได้หลายระดับ ซึ่งลำโพงอื่นไม่มีอีกด้วย

Mission this trip

New Products Introducing

YG Acoustics ได้เดบิวต์ประมาณว่า นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เมื่อปีก่อนหน้านี้ โดยได้ถูก Demo ในงานไฮไฟโชว์หลายแห่ง แต่อย่างที่ทราบกันว่าเนื่องจากภาวะขาดแคลนวัตถุดิบไปทั่วโลก ทำให้ Supply chain ติดขัด ส่งผลถึงแผนการผลิตที่ถูกเลื่อนออกไป ยังไม่สามารถผลิตส่งถึงมือลูกค้าได้ โชคดีที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เพิ่งจะเริ่มผลิตจริงจังเมื่อช่วงปลาย 2022 ปีนี้เอง

*Vantage Live และ *Peaks Series ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก YG ได้รับการตอบรับดีเยี่ยม บางรุ่นได้ส่งถึงมือลูกค้าอย่างMission ที่เปิดตัวในงาน BAV Hi-End SHOW 2022 #2 นี้เป็นครั้งแรก และยังเป็นการเปิดตัวในงานไฮไฟโชว์ลำดับต้นๆ ในภูมิภาคด้วยเช่นกัน

New Products Hi-light

*Vantage Live

Living Sound นำผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งได้รับรางวัล 2022 The Absolute Sound, Product of the Year Award ~ Integrated System of the Year – “YG Acoustics Vantage Live” (2,100,000 บาท) ถูกจัดวางบนห้องโชว์ชั้น 11 ในงาน BAV Hi-End SHOW 2022 #2 ที่ผ่านมา

ลำโพง YG Vantage หนึ่งในตระกูล Reference Series (Camel, Vantage, Hailey, Sonja, Sonja XV) ซึ่งทั้งหมดเป็นลำโพง Passive ประเภทวางพื้น (Floor Stand) ทั้งสิ้น

โดยใช้ YG Vantage Passive รุ่นดังซึ่งก็ยังอยู่ในสายการผลิต (1,300,000 บาท) มาติดยศเสียใหม่

YG Vantage หนึ่งคู่จับมาบูรณาการใหม่ให้เป็นลำโพง Smart Active ผสมผสานวงจรขยายเสียงที่มีกำลังขับอันทรงพลัง ใต้ฐานตู้ติดตั้งไว้ด้วย DAC ให้มีความสามารถในการสตรีมด้วย ที่ใช้งานง่ายไว้ในระบบเดียว เพียงเสียบลำโพงคู่หนึ่งและกล่องควบคุมขนาดเล็กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟบนผนัง เชื่อมต่อด้วยสาย ST-Type Optical cable เส้นบางๆ คู่หนึ่ง ที่อาจซ่อนใต้พรมไปเข้ากับกล่องควบคุมที่เชื่อมกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถติดตั้งไว้ที่ใดก็ได้ ในห้องฟังก็จะเหลือลำโพงคู่เดียววางไว้ รับรองว่าต้องถูกใจ

โดยสามารถเริ่มการใช้งานสั่งการสตรีมจากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ด้วยอินเทอร์เฟซที่ยอดเยี่ยมของ Roon (จำเป็นต้องสมัครสมาชิกการสตรีม ของ Tidal, QOBUZ) พร้อมอะนาล็อกอินพุตสำหรับเครื่องเล่นแผ่น รวมถึงโต๊ะหมุนทั้งหัวเข็ม MM และ MC เชื่อมกับกล่องควบคุมได้อย่างไร้รอยต่อ

The Vantage Live เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตลำโพง YG Acoustics จับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และ DAC อย่าง Bel Canto ค่ายอเมริกันอีกค่ายที่เป็น “ตัวตึงสายดิจิทัล” และบริษัทออกแบบ Cambridge Acoustic Sciences ของอังกฤษ เป็นการร่วมมือกันระหว่างสองทวีปที่มี Passion ร่วมกัน Vantage Live ถูกผสานรวมเข้าด้วยกัน จึงมอบคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม ให้เสียงที่ใหญ่กว่าขนาดของมันโดยถูกนำเสนอออกมาในด้านเสียงเบส ไดนามิกคอนทราสต์ เวทีเสียงกว้างที่ใครๆ ก็อาจจะพูดกัน…

แต่ทว่า YG ยังทำบางสิ่งที่พิเศษกว่า โดยสร้างความรู้สึก “บางอย่าง” ที่อยู่ระหว่างคุณกับเพลง Vantage Live มีความชัดเจนดุจคริสตัล ความมีชีวิตชีวา รวมถึงความฉับไวที่โดดเด่น คุณสมบัติเหล่านี้บางส่วนเกิดจากเสียงโดยรวมของ YG ซึ่งมีบุคลิกที่เปิดเผยอย่างชัดเจน เสียงกลางถูกดึงไปด้านหน้าลำโพงแทนที่จะวางด้านหลัง Vantage Live นำคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ที่แท้จริงมาสู่ผู้รักเสียงเพลงที่ต้องการเสียงดีที่ไร้ที่ติ แต่ทว่ากลับน้อยชิ้น ใช้งานง่ายคล่องตัวกว่าไฮเอนด์ในอดีต ทันยุคสมัย ข้อสำคัญงบประมาณไม่บานปลาย ติดตั้งง่ายปราศจากซึ่งความซับซ้อนจากเครื่องเสียงไฮเอนด์แยกชิ้นในอดีต ที่บางครั้งอาจ “ถมไม่เต็ม”

How?

Vantage Live เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต่างจากคนอื่น ที่เรียก “Live” ก็เพราะมันเป็นลำโพงมีชีวิต (Alive) นั่นเอง ออกแบบให้เป็นระบบที่สมบูรณ์แบบ ให้คุณภาพเสียงน่าทึ่ง ผสานกับความสะดวกสบาย ให้ความยืดหยุ่นในการติดตั้งอันยอดเยี่ยม เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นได้เฉพาะผ่าน Acoustic engineer และอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย นำมารวมกันโดยใช้โมเดลจากการประมวลผลโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน รวมร่างเป็นระบบ

Vantage Live ใช้ตัวควบคุมที่สมบูรณ์แบบซึ่งจะเชื่อมต่อกับลำโพงตั้งพื้นขนาดกลางๆ คู่หนึ่ง มอบความเสียงดนตรีที่แม่นยำเที่ยงตรงในระดับสูงสุด สามารถสู้ได้กับระบบแยกชิ้นที่ดีที่สุดในงบประมาณเท่ากันอย่างสบายๆ

แนวคิดเริ่มต้นด้วยการใช้ลำโพงรุ่นดังใน YG Reference Series: Vantage ที่ได้รับรางวัลมากมาย เป็นลำโพงสามทางขนาดกลางขายดีที่สุดของเรา คุณลักษณะเหล่านี้ประกอบด้วยทวีตเตอร์ ForgeCoreTM และกรวยไดรเวอร์ BilletCoreTM ที่มีชื่อเสียงของ YG ติดตั้งในตัวตู้อะลูมิเนียมทั้งตู้ที่ไร้มีเสียงสะท้อน 

ทุกแง่มุมของ Vantage Live ได้รับการออกแบบและปรับแต่งโดยใช้การสร้างแบบจำลองการคำนวณแบบหลายโดเมนที่ซับซ้อน ควบคู่ไปกับการรับฟังอย่างมีวิจารณญาณนับพันชั่วโมง

DSP Crossover จะคำนึงถึงทุกความแตกต่างของไดรเวอร์และตู้ลำโพงเพื่อให้ถ่ายทอดเสียงอย่างยอดเยี่ยมในทุกระดับเสียง ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพการวัดที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสียงที่เป็นธรรมชาติซึ่งไม่ล้าหูในขณะฟัง ด้วยเฟสอันยอดเยี่ยมของลำโพง YG ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการกระจายคลื่นเสียงแบบโฮโลแกรมสามมิติครอบคลุมโอบล้อม ยังให้จุด Sweet Spot ที่กว้างอันเป็นคุณสมบัติของลำโพง YG ทุกคู่ ข้อดีอีกอย่างช่วยให้ยืดหยุ่นในการจัดวางลำโพงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Smart Full Active Drive

การทำงานร่วมกับ Bel Canto ค่ายไฮเอนด์อเมริกันได้พัฒนาชุดพิเศษของวงจร DSP และ DAC รวมถึงแอมปลิฟายเออร์จากพันธมิตรชั้นนำนี้ ซึ่งให้ไดนามิกส์ ความชัดเจนของตัวโน้ต ความเป็นดนตรีที่ยอดเยี่ยม ดอกลำโพงแต่ละดอกได้รับการขยายสัญญาณทั้งสามดอกด้วยแอมป์ Class D กำลังขับ 700 วัตต์ต่อดอกจากวงจรขยายเสียงล่าสุดของค่าย ซึ่งเจ๋งและมีประสิทธิภาพ จัดวางอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ใต้ฐานลำโพงทั้งสองตู้ ผลลัพธ์โดยรวมคือคุณภาพเสียงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน 

ผนวกกับคอนโทรลเลอร์ที่หรูหรา กะทัดรัด และมอบความยืดหยุ่นตามที่ลูกค้าต้องการ Vantage Live เป็น Roon EndPoint ซึ่งสามารถสตรีม Tidal และ Qobuz โดยตรง เล่นไฟล์ DSD, MQA, 192k PCM

คอนโทรลเลอร์ยังมีโฟโนสเตจที่น่าทึ่งคู่ควรกับหัวเข็มของคุณทั้ง MM หรือ MC และเปิดโอกาสให้ปรับเกนและอิมพีแดนซ์ได้ด้วย

มีอินพุตอื่นๆ รวมถึง AES/EBU, S/PDIF (BNC), ออปติคอล (Toslink), USB-B, USB Host, Ethernet และอินพุตอะนาล็อก RCA สองคู่ มี RS232 สำหรับการควบคุมพิเศษภายนอก ควบคุมโดยอุปกรณ์ Smart Devices ที่ใช้ Roon remote หรือแอปเล่นเพลงฟรีอื่นๆ ที่สามารถสตรีม Tidal และ Qobuz ได้โดยตรง ยังมีรีโมตคอนโทรลทำจากโลหะคุณภาพสูงให้มาด้วย

สุดคุ้มกับผลต่างของค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น Vantage Passive ที่ยังต้องการแอมป์ ฟรอนต์เอนด์ แอมป์ ปรี รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่ออีกเพียบ แลกกับฟีเจอร์ที่ได้มาของ Vantage Live

การใช้แพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นนี้รองรับลูกค้าที่ต้องการรวม Vantage Live เข้ากับแหล่งข้อมูลภายนอกที่หลากหลายหรือผู้ที่ต้องการสตรีมผ่านอีเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi Dongle ประสิทธิภาพสูงที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการสตรีมแบบไร้สาย วางชุดคอนโทรลไว้ตรงไหนก็ได้เพียงลากสาย ST Fiber มาที่ลำโพงก็จบ

ผลที่ได้น่าทึ่งมากอย่างเหลือเชื่อ เหมาะสำหรับออดิโอไฟล์รุ่นใหม่ผู้ต้องการความเรียบง่ายในการใช้งาน หรือแม้ออดิโอไฟล์มือเก่าที่ต้องการไฮไฟชุดที่สองไว้ในห้องอีกห้องในบ้านหลังเล็ก หรือโละชุดใหญ่ไฟกะพริบเหลือไว้แต่โต๊ะหมุนและเครื่องเล่นมาต่อพ่วง เลือกสีลำโพงให้เข้ากับแต่งห้องสวยๆ ก็ยังได้

*Peaks Series

ในห้องฟังของ Small Room บนชั้น 11 ใช้ลำโพงวางหิ้งหนึ่งคู่แรกของ YG Acoustics ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน เป็นลำโพงในซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า Peaks มีที่มาจากยอดของเทือกเขา Rocky Mountain ในถิ่นที่อยู่ของเราที่โคโรราโด จะพบว่ามีหลายระดับลดหลั่นกันไป ซึ่งแต่ละระดับก็จะมียอดเขา (Peak) ของมัน อย่างยอดเขาเตี้ยๆ เราก็เรียกว่า Cairn ถือเป็นการเริ่มต้นของการเดินทางขึ้นเขาที่เรียกว่า trail ไต่เขานั่นเอง เขาสูงขึ้นมานิดก็เรียก Tor, Talus, Ascent จนถึงยอดสูงสุดคือ Summit ส่วนหุบเขาเรียกว่า Descent นั่นเอง

Peaks Series ออกแบบโดย Dr. Matthew Webster, CEO คนปัจจุบัน โดยใช้ Cloud Computer (CC2) ที่มีความสามารถในการประมวลผลสูงแบบไม่จำกัด ช่วยในการออกแบบโดยสามารถจำลองเสียงจากห้องฟังจำนวนถึง 300 ห้อง เพื่อออกแบบตัวตู้ วงจรครอสโอเวอร์ที่ต่อเชื่อมกับ driver แต่ละดอก ตัวตู้จะต่างจากรุ่น Reference Series เล็กน้อย YG กล่าวว่า “คุณภาพต้องไม่ถูกลดทอน” จากคุณสมบัติของลำโพง YG ที่เด่นเรื่องเฟส ตอบสนองความถี่ได้อย่างราบเรียบ เที่ยงตรง ตลอดการพัฒนา Peaks Series จะคำนึงถึงข้อเด่นเหล่านั้นเสมอ

แม้จะมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ในราคาที่ต่ำลง คุณภาพวัสดุที่เปลี่ยนไปบ้าง อย่างตัวตู้จะไม่ใช่อะลูมินัมทั้งตู้เช่นเดิม แต่จะเป็นประเภทคอมโพสิตไฟเบอร์ที่แกร่งและ dead ติดผิวด้วยวีเนียร์ ไม้จริงที่ทำให้ดูซอฟต์ขึ้น แผงหน้า (Baffle) และฐานตัวตู้ยังคงเป็นอะลูมินัมเช่นเดียวกัน ขั้วลำโพงเปลี่ยนเป็น Single wire ของ WBT แน่นอนว่าการทำให้อุปกรณ์ครอสโอเวอร์ลดจำนวนน้อยชิ้นลงก็มีผลต่ออิมพีแดนซ์ ทำให้ขับง่ายขึ้นด้วย และต้นทุนที่ลดลงเล็กน้อย หากคุณเป็นแฟนตัวยงของลำโพงที่มีราคาแพงกว่าของ YG คุณจะดีใจที่เห็นว่ายังคงมีการใช้ทวีตเตอร์ ForgeCoreTM และไดรเวอร์ BilletCoreTM ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ YG เช่นเดียวกับที่ใช้กับลำโพงวางพื้นใน Reference Series รุ่น Camel, Vantage จนถึง Hailey ก็ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ Peaks ด้วย… แต่ว่ากันตามตรงต่างกันที่ตัวตู้และครอสโอเวอร์ที่เป็น Single wire และเป็นครั้งแรกที่ YG ผลิตลำโพงวางหิ้ง ไฮไลต์อีกข้อก็ถือว่าทำได้ดีคือ

“ราคาค่าตัวให้ต่ำลงราวเกือบครึ่งของรุ่นพี่ใน Reference Series เลยทีเดียว แถมยังขับง่ายกว่า อาจจะประหยัดค่าแอมป์ที่จะมาใช้ขับมันด้วย เชื่อว่าจะเข้าถึง YG ได้ง่ายขึ้น ซึ่งหมายถึงกลุ่มลูกค้าก็จะขยายกว้างมากขึ้นอย่างแน่นอน”

Peaks Series ประกอบด้วยลำโพงรุ่นใหม่ 5 รุ่น โดยมีลำโพงวางหิ้ง 2 รุ่น วางพื้น 3 รุ่น พร้อมซับวูฟเฟอร์แบบแอ็กทีฟที่มีกำลังขับในตัวอีก 1 รุ่น ในแต่ละรุ่นจะแสดงถึงลำโพง YG “ในระดับอ้างอิงใหม่” สำหรับราคาที่จับต้องง่ายขึ้น โดยยังคงคุณภาพในสไตล์ของ YG และกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะ “โดดเด่นในห้องขนาดใดก็ได้ ในทุกแนวเพลง” เช่น Cairn(300,000 บาท) และ Tor(370,000 บาท) เป็นลำโพง Stand mount (Bookshelf) ซึ่งเป็นลำโพง 2 ทาง วางบนขาวางอะลูมิเนียมที่ผลิตขึ้นเองในบริษัทซึ่งเป็น Option (60,000 บาท) ที่เราโชว์บนห้อง Small room ชั้น 11 นั่นไง ยังมีลำโพงตั้งพื้นอีก 3 รุ่น คือ Talus (500,000 บาท) เป็นลำโพง 2 ทางขนาดกะทัดรัด, Ascent (700,000 บาท) เป็นลำโพง 3 ทางขนาดเล็กที่ใกล้เคียงกันและ Summit (900,000บาท) เป็นลำโพง 3 ทางระดับเรือธงใน Peaks Series ซับวูฟเฟอร์ Descent (Below) (290,000บาท) ค่าตัวเหมือนจะดุเนื่องจากขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัดและไดรเวอร์ขนาด 11 นิ้วเพียงตัวเดียว เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพค่าตัวเท่านี้ถือว่าไม่แรงเลย ซึ่งอาจจะใช้ 2.1 หรือ 2.2 ก็ยิ่งดีใหญ่ 

ลักษณะสัดส่วนตัวตู้ของ Peaks Series ในรุ่นตั้งพื้นจะแทบขี่ซ้อนกับ Reference Series บ้าง โดยเริ่มจาก Talus จะใช้ Drivers เหมือนของ Camel ส่วน Ascent ก็จะใช้ Drivers เช่นเดียวกับ Vantage ในขณะที่ Summit ใช้ Woofer ตัวเดียวกันกับ Hailey ต่างกันที่ Tweeter ที่ไม่เหมือนกัน ในขณะที่ Summit ค่าตัวพอๆ กับ Camel ซึ่งถือว่าเป็นตัวเริ่มต้นของ YG Reference Series ในขณะที่มีอะไรหลายยิ่งใกล้เคียงกับ Hailey ซึ่งถือว่ารุ่นกลางๆ ในซีรีส์ น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง

Why go active?

วกเข้ามาในประเด็นที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของไฮไฟเทรนด์ในยุคนี้ ถ้าใครได้ติดตาม Live Stream จะพบว่าในโลกเครื่องเสียงรวมถึงงานไฮไฟโชว์ทั่วโลกรวมถึงงาน BAV Hi-End SHOW 2022 #2 เกิดเทรนด์ของลำโพง Smart Active Speakers ขึ้น ซึ่งห้องฟังเกือบครึ่งภายในงานมีไฮไฟประเภทนี้เข้าไปแทรกเพียบ แสดงว่าผู้ผลิตและผู้นำเข้าเองก็ยอมรับ

...อย่างที่ทราบกันดีว่า YG เป็นผู้ผลิตลำโพง Ultra HiEnd สนองตอบต่อผู้ที่ต้องการความเป็นที่สุดมาอย่างยาวนาน ซึ่งล้วนเล่นเครื่องเสียงแยกชิ้นประกอบด้วยลำโพง ปรีแอมป์ เพาเวอร์แอมป์ ฟรอนต์เอนด์ อันประกอบด้วย CD Player, Streamer, DAC , Turntable, Phono stage กี่ตัวกันล่ะ ไหนจะแร็ก สายกี่เส้นซึ่งต่อกันนัวไปหมด เน้นทุกอย่างก็ที่จะให้ผลต่อเสียงสูงสุด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความต้องการที่ทั้งกลุ่มลูกค้า YG เดิมที่เป็นกลุ่มออดิโอไฟล์จ๋าและผู้ที่ไม่ได้เป็นออดิโอไฟล์ อยากให้ YG ผลิตไฮไฟที่ใช้งานง่ายในรูปแบบของ YG เอง

ถือว่าเราต้องทำในสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้ผลิต Ultra HiEnd อย่างยิ่ง ที่ต้องรวบทุกอย่างไว้ในซิสเต็มเดียว เหลือเพียงลำโพงหนึ่งคู่กับกล่องควบคุมอีกหนึ่งกล่อง แต่ยังคงความเป็น YG Acoustics ไว้ ต้องดีพอสำหรับทุกคน มั่นใจได้เลยว่าต้องผ่านความเห็นชอบของลูกสาวแม่ยาย Wife Factor นั้นผ่านแน่นอน นี่คือที่มาของ Vantage Live ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก และความท้าทายยังไม่จบ เพราะอาจเกิดขึ้นกับ YG Reference Series ในรุ่นอื่นๆ ด้วย

Any plan to deploy technologies to another range?

ต่อคำถามที่ว่ามีแผนจะขยายความสำเร็จหรือไม่ ใช่ แน่นอน เรามีแผนงานที่จะขยายผลของเทคโนโลยีนี้ไปสู่ลำโพง YG ในรุ่นอื่นๆ แน่นอน อดใจนิดมาแน่

อย่างในมิวนิกปีล่าสุด 2022 เราได้เดบิวต์ Sonja Live ซึ่งก็เป็นการแสดง Concept Speaker ให้เห็นเป็นไอเดียว่ามันเพอร์เฟกต์ขนาดไหน โดยยังไม่ได้ระบุว่าจะมีผลิตออกสู่ตลาดเมื่อใด และเป็นไปได้ว่าในไม่ช้า ก็เชื่อว่าแนวทางนี้จะเป็นทิศทางของไฮไฟในอนาคตแน่นอน

Made in USA

เป็นที่ทราบกันว่าลำโพง YG นั้นทุกตู้ ทุกชิ้นส่วน ออกแบบ ผลิต (Machining: CNC) ประกอบ Drivers & Cabinet ทดสอบ (Design, Machine: Fabricate & Built, Assembly, manufacturing and Test) ในโรงงาน YG Acoustics ที่โคโรราโด USA

Any plan to assembly in other country?

ไม่เลย เราไม่มีแผนที่จะผลิตประกอบในประเทศแถบเอเชียหรอก อ้อๆ โครงตู้ของ Peaks Series ที่เป็นวัสดุคอมโพสิตถูกผลิตมาจากยุโรป และถูกจัดการ Finishing ด้วยการตัดแต่ง ขัด ติดผิวด้วยวีเนียร์ไม้ แล้วผลิตประกอบในโรงงานของเราในอเมริกา

FUTURE for HiFi market growth in STREAMING ERA

ว่าไหม… คุณกับผมใครเป็น สว.มากกว่ากัน พวกเราอยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน ผ่านประสบการณ์ไฮไฟ เห็นการเปลี่ยนผ่านของไฮไฟในยุคต่างๆ มากมาย จากไฮไฟวิทยุเครื่องเดียวจนถึงแยกชิ้นขึ้นไปยัน Ultra Hi-End ซึ่งก็เป็นทางของเราอยู่แล้ว

แล้วคิดว่ากลุ่ม New Gen ควรเข้ามาหรือยัง ใช่ครับ พวกเขากำลังเข้ามาแทนพวกเรา การมาถึงของสมาร์ทโฟนทำให้โลกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้คนก็เปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยนไป มีเดีย ดนตรี และหนังที่เป็นแหล่งบันเทิงในบ้านก็เปลี่ยนไปจากฟิสิคัลไปเป็นสตรีมมิ่งครอบครองไปหมด เพลงอยู่บนมือของทุกคนบนโลกใบนี้แล้ว จะไปฝืนคงเป็นไปได้ยาก จริงอยู่ที่ Ultra Hi-End ยังอยู่ หวังว่าวันนั้นพวกเขาก็จะแก่กล้าขึ้นและโดดมาเล่นชุดใหญ่ขึ้นบ้าง เหมือนนาฬิกาไฮเอนด์ Exotic Car หรือแม้โต๊ะหมุนตัวเบิ้มที่ยังคงใช้เมคคานิกส์ หากวัดกันที่เพอร์ฟอร์มานซ์เป็นตัวเลขอาจไม่เหนือหรอก แต่เสน่ห์ยังคงอยู่ มันยังคงมีคนกระเป๋าหนักที่ต้องการอยู่ดี

นั่นคือเหตุผลของการมาถึงของลำโพง Smart Active อย่าง Vantage Live ไง จะได้เสียงที่สมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับ Ultra Hi-End แยกชิ้น โดยอยู่ในลำโพงหนึ่งกับกล่องควบคุมหนึ่งกล่อง สาย 2-3 เส้น เซ็ตอัพไม่ยุ่งยาก ติดตั้งง่ายประหยัดเนื้อที่ ใช้งานง่ายด้วยปลายนิ้วสัมผัส แถมยังรองรับกับเครื่องเล่นฟิสิคัลที่อาจมีผู้ยังเล่นอยู่ด้วย

เราคาดว่าตลาดจะโตขึ้นจากนักเล่นกลุ่มใหม่นี้ ผู้ที่เปลี่ยนจากการลงทุนกับ Software สะสมแผ่นฟิสิคัลเช่นในอดีต มาเป็น Hardware คือไฮไฟในยุคใหม่ที่ตัดทิ้งสาย แร็ก ความยุ่งยากในการแม็ตชิ่งออกไป เรามั่นใจถึงต้องทำออกมา เชื่อว่าไฮไฟมันมีทิศทางของมัน... Live will find the WAY.

Talk to Thai users

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรา YG Acoustics โชคดีที่มี Living Sound เป็น Sole distributor ในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณโสฬส เขาเป็นคนที่มีความรู้ เข้าใจในสินค้าทุกตัว และพร้อมที่จะแชร์ความรู้ไปสู่ผู้อื่น เข้าใจความต้องการของลูกค้าและมี Solution ให้เสมอ เก่งที่จะเลือกคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง YG Acoustics ที่มีตัวเลือกที่อยากแนะนำ

ขอสื่อไปถึงนักเล่นชาวไทยก็คือ ชวนให้แวะมาฟัง YG Acoustics ที่ Living Sound หรือที่ตัวแทนอื่นก็ได้ ทราบว่ามีหลายแห่ง ซึ่งแม้อาจเป็นแบรนด์ที่อาจไม่คุ้นหูนักในเมืองไทย แต่ถ้าต้องการ Real music ต้องมาฟัง แล้วคุณจะรัก YG Acoustics

ขอขอบคุณทุกคนในเมืองไทย โดยเฉพาะที่กรุงเทพฯ รวมถึงงาน BAV Hi-End SHOW ขอบคุณอีกครั้ง จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดี. ADP

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย LIVING SOUND
โทร. 089 517 2222
living.sound@yahoo.com

ผู้สัมภาษณ์: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ