ชานนท์

เมื่อแหล่งกำเนิดแสง Laser ถูกพัฒนาต่อยอดจนนำมาประยุกต์ใช้งานกับโปรเจกเตอร์ได้ ก็ดูจะพลิกโฉมวงการไปแบบคาดไม่ถึง หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครเชื่อว่าโปรเจกเตอร์ขนาดกะทัดรัดที่มีมิติกว้างยาวเล็กกว่ากระดาษ A4 จะสามารถให้ระดับความสว่างสูงเทียบเคียงหรืออาจจะเหนือกว่ารุ่นที่มีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่าได้

EF-100W คือ โปรเจกเตอร์ในซีรี่ส์ EpiqVision Mini ของ Epson โดยมีจุดเด่นที่ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้ น้ำหนักเบาเพียง 2.7 กก. ทว่า อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติเหนือชั้น ถึงขั้นถูกขนานนามว่าเป็น “โปรเจกเตอร์เทคโนโลยี 3LCD ที่มาพร้อมแหล่งกำเนิดแสง Laser ขนาดเล็กที่สุดในโลก”

ทุกวันนี้โปรเจกเตอร์ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพสูงขึ้นมาก และหนึ่งในผู้ผลิตที่ต่อยอดเทคโนโลยีโปรเจกเตอร์มาอย่างต่อเนื่องก็คือ Epson สำหรับวันนี้ผมจะมาแนะนำโปรเจกเตอร์อีกรุ่นหนึ่งที่แม้มีขนาดเล็ก แต่คุณสมบัติไม่เล็กเหมือนตัวเครื่อง ซึ่งก็คือ Epson EF-100W เครื่องนี้

ดีไซน์ตัวเครื่องนอกจากเล็กกะทัดรัด ยังดูเก๋ ทันสมัย ตั้งวางในห้องก็ดูลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ สามารถเลือกสีตัวเครื่องได้ 2 แบบ คือ ขาวและดำ

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง

– ตัวเครื่องโปรเจกเตอร์ EF-100W
– สายไฟ AC (IEC Standard)
– รีโมตคอนโทรล (IR)

การเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียง

จุดเชื่อมต่อสัญญาณต่างๆ ของ EF-100W แทบทั้งหมด ติดตั้งอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง โดยจะต้องเปิดฝาออกก่อน

ช่องรับสัญญาณภาพและเสียงหนึ่งเดียวของรุ่นนี้ คือ HDMI In ลักษณะเป็นสายต่อตามภาพ รองรับสัญญาณความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 60Hz

ถัดมา คือ ช่องต่อ USB สำหรับอัพเดทเฟิร์มแวร์ และจ่ายไฟ DC 5V ให้อุปกรณ์ต่อพ่วง อาทิ WiFi adapter หรือ Android TV Dongle โดยจะมี USB Power Cable แบบ Type A to Micro USB มาให้ด้วย

EF-100W ติดตั้งลำโพงแบบ Mono พร้อมภาคขยายในตัว 5 วัตต์ ให้เสียงดังฟังชัดเหมาะกับการใช้งานแบบลำลอง ขณะเดียวกันหากต้องการอัพเกรดระบบเสียง สามารถเชื่อมต่อลำโพงภายนอกผ่านช่อง Audio Out (3.5 mm) ที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง หรือเชื่อมต่อสัญญาณเสียงแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ก็ได้เช่นกัน เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องฟังแบบส่วนตัวผ่าน Bluetooth Headphones

จัดการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth ระหว่างอุปกรณ์ ผ่านเมนูโปรเจกเตอร์ที่หัวข้อ Settings –> Bluetooth

วิธีปรับโฟกัสจะทำผ่านก้านปรับที่ด้านบนตัวเครื่อง และข้างๆ กันเป็นสวิตช์เพาเวอร์และปุ่มควบคุม แต่จะมีแค่บางฟังก์ชั่นเท่านั้น การปรับตั้งค่าละเอียดต้องใช้รีโมตคอนโทรลไร้สายที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง

ตำแหน่งเลนส์ฉายภาพอยู่ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง โดยฟิกซ์ระยะมาตายตัว การปรับขนาดภาพต้องใช้การขยับตัวเครื่องเข้าใกล้หรือออกห่างจอรับภาพ กรณีที่ต้องการฉายขึ้นจอ 90 นิ้ว ระยะห่างอยู่ที่ประมาณ 2 ม.

จุดเด่นด้านภาพ

ด้วยแหล่งกำเนิดแสง Laser Diode ยังผลให้โปรเจกเตอร์ขนาดกะทัดรัดเครื่องนี้มีศักยภาพเกินตัวไปมาก ระดับความสว่างอิงตามสเป็กที่ 2000 Lumens การใช้งานจริงสามารถพูดได้ว่าสว่างกว่า Home Projector บางรุ่น ที่ราคาสูงและมีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่าเสียอีก

อานิสงส์ดังกล่าวจึงช่วยให้ EF-100W สามารถสู้แสงรบกวนภายในห้องทั่วไปที่ไม่ได้คุมแสงมืดสนิทได้ ในกรณีที่ต้องการระดับความสว่างสูงมากขึ้นเพื่อใช้งานในที่มีปัญหาแสงรบกวนมาก สามารถขยับตัวเครื่อง EF-100W เข้าใกล้จอ (ผนัง) มากขึ้น ขนาดภาพจะหดเล็กลงก็จริง แต่จะได้ความสว่างสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การทดสอบ ผมใช้จอ 90 นิ้ว แบบ16:9 พบว่าต้องการระยะห่างประมาณ 2 เมตรกว่า ทั้งนี้สเป็กแจ้งว่า EF-100W รองรับการฉายภาพได้ใหญ่ถึง 150 นิ้ว เลยทีเดียว แต่ต้องมีระยะตั้งวางห่างจากจอรับภาพ 3.41 ม. ซึ่งการฉายใหญ่ระดับนี้ความสว่างจะ dim ลง แต่ยังคงใช้การได้ ถ้าห้องจัดการคุมแสงรบกวน ต้องยกอานิสงส์ให้คุณสมบัติของ Laser Diode ที่ทำความสว่างได้สูง

นอกจากตั้งฉายแนวนอนแบบปกติทั่วไปแล้ว EF-100W ยังรองรับการตั้งเครื่องแนวตั้ง เพื่อฉายภาพขึ้นฝ้าเพดานได้ด้วย เหมาะกับการนอนดู
มาก ๆ และกรณีที่จำเป็นต้องวางเครื่องเอียงหรือก้ม-แหงนหน้า รุ่นนี้มีระบบ Digital Keystone ช่วยปรับแก้สี่เหลี่ยมคางหมูได้ยืดหยุ่นทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่สำหรับใครที่จริงจังเรื่องคุณภาพของภาพ การพยายามตั้งเครื่องให้ตรงจะดึงศักยภาพของโปรเจกเตอร์ออกมาได้เต็มที่กว่า (Digital Keystone จะกระทบกับ Resolution เล็กน้อย โดยเฉพาะตามขอบภาพ)

Native Resolution ของ EF-100W อยู่ที่ WXGA (1280 x 800 pixels; 16:10) แต่ก็รับสัญญาณ Full HD 16:9 ได้ ทั้งนี้ตัวเลขความละเอียดอาจไม่สูงมากก็จริง แต่ในแง่ความคมชัดของภาพทำได้ดีมากทีเดียว กล่าวคือ ถ้าปรับโฟกัสลงตัวจะชัดทุกพิกเซล ภาพไม่เบลอ หรือมีขอบม่วง (Chromatic Aberration) รบกวน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเลนส์ฉายที่ดี

ถึงแม้ตัวเลขความละเอียดไม่สูงมาก หากเทียบกับโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ แต่ในแง่การแสดงรายละเอียดภาพถือว่าทำได้คมชัด
ดีทีเดียว ส่วนหนึ่งต้องยกอานิสงส์ให้เลนส์ฉายคุณภาพสูง จึงได้ความคมชัดทั่วทั้งจอ และไม่มีขอบม่วงรบกวน แต่ต้องปรับโฟกัสและระนาบตัวเครื่องให้ลงตัวก่อน

ความสว่างถือว่าสู้แสงได้ดีมาก อันเป็นอานิสงส์ของแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ความสว่างสูงถึง 2000 Lumens อายุการใช้งานก็ยาวนานสูงสุดถึง 2 หมื่นชั่วโมง เรียกว่าใช้กันจนลืม  

EF-100W มีโหมดภาพ (Color Mode) ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Dynamic, Bright Cinema, Natural และ Cinema

ซึ่งโหมดภาพที่แนะนำให้ใช้งาน เนื่องจากให้สมดุลสีดี ใกล้เคียงมาตรฐาน sRGB/Rec.709 มากที่สุด คือ Natural (ค่าความเพี้ยนสี Grayscale Avg dE และ Colorspace Avg dE อยู่ที่ 2.5 และ 2.7 ตามลำดับ) ด้านความสว่างก็ทำได้ดีเทียบเคียง Bright Cinema แต่ได้ความเที่ยงตรงของสีที่ดีกว่า จะใช้งานในสภาพห้องทั่วไปก็ดี หรือห้องโฮมเธียเตอร์คุมแสงก็ได้ 

หลังดำเนินการปรับภาพแบบละเอียด โหมดภาพ Natural ยิ่งให้ผลลัพธ์โดดเด่น (ค่าความเพี้ยนสี Grayscale Avg dE และ Color Avg ต่ำลงที่ 1.3 และ 2.3 ตามลำดับ)

Dynamic ให้ระดับความสว่างได้สูงกว่าโหมดอื่นถึงเกือบ 2 เท่า จึงสู้แสงได้ดีมาก ทว่าความเพี้ยนสีค่อนข้างสูง และระดับเสียงพัดลมระบายความร้อนจะดังที่สุด อาจเลือกใช้งานเมื่อจำเป็น

Cinema ระดับความสว่างต่ำกว่าโหมด Bright Cinema/Natural เล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันระดับเสียงพัดลมระบายความร้อนก็เงียบกว่าด้วย ด้านความเที่ยงตรงเป็นรอง Natural ไม่มาก จึงตอบโจทย์กรณีที่ต้องการความสงัดกว่าโหมดอื่น แต่เหมาะใช้งานในห้องคุมแสงหรือห้องมืด

ทุกโหมดภาพสามารถปรับเพิ่มลดระดับความสว่างได้อิสระผ่านตัวเลือก Light Output ซึ่งระดับความสว่างจะสัมพันธ์กับระดับเสียงพัดลมระบายความร้อนของ EF-100W ดังนี้ (Light Output : Fan Speed) 100% – 85% : High, 80% – 65% : Medium, 60% – 50% : Low หากใช้งานตอนกลางคืน ต้องการความสงัด ก็ปรับระดับความสว่างลดลงได้ เสียงพัดลมจะเงียบลงชัดเจน

อายุการใช้งานของ Laser Diode หากกำหนด Light Output 100% จะอยู่ที่ 12,000 ชม. และจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ชม. เมื่อกำหนด Light Output 50%
ตีคร่าว ๆ หากเปิดวันละ 8 ชม. ก็เกือบ 7 ปี ใช้งานกันได้ยาวๆ จนลืม

ค่า HDMI Input Lag ของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 28 – 43 ms ทุกโหมดภาพ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับมาตรฐานโปรเจกเตอร์ สัญญาณภาพไม่หน่วงช้า ขนาดจอที่ใหญ่ช่วยเพิ่มอรรถรสการเล่นเกมได้ดีมาก

อีกหนึ่งข้อดีของ Epson Projector ที่ใช้เทคโนโลยีกำเนิดภาพแบบ 3LCD คือ ไม่มีกงล้อสี (Color Wheel) ในกระบวนการฉายภาพจึงปราศจากปัญหา Rainbow Effects โดยสิ้นเชิง ซึ่งสำหรับใครที่การรับรู้ค่อนข้างไวกับปรากฏการณ์นี้ อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนได้ แต่ไม่ต้องกังวลสำหรับ Epson EF-100W จะเล่นเกมหรือดูหนังชมละครก็จัดไปยาวๆ ได้เลย

EF-100W ถือเป็นโปรเจกเตอร์เล็กพริกขี้หนู ขนาดและน้ำหนักเบา สามารถขยับเคลื่อนย้ายหรือพกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ลำบาก แถมยังตั้งวางได้ยืดหยุ่นแบบ 360 องศา แต่ที่โดดเด่น คือ ระดับความสว่างจากแหล่งกำเนิดแสง Laser สว่างสวนทางกับขนาดไปมาก สามารถสู้แสงได้ดีเกินคาด คุณภาพของภาพก็นับว่าโดดเด่น ถึงแม้ความละเอียดไม่สูงมากแต่ก็ให้ความคมชัดดีซึ่งเป็นผลจากการใช้เลนส์ฉายคุณภาพสูง และยังมีลำโพงในตัวพร้อม จะใช้งานแบบลำลองในออฟฟิศ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือติดตั้งรับชมแบบจริงจังแบบโฮมเธียเตอร์ก็ได้ เป็นความสามารถที่ตอบโจทย์ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง. VDP

Epson: EF-100W ราคา 31,900 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เอปสัน คอลเซ็นเตอร์ 0-2685-9899 
เว็บไซต์ www.epson.co.th
เฟสบุ๊ค www.facebook.com/epsonthailand
LINE Official Account Epson Thailand