วุฒิศักดิ์

นักเขียน : วุฒิศักดิ์ ชื่นมีเชาว์ :

Avantgarde Acoustic: Zero TA XD ถือเป็นลำโพงรุ่นเล็กที่สุดจาก Avantgarde Acoustic อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นลำโพงที่มีความน่าสนใจมากในหลายๆ ด้าน แต่ก่อนที่จะมาทำความรู้จักกับ Zero TA XD เรามาทำความรู้จักกับ Avantgarde Acoustic กันสักเล็กน้อยดีกว่าครับ

Avantgarde Acoustic เป็นผู้ผลิตลำโพงฮอร์นสมัยใหม่จากประเทศเยอรมนี ที่ผมเรียกว่าฮอร์นสมัยใหม่ เพราะเขาไม่ได้เน้นจูนเสียงแบบลำโพงวินเทจ แต่เหตุผลที่ Avantgarde Acoustic เลือกใช้ฮอร์น เพราะผู้ออกแบบพบว่าเมื่อไปฟังดนตรีสดจะมีความรู้สึกถึงพละกำลัง ไดนามิกที่เฉียบพลัน ความรู้สึกถึงความสด มีชีวิตชีวาซึ่งเมื่อเขากลับมาฟังเครื่องเสียงอื่นๆ ที่บ้าน สิ่งเหล่านี้มักขาดหายไป จึงเริ่มออกแบบลำโพงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกสด มีความมีชีวิตออกมาซึ่งเขามีความเชื่อส่วนตัว และยืนยันว่าการใช้ฮอร์นเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถทำให้ลำโพงสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของการแสดงดนตรีสดออกมาได้ โดยฮอร์นของ Avantgarde Acoustic ออกแบบให้เป็นปากฮอร์นกลม ตรงเท่านั้น เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่าการคำนวณผลการตอบสนองของปากฮอร์นกลม ตรง มีความเรียบง่าย มีตัวแปรน้อย ทำให้สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ สามารถทำนายผลของการออกแบบล่วงหน้าได้ และที่สำคัญคือ ผลการวัดจริง ตรงกับผลที่ได้จากการคำนวณ เพราะถ้าเป็นปากฮอร์นทรงอื่นๆ เช่น ปากเหลี่ยม หรือฮอร์นที่มีส่วนโค้งงอ จะมีตัวแปรเยอะมาก ทำให้ผลที่ได้มักมีความคลาดเคลื่อนไปจากการคำนวณค่อนข้างมาก ทาง Avantgarde Acoustic จึงเลือกใช้ปากฮอร์นกลม ตรง เท่านั้น เพื่อลดความเพี้ยนอันเนื่องมาจากรูปทรงของปากฮอร์น

มีแอมป์พละกำลังสูงสำหรับขับเสียงเบสพร้อม DSP ที่ปรับแต่งได้ละเอียดมากช่วยให้ลำโพงทำงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในราคาสมเหตุสมผล

นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ และถือเป็นเอกลักษณ์อีกข้อหนึ่งของ Avantgarde Acoustic คือ การใช้ตัวขับเสียงที่ทำงานเป็น Full Range ในช่วงเสียงกลาง ซึ่งหมายความว่าตัวขับเสียงตัวนี้ถูกออกแบบให้สามารถถ่ายทอดเสียงได้ราบเรียบ โดยไม่จำเป็นต้องมีวงจรตัดแบ่งความถี่ใดๆ มาต่อร่วมด้วยเลย ตัวขับเสียงจะถูกต่อตรงกับขั้วลำโพงท้ายตู้ และต่อกับแอมป์โดยตรง ซึ่ง Avantgarde Acoustic บอกว่าการใช้วงจรตัดแบ่งความถี่เป็นสาเหตุหลักอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้การถ่ายทอดรายละเอียดตกหล่นขาดหายไป ฟังดูแนวคิดก็เรียบง่ายดี คือใช้ดอกลำโพงที่ทำงานได้ราบเรียบเพื่อให้มีความเพี้ยนต่ำติดไว้กับปากฮอร์นก็เพื่อคุมทิศทางเสียงให้พุ่งตรงมาด้านหน้าลดเสียสะท้อนจากผนังห้อง ก็เพื่อลดความเพี้ยนจากเสียงสะท้อนในห้อง แถมตัวปากฮอร์นก็เป็นทรงกลมตรงที่เรียบง่ายเพื่อให้มีความเพี้ยนต่ำอีก แถมยังต่อตรงกับแอมป์โดยไม่มีวงจรอะไรมาเพิ่มความเพี้ยนอีก เรียกว่าพยายามตัดตัวแปรที่อาจทำให้เกิดความเพี้ยนออกไปให้เหลือน้อยที่สุด แต่การจะทำแบบนี้ได้กลับไม่ง่ายเหมือนตอนคิด เนื่องจากว่าทั้งระบบของชุดขับเสียง ที่เริ่มตั้งแต่ชุดแม่เหล็ก วอยซ์คอยล์ ไดอะแฟรม และปากฮอร์น ต้องถูกมองเป็นระบบเดียวกัน และถูกออกแบบขึ้นมาพร้อมๆ กัน ไม่สามารถจะไปเข้าเว็บช็อปปิ้งเลือกตัวขับเสียงที่มีขายในท้องตลาดมาทำปากฮอร์นครอบลงไปดื้อๆ ได้

ดังนั้น ผมถือว่าชุดฮอร์นเสียงกลางชุดนี้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ Avantgarde Acoustic เลยทีเดียว ซึ่งความพิเศษของชุดตัวขับเสียงนี้ที่ต่างจากลำโพงทั่วไปอีกอย่างหนึ่งคือ มันมีอิมพีแดนซ์ 16 โอห์ม ในขณะที่ตัวขับเสียงส่วนมากในสมัยนี้จะเป็น 8 หรือ 4 โอห์ม ซึ่งตัวขับเสียงที่มีอิมพีแดนซ์สูงมักต้องการแรงดันในการขับเคลื่อนมากกว่ากระแสไฟฟ้าจึงเรียกได้ว่าเป็นมิตรกับแอมป์ เพราะไม่ค่อยเรียกร้องกำลังสำรองจากภาคจ่ายไฟมากนัก แต่โดยปรกติลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์สูงก็จะมากับความไวที่ต่ำ ต้องเร่งเสียงมากถึงจะดัง ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้อยู่เหมือนกัน แต่เนื่องจาก Avantgarde Acoustic ออกแบบโดยไม่มีวงจรตัดแบ่งความถี่ จึงไม่มีการสูญเสียกำลังขับในส่วนนี้ แถมยังใช้ปากฮอร์นมาช่วยบังคับทิศทางการกระจายตัวของคลื่นเสียง ทำให้กำลังขับจากแอมป์ถูกถ่ายทอดมาเป็นเสียงที่มีทิศทาง วิ่งตรงมายังด้านหน้าลำโพงเป็นส่วนใหญ่ ไม่ฟุ้งกระจายตัวไปรอบๆ ให้ไปสะท้อนผนังมาหักล้างเสียงหลักจากลำโพงด้วย จึงทำให้มีความไวสูงถึง 104dB @ 1 m ดังนั้น ถ้ามองจากจุดนี้ Zero TA XD น่าจะเป็นลำโพงที่แม้จะกำลังขับน้อยๆ ก็สามารถขับได้สบาย

เมื่อมาถึงตรงนี้ เราเริ่มมาดูที่ตัว Avantgarde Acoustic: Zero TA XD ว่ามีจุดที่น่าสนใจในหลายๆ ส่วน เริ่มต้นจากข้อแรกคือ หน้าตาที่เรียกได้ว่าออกแบบได้สะดุดตามาก เนื่องจากใช้ตู้แบบเดียวกับ Zero 1 XD ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบ German Design Award NOMINEE 2015 มาด้วย เรียนตามตรงว่าเดิมทีครั้งแรกที่เห็น Zero 1 สีขาวด้าน มันดูเหมือนลำโพงคอมฯ ที่โดนไฟฉายขยายส่วนของโดเรมอนขยายขึ้นมามากๆ Zero TA XD คู่ที่ได้รับมาทดสอบนี้เป็นสีเทาด้าน ซึ่งทางตัวแทนจำหน่ายแจ้งว่าเป็นสีพิเศษที่สามารถสั่งได้ เมื่อนำมาวางในห้องฟังของผมที่พื้นสีดำและผนังสีเทาเข้ม แล้วลำโพงถูกแสงดาวน์ไลต์สี warm white ออกเหลืองๆ สลัวๆ มันจะดูเหมือนลำโพงทำมาจากก้อนอะลูมิเนียมที่ผ่านการขึ้นรูปด้วย CNC มาเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าดูสวยงาม ดูดี มีชาติตระกูลมากๆ

ดังนั้น ถ้าสนใจ Zero TA XD แนะนำว่าให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่าย แล้วยอมควักเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย เลือกสีที่เหมาะกับการตกแต่งในห้องฟังเพลง ท่านจะได้ลำโพงที่สวยมากมาทำให้ห้องของท่านดูสวยขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว

ส่วนต่อมาคือ ชื่อ Zero TA XD ที่ฟังดูยาวและจำยาก มันมีที่มาจากการเป็นลำโพงที่ต่อยอดมาจากรุ่น Zero 1 XD โดย Zero 1 XD เป็นลำโพงที่เน้นแนว Lifestyle คือมี DAC มีแอมป์ในตัว สามารถต่อ Bluetooth ได้ เรียกได้ว่าคู่เดียวจบเพื่อให้เป็นเครื่องที่ใช้งานง่าย เข้าถึงได้ง่าย ถือเป็นกลยุทธ์การขยายตลาดของ Avantgarde Acoustic ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ขั้นต่อมาจึงต้องมีการสานต่อความสำเร็จของ Zero 1 XD ด้วย Zero TA XD ซึ่งดูจะออกแบบมาเพื่อนักเล่นเครื่องเสียงที่มีชุดเครื่องเสียงเดิมอยู่บ้างแล้ว โดยสามารถนำลำโพง Zero มาใช้งานร่วมกับชุดเครื่องเสียงที่มีอยู่เดิม หรือสำหรับนักเล่นที่ต้องการคุณภาพที่เหนือกว่าของภาคขยายและภาคดิจิทัลที่อยู่ในตัว Zero 1 ดังนั้น Zero TA XD จึงถูกออกแบบให้เป็นลำโพง Semi Active คือในส่วนของตัวขับเสียงฮอร์นทั้งเสียงกลางและแหลม ไม่มีภาคขยายมาให้ ต้องต่อแอมป์ภายนอก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดูเข้าท่าดี เพราะเราสามารถเลือกแอมป์หลอดเสียงหวานๆ มาต่อใช้งาน แทนที่จะเป็นแอมป์โซลิดสเตทเหมือนในตัว Zero 1 และในส่วนของวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว ก็ได้ติดตั้งแอมป์ Class D กำลังขับ 500 วัตต์ (มากกว่าใน Zero 1 อยู่ 100 วัตต์) ทำให้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังว่ากำลังขับของแอมป์เพียงพอที่จะขับวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว หรือไม่ และตัวอักษร XD ที่ต่อท้ายชื่อลำโพงหมายถึงเทคโนโลยีการใช้ Digital Signal Processor มาช่วยปรับแต่งเสียงเบสให้สามารถทำงานได้ราบเรียบในห้องต่างๆ ได้ ซึ่งทำให้สามารถรีดสมรรถนะของเสียงเบสจาก Zero TA XD ออกมาได้ดีมาก ซึ่งหากเป็นการใช้งานแบบคร่าวๆ ก็มีการเซ็ตค่าPre Set มาจากโรงงานอยู่หลายแบบให้เลือกอยู่บ้างแล้ว สามารถเลือกได้จากปุ่มและหน้าจอด้านหลังลำโพงโดยตรง โดยในคู่มือก็แนะนำว่าแต่ละแบบเมื่อปรับแล้วควรจะได้เสียงแบบไหน เราสามารถฟังเลือกได้ว่าแบบไหนลงตัวกับห้องของเรามากที่สุด คล้ายๆ การเลือกโหมดภาพมาตรฐานของจอทีวีครับ เขาก็เซ็ตค่ามาให้จากโรงงานแล้วพอประมาณ เราก็เลือกโหมดที่เหมาะกับสภาพแสงและการใช้งานในบ้านของเราก็จะได้ภาพที่ดีในระดับหนึ่ง การเลือกค่าPreset ในตัวของ Zero TA XD ก็มีการตั้งค่าไว้คร่าวๆ สำหรับการจัดวางในสภาพห้องแบบต่างๆ มาหลายแบบให้เลือกเช่นกัน แต่ถ้าต้องการความเป็นที่สุด ทาง Avantgarde Acoustic ก็เปิดโอกาสให้ท่านได้แสดงฝีมือเต็มที่ด้วยโปรแกรม XD-Series Control ที่สามารถปรับแต่งได้ละเอียดมาก แต่ควรต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการปรับแต่งค่อนข้างสูง และมีเครื่องมือวัดที่เหมาะสม เพราะการทำงานของระบบ XD ไม่ได้อัตโนมัติเหมือนใน AVR ที่เอาไมค์มาเสียบแล้วสั่ง Auto Calibrate แล้วจบ แต่เป็นในรูปแบบการลงโปรแกรมเพื่อใช้คอมพิวเตอร์ต่อสาย USB เข้าไปที่ลำโพงแต่ละข้าง (แนะนำว่าควรใช้สาย USB ที่ยาวพอ 2 เส้น เพื่อต่อจากลำโพงทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน แล้วใช้โน้ตบุ๊กนั่งปรับเสียงจากจุดนั่งฟังจะสะดวกที่สุด) เข้าหน้าจอเมนูการปรับแต่งแมน่วลเหมือนเครื่องเสียงของมืออาชีพจริงๆ ซึ่งตรงจุดนี้ หากท่านไม่มีความชำนาญ แนะนำว่าให้ปรึกษาทางตัวแทนจำหน่ายเพื่อเข้ามาบริการปรับตั้งให้ น่าจะสะดวกและหวังผลได้มากกว่าโดยเมื่อเซ็ตค่าเสร็จ ท่านสามารถบันทึกค่าไว้ในตัวลำโพงเหมือน Pre set จากโรงงาน ซึ่งสามารถตั้งค่าไว้หลายๆ ช่องก็ได้เพื่อฟังเปรียบเทียบกันว่าแบบไหนออกมาดีที่สุด หรือท่านจะขยันตั้งไว้ชดเชยสำหรับดนตรีแต่ละแนวก็ยังได้ ซึ่งจากที่ได้ทดลองใช้งาน หากพื้นที่ในห้องเอื้ออำนวยให้สามารถจัดวาง Zero TA XD ได้อย่างอิสระ ให้ตั้งค่าPre set เป็นค่าเริ่มต้นที่ไม่มีการชดเชยใดๆ ก่อน แล้วทำการเซ็ตอัพจัดวางตำแหน่งลำโพงให้ถูกต้องเพื่อให้ได้การตอบสนองความถี่ที่ราบเรียบแต่แรก โดยไม่ต้องใช้งาน DSP ในลำโพง เป็นทางเลือกที่ควรทำตั้งแต่แรก เพราะจะได้เสียงเบสที่มีคุณภาพดีที่สุด แล้วหลังจากนั้นยังสามารถใช้ DSP ช่วยปรับแต่งอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้การตอบสนองเสียงเบสต่ำๆ ลงลึกได้กว่าเดิมอีกเล็กน้อย

ในการทดสอบครั้งนี้ ผมใช้ต้นทางดิจิทัลเป็น dCS Paganini Stack ผ่านปรี Mark Levinson No. 32 และเลือกใช้แอมหลอด Cary V12 ในโหมด Triode 50w ในช่วงท้ายๆ ซึ่งผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจมาก

เริ่มกันที่แผ่น Ingram Washington เสียงร้องมีความนุ่มนวล อิ่มหนาน่าฟัง ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าทำได้ดี สาเหตุน่าจะมาจากวัสดุที่ใช้ทำปากฮอร์นที่เป็นโพลียูริเทน ซึ่งมีความแข็งแรงดี แต่มีความถี่เรโซแนนซ์ที่ไม่สูงเหมือนพวกปากฮอร์นโลหะ ซึ่งในบางครั้งจะพบว่าปากฮอร์นโลหะสร้างเสียงบางความถี่มาเสริมให้รู้สึกสดจัดจ้านเกินจริง ในการฟังเสียงเครื่องเป่าโลหะอาจได้อารมณ์ แต่มาตกม้าตายตรงเสียงร้องจะมีอาการเหมือนเอามือป้องปากร้อง แต่ Zero TA XD ไม่มีอาการนั้น เปียโนสดใสของหัวโน้ตกำลังดี มีความอุ่นจากเนื้อไม้ของบอดี้ตัวเปียโน ไม่ได้มีเสียงบางสาดจัดจ้านเหมือนเป็นเส้นลวดขึงกลางอากาศ เสียงเดินเบสซึ่งเป็นตัวดำเนินจังหวะ ไล้ไปกับเสียงกลอง และฉาบใบต่างๆ ก็สามารถติดตามลีลาการเล่นได้เป็นอย่างดี และต่อมาเพื่อเป็นการทดสอบกำลังของแอมป์ขับวูฟเฟอร์ 500 วัตต์ต่อข้าง จึงต้องลองแผ่นที่มีเสียงเหยียบกระเดื่องรัวเร็วๆ อย่าง X-Japan เพลง Dahlia เพราะอยากรู้ว่าแอมป์สามารถควบคุมการเคลื่อนและหยุดตัวของกรวยได้เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็พบว่าสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี คือมีเสียงกระเดื่องที่เด็ดขาด กระชับ ไม่มั่วตีรวนติดกันเป็นพรืด แต่ในส่วนของปริมาณแรงปะทะก็มีให้พอประมาณ ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะหลายคนอาจจะคาดหวังว่าวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว มีแอมป์ 500 วัตต์ต่อข้าง คงสามารถคาดหวังปริมาณเสียงเบสระดับเขย่าฝาผนังห้อง หรืออัดมาเป็นลูกๆ จนจุกอกได้ ซึ่งถ้าเป็นลำโพง PA ที่มีกลางแหลมเป็นฮอร์นทำงานร่วมกับวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว ก็คงเป็นเรื่องปรกติที่ให้เบสแบบนั้นได้ แต่จากการลองฟังเบสของ Zero TA ไม่ได้หนักหน่วงมหากาฬขนาดนั้น แต่จุดประสงค์ของการใช้วูฟเฟอร์ 12 นิ้ว และแอมป์กำลังสูง เพื่อให้เสียงเบสมีความรวดเร็วฉับไวกลมกลืนกับเสียงของฮอร์นมากกว่าซึ่งถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะ Zero TA XD ไม่ใช่ลำโพง PA ที่เน้นเรื่องความดังเข้าว่าแต่เป็นลำโพงที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ฟังเพลงภายในบ้าน และจะว่าไป Zero TA XD นับว่าเป็นลำโพงขนาดเล็กสุดของ Avantgarde Acoustic ซึ่งน่าจะออกแบบมาให้ใช้ในห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก เหมือนกับการใช้งานลำโพงตั้งพื้นตัวเล็กๆ มากกว่าการทำงานที่สอดประสานกันระหว่างลำโพงทั้ง 3 ทาง จึงมีความสำคัญกว่าปริมาณเสียงเบส เรียกว่าเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

และไหนๆ ก็มีลำโพงฮอร์นมาให้ลองถึงบ้านทั้งที พลาดแผ่นนี้คงไม่ได้ Harry James and his Big Band: the King James Version ในรอบแรก ผมเซ็ตแอมป์ Cary V12 ไว้ที่โหมด Triode 50w ซึ่งเท่าที่ฟังก็พบว่าเสียงอยู่ในระดับพอฟังได้ แต่มีความรู้สึกว่าขาดชีวิตชีวาไปหน่อย เสียงเครื่องเป่าดูไม่ค่อยสดเท่าที่ควร ออกจะนุ่มๆ นวลๆ ชอบกล เลยลองปรับการทำงานของแอมป์ Cary V12 ใหม่ให้เป็นโหมด Ultra Linear 100w ซึ่งเสียงจะดังขึ้น ต้องลดความดังที่ปรีแอมป์ลงมาก็พบว่าดนตรีที่เคยรู้สึกอั้นๆ ขาดชีวิตชีวาถูกปลดปล่อยให้มีอิสระน่าฟังขึ้นมาก เสียงเครื่องเป่ามีความสด เปิด กัดหูนิดๆ อย่างที่ควรเป็น เรียกได้ว่าไม่เสียชื่อลำโพงฮอร์น เรื่องเสียงเครื่องเป่าต้องหวังพึ่งได้ และนอกจากเสียงเครื่องเป่าแล้ว เสียงเดินเบสก็มีอิสระ มีชีวิตชีวาประมาณว่ามือเบสได้ทิปไปร่วมๆ สองพันเห็นจะได้ ดังนั้นจะดูที่ความไวระดับ 104dB แล้วเหมาว่าจะเล่นกับแอมป์หลอดซิงเกิลเอ็นด์ 1 – 2 วัตต์ ก็อาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว ควรลองกับแอมป์หลายตัวหน่อย เพื่อความมั่นใจ

ซึ่งตรงจุดนี้ เมื่อผมกลับไปหาข้อมูลของ Zero 1 XD ที่เป็นรุ่นที่มีแอมป์ในตัว พบว่าใช้แอมป์ 50 วัตต์ แยกการทำงานระหว่างตัวขับเสียงกลางและตัวขับเสียงแหลม ให้อิสระต่อกันจึงไม่แปลกใจเลยว่าการใช้แอมป์ 50 วัตต์ แล้วพบอาการอั้น ตื้อ อ่อนแรงไปบ้าง ก็เป็นเพราะอิมพีแดนซ์ที่สูงของตัวขับเสียง ต้องการแรงดันจากแอมป์ค่อนข้างสูงด้วย แอมป์ที่มีกำลังขับต่ำเกินไปจะมีช่วงสวิงของแรงดันที่น้อยเกินไปสำหรับ Zero TA XD ได้ การใช้แอมป์ที่มีกำลังเหมาะสมจะช่วยให้ได้ไดนามิก ความสด มีชีวิตชีวาออกมาได้ดี

ต่อมากับแผ่น the Super Jazz Trio: the Standard ก็พบว่าZero TA XD สามารถให้เสียงกลองที่ใหญ่และกระชับฉับไว มีปริมาณเสียงความถี่ต่ำเพียงพอที่จะฟังท่อนโซโล่กลองได้อย่างสนุก อีกทั้งเสียงเดินเบสและเปียโนก็ยังน่าฟังอีกด้วย เรียกได้ว่าเข้าทาง Zero TA ดีจริงๆ ต่อมากับแทร็ก the Imperial March ในแผ่น Great Film Fantasies สังกัด Telarc เรื่องความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของเครื่องเป่าไม่ใช่ปัญหาแต่เมื่อเป็นดนตรีเต็มวงสเกลใหญ่ก็ยังมีการสงวนเบสลึกๆ ที่ส่ออาการอั้นๆ เบลอๆ ไปบ้าง เมื่อเทียบกับลำโพงระดับอ้างอิงขนาดใหญ่ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นที่ขาของลำโพงที่ตั้งบนปุ่มยางสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 4 จุด ปรับระดับไม่ได้ ความมั่นคงในการตั้งเพื่อที่จะส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนให้มีเสียงเบสแผ่นมาตามพื้นจึงด้อยกว่าลำโพงที่มาน้ำหนักมากๆ และตั้งบนสไปก์ปรับระดับได้อย่างละเอียด ซึ่งถ้ามีการอัพเกรดตรงจุดนี้ น่าจะทำให้ Zero TA XD เสียงดีขึ้นไปอีกได้ แต่โดยรวมเมื่อเทียบกับค่าตัวของ Zero TA XD ที่ในสมัยนี้ นับว่าราคาใกล้ๆ กับลำโพงสองทางวางขาตั้ง บวกกับขาตั้งแท้จากผู้ผลิต ก็ต้องนับว่าZero TA XD ทำได้ดีไม่มีอะไรให้ติติงแล้ว

สรุป

Avantgarde Acoustic: Zero TA XD เป็นลำโพงที่มีการออกแบบสวยงาม มีงานผลิตที่ดูดีมีคุณภาพ เรียกว่าสามารถเชิดหน้าชูตาผู้เป็นเจ้าของได้ มีแอมป์พละกำลังสูงสำหรับขับเสียงเบสพร้อม DSP ที่ปรับแต่งได้ละเอียดมาก ช่วยให้ลำโพงทำงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในราคาสมเหตุสมผล ทั้งยังเป็นระบบเปิด คือสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องเสียงที่มีอยู่เดิมแล้ว และรองรับการอัพเกรดเครื่องชิ้นอื่นๆ ในระบบได้ดีกว่าZero 1 XD ที่รวมทุกอย่างในตัวเดียว ให้เสียงที่มีเสน่ห์แบบลำโพงฮอร์น โดยไม่ได้ปรุงแต่งเสียงเกินจริงแบบลำโพงวินเทจ นับว่าเป็นลำโพงตั้งพื้นที่น่าสนใจมากตัวหนึ่งในระดับราคานี้ ควรหาโอกาสไปลองฟังในงบนี้ครับ. ADP

นิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 249