วุฒิศักดิ์

นักเขียน : วุฒิศักดิ์ ชื่นมีเชาว์

ผู้ผลิตออกรุ่นที่เรียกว่าเป็น State-of-the-art ผ่านการออกแบบกลั่นกรองจากทีมงานของ Q Acoustics ซึ่งผลที่ได้คือ Concept 500 นี่เองนิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 275

ถ้าหากกล่าวถึง Q Acoustics เชื่อว่าภาพ ที่คุ้นเคยกันดี จะออกมาในรูป ลำโพงเล็ก ราคาถูก ให้เสียงได้ดีเกินราคาค่าตัว ซึ่งจุด แข็งนี้เองที่ช่วยสร้างชื่อให้ลำโพงจากประเทศ อังกฤษรายนี้โด่งดังในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่ง Q Acoustics ถือเป็นผู้ผลิตลำโพง หน้าใหม่ ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2006 เรียกได้ว่า ถ้าเทียบกับคนก็กำลังเริ่มเป็นวัยรุ่น สิวเพิ่งขึ้น เท่านั้นเอง ถึงจะเป็นผู้ผลิตที่มีอายุไม่มากนัก แต่ได้สร้างลำโพงที่ได้รับการยอมรับในด้าน ความคุ้มค่าออกมาหลายรุ่น ซึ่งในวันนี้เราจะ มาดูกันว่า ถ้าผู้ผลิตลำโพงที่มีจุดเด่นด้าน ความคุ้มค่า ตัดสินใจออกรุ่นที่กล้าเรียกได้ว่า เป็น State-of-the-art (จริงๆ เป้าหมายที่ ทีมออกแบบตั้งไว้คือ ลำโพงที่ดีที่สุดในราคา ไม่เกินหนึ่งหมื่นปอนด์) ที่ผ่านการออกแบบ กลั่นกรองจากทีมงานของ Q Acoustics ซึ่งผลที่ได้ก็คือ Q Acoustics Concept 500 ที่ผมได้รับมาทดสอบในคราวนี้นี่เอง

Q Acoustics Concept 500 ถือได้ว่าเป็น ลำโพงตั้งพื้นรุ่นสูงสุดของ Q Acoustics โดยมี Concept 300 เป็นลำโพงวางขาตั้งในอนุกรม เดียวกัน เท่าที่ถึงวันที่ทำการทดสอบยังไม่มี ลำโพงเซ็นเตอร์ และซับวูฟเฟอร์เข้ามาเสริม ในอนุกรมนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ทางทีมงาน Q Acoustics มีความตั้งใจที่จะให้ Concept 500 เป็นลำโพงสำหรับฟังเพลงอย่างแท้จริง เพราะ Concept 300 ก็มีการออกแบบขาตั้งเฉพาะ ที่มีโครงสร้างซับซ้อนและดูมีความจริงจัง ในการออกแบบ เน้นเรื่องการสลายแรงสั่น สะเทือนมากๆ ส่วน Concept 500 เป็นลำโพง 2 ทาง ตั้งพื้น ขนาดไม่ใหญ่ ไม่เล็ก น่าจะเหมาะ กับห้องขนาดราวๆ 20 ตารางเมตรได้เป็นอย่างดี ตู้ที่ได้รับมาทดสอบเป็นสีดำBlack Piano ผิวงานดูมีความเรียบร้อยสวยงามเกินหน้าลำโพง ในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ แต่ในเว็บไซต์ของทาง Q Acoustics มีรุ่นที่มี ผิวลำโพงส่วนหน้าราวๆ 2 ใน 3 ของตู้เป็นสีเงา มีทั้ง ดำขาว เงิน และอีก 1 ส่วนด้านหลังจะเป็น วีเนียร์ไม้แท้จากอิตาลี ซึ่งมีการเลือกสีของ ลายไม้ให้เข้าคู่สีกันกับส่วนหน้า โดยส่วนตัว ผมว่าตู้แบบทูโทนนี้ทำให้ลำโพงดูดีมีราคาขึ้น อีกเยอะ ไม่แน่ใจว่าทางตัวแทนจำหน่ายได้สั่ง เข้ามาทำตลาดด้วยหรือไม่ ในส่วนของฐานลำโพงเป็นโลหะสีเงินเงางาม มีดีไซน์ที่น่าสนใจ ตรงปีกด้านข้างที่เป็นทรงครึ่งวงกลมออกมาทาง ด้านข้างของตู้ลำโพง เพื่อให้ลำโพงที่มีรูปทรง ผอมเพรียวสูงแบบนี้ตั้งอยู่ได้มั่นคง ซึ่งขาแบบนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ดูอ่อนช้อย และไม่ดูเกะกะขัดหู ขัดตาแล้ว ด้วยการออกแบบที่โปร่ง จึงช่วย ลดเสียงสะท้อนที่เกิดจากฐานลำโพงได้ด้วย นับว่ามีความใส่ใจในทุกรายละเอียดดี ด้านใต้ มีสไปก์มาให้ 2 แบบ คือเป็นโลหะปลายมน เหมาะกับการวางบนพื้นเรียบแข็ง เช่นพื้นกระเบื้อง แบบในห้องของผม ส่วนอีกแบบเป็นสไปก์ปลาย แหลมไว้สำหรับจิกลงบนพื้นพรมได้อย่างมั่นคง ซึ่งถึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ก็นับว่าเหนือความ คาดหมายจากลำโพงในระดับราคานี้ ในส่วนของ ตัวตู้ลำโพงนับว่าน่าสนใจมาก เนื่องจากมีผนังตู้ ที่เรียกว่า GelcoreTM ผนังตู้จะมี 3 ชั้นประกบกัน โดยระหว่างชั้นจะมีชั้นเจลแทรกอยู่ด้วย ซึ่งแรง สั่นสะเทือนที่เกิดภายในตู้นี้จะถูกสลายเป็น ความร้อนด้วยชั้นเจลเหล่านี้ ถือว่าน่าประทับใจ สำหรับลำโพงในระดับราคานี้เช่นกัน

นอกจากผนังตู้ที่มีหลายชั้นแล้ว ยังมีการ คาดดามโครงภายในตัวตู้ในจุดต่างๆ อีกเป็น จำนวนมาก ทาง Q Acoustics บอกว่า โดยปกติ แล้วตู้ลำโพงที่มีรูปทรงผอมสูง แบบนี้มักจะมีปัญหาความไม่ ราบเรียบของคลื่นความถี่ต่ำภายในตู้ ซึ่ง Q Acoustics ได้ พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า HPETM ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา ดังกล่าวด้วย โดยหลักการ ทำงานจะคล้ายๆ Helmholtz resonator ที่ใช้ปรับแก้ปัญหา Standing wave ภายในห้อง ฟังเพลงนั่นเอง เพียงแต่ เป็นการจัดการ Standing wave ที่เกิดขึ้นภายในตู้ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการเคลื่อน ตัวของกรวยลำโพงนั่นเอง ในส่วนของตัวขับเสียงจะใช้ Mid/Woofer กรวยกระดาษ เคลือบ ขนาด 165 มม. 2 ตัว ติดตั้งอยู่ด้านบนและล่าง โดยมี Tweeter โดมผ้าไหม ขนาด 28 มม. อยู่ตรงกลาง ออกแบบให้แผงหน้าของ Tweeter มีการบากร่องเว้าเพื่อให้ตัวขับเสียง ทั้ง 3 ตัวสามารถวางไว้ได้ใกล้กันมากๆ ทำให้ เสียงจากแต่ละตัวขับเสียงมาถึงผู้ฟังพร้อมกัน เหมือนมาจากจุดเดียวกัน ถึงแม้จะไม่มีอะไร แปลกใหม่ แต่นับว่าเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย และได้ผลเป็นอย่างดี ในส่วนของวงจรตัดแบ่ง ความถี่ แจ้งมาว่าให้ตัวเก็บประจุของ Mundorf Supreme และขดลวดแกนอากาศ Mundorf เช่นกัน นอกจากนั้นในส่วนด้านหลังลำโพงให้ ขั้วต่อสายลำโพงเป็นแบบไบไวร์ที่ดูมีคุณภาพสูงมีจั๊มเปอร์ที่ดูมีคุณภาพดีให้มาด้วย แต่จุด ที่ถือว่าแปลก และน่าสนใจคือด้านหลัง ลำโพงจะมีรูกลมๆ อยู่ 3 รู และในกล่อง เครื่องมือจะมีให้โลหะรูปตัว U มาให้ข้าง ละ 1 ตัว ซึ่งในคู่มืออธิบายว่า เป็นส่วนของ วงจรปรับความไวของตัวขับเสียงแหลม คือ ถ้าไม่เสียบตัวยูที่ให้มา จะเป็นการลดความ ดังของเสียงแหลมลง 0.5dB และถ้าเสียบ คร่อมในช่องที่เขียนว่า Normal ก็จะเป็น ค่าปกติตามที่ออกแบบมา ส่วนหากเสียบ อีกตำแหน่งจะเป็นการเพิ่มเสียงแหลมขึ้น 0.5dB การออกแบบนี้จะมีประโยชน์ เมื่อจำเป็นต้องนำลำโพงไปวางในห้องที่มี ปัญหาทางอะคูสติกส์ ซึ่งนอกจากจะมีการ ปรับจูนเสียงแหลมได้แล้ว ยังมีการให้ ฟองน้ำสำหรับอุดท่อเบสหลังตู้ โดยให้มา เป็นฟองน้ำทรงกระบอกกลวงขนาดใหญ่ เท่าท่อเบส และอีกชิ้นเป็นกระบอกตัน ขนาดพอดีกับรูตรงกลางของชิ้นใหญ่ วิธี การใช้งานก็คือหากไม่มีปัญหาเรื่องเบส ก็ปล่อยท่อไว้โล่งๆ ตามปรกติ แต่ถ้าหาก จำเป็นต้องวางใกล้ผนังแล้วเจอปัญหาเบส บวมก็ให้ใส่ก้อนที่เป็นวงแหวนเข้าไปลอง จูนดูก่อน ซึ่งก็คือการลดขนาดท่อเบสด้าน หลังตู้นั่นเอง ถ้ายังไม่หายค่อยใส่ก้อนเล็ก ตรงกลางเข้าไป ลำโพงก็จะทำงานคล้าย ลำโพงตู้ปิดมากขึ้น แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ ป้องกันอากาศผ่านได้ทั้งหมดเหมือนลำโพง ตู้ปิดแน่ๆ ดังนั้นจึงควรใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ซึ่งตลอดการทดสอบนี้จะใช้จั๊มเปอร์ ตัว U ที่ให้มาเสียบที่ช่อง Normal และไม่มี การใส่ฟองน้ำจูนท่อเบสแต่อย่างใด

ด้วยความสวยงามของงานการผลิตตู้ รวมเข้ากับคุณภาพเสียงกลางที่นุ่มนวลถือเป็นลำโพงที่มีจุดเด่นเพียงพอที่จะต่อสู้กับเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งในระดับราคานี้อย่างแน่นอน

ขอเริ่มทดสอบด้วยแผ่นซีดี Bangkok Voice สิ่งที่มีความโดดเด่นคือ ย่านเสียงกลางที่ มีความนุ่มนวล ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดหวังได้จาก ลำโพงสองทางที่ใช้ตัวขับเสียงเป็นกรวยกระดาษ เคลือบผิว เสียงร้องมีลักษณะลอยเด่นอยู่กลางเวที เสียงแซกโซโฟนเพลงคนสวยใจดำจะออกแนว กลมมน นุ่มนวล ไม่ได้สดแผดแบบเครื่องเป่า ทองเหลืองที่ถูกขัดจนขึ้นเงา ซึ่งพอเป็นเพลงที่มี จังหวะขึ้นมาหน่อยอย่าง คิดถึงพี่หน่อย ก็จะพบ ว่านุ่มนวลเกินไปนิด ขาดความคึกคักที่ชวนให้ โยกตัวตามอย่างที่ควรจะเป็น ในส่วนของเสียง กลองมีขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่มากมาย แต่ก็ไม่ได้เล็กจนผิดสังเกต ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับ ลำโพงขนาดนี้ ในส่วนของเสียงการเดินเบส พบว่ามีเนื้อเสียงที่มีปริมาณเหมาะสมดี แต่ความสะอาด รวดเร็วของหัวต้นกำเนิด เสียงที่เป็นส่วนที่เราฟังเพื่อติดตามโน้ตเบส ยังมีแสดงข้อจำกัดของลำโพงสองทาง อยู่บ้าง คือหัวเสียงมักจะไม่สะอาดเท่า ลำโพง 3 ทาง เพราะตัวขับเสียงต้องทำงาน ในย่านความถี่ที่กว้างกว่า ซึ่งถือว่ายังอยู่ใน มาตรฐานของลำโพงในระดับราคานี้ เพี ยงแต่ดูจะด้ อยกว่าย่านอื่ นอยู่บ้างเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็มีความสงสัยว่า หากลอง เล่น Concept 500 กับต้นทางที่มีเสียงเบส หนักแน่น และแบนด์วิดท์ไม่ได้ตอบสนอง ขึ้นไปสูงมากอย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียง จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จึงลอง เปลี่ยนมาเป็นแผ่นเสียงซาวด์แทร็กจาก ภาพยนตร์เรื่อง Aladdin พบว่าเสียงเบส ค่อนข้างแน่นกระชับขึ้นกว่าตอนที่ฟังซีดี เสียงร้องที่เคยเป็นจุดเด่นก็ยิ่งฉายแววมาก ขึ้นไปอีก ถึงแม้โดยส่วนตัวผมจะรู้สึกว่า ตัวละคร Aladdin ในเรื่องที่ควรจะเป็น ตัวละครหลักที่ต้องร้องได้ดี กลับร้องแย่กว่า Genie อย่าง Will Smith เสียอีก เรียกได้ ว่าเป็นตัวส่งเสริมให้บทเจ้าหญิง Jasmine ของ Naomi Scott นี่กลายเป็นระดับ Diva ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นได้ลองแผ่น Be My World ของพี่บอย โกสิยพงษ์ มีเพลงที่น่า สนใจหลายเพลงทั้งยังรีมาสเตอร์มาได้ ดีมาก ซึ่งความหมายในที่นี้คือไม่มี ความพยายามไปปรุงแต่งให้ฟังดูเหมือนแผ่น Audiophile จนเกินงาม แต่เป็นการรีมาสเตอร์ ที่ให้อารมณ์แบบที่เป็นซาวด์เพลงของพี่บอย อย่างที่อยู่ในความทรงจำซึ่ง Concept 500 สามารถให้เสียงร้องออกมาได้ดีมาก อย่างเช่น เสียงร้องของคุณลุงสันติ ลุนเผ่ ในเพลง ชัยชนะ ที่ขับร้องได้ยิ่งใหญ่ กินใจ ฟังแล้วรู้สึกถึงความ ภาคภูมิใจที่ได้รับหลังจากได้ชัยชนะจากความ พยายามของตัวเองจริงๆ ในเพลง ลมหายใจ เมื่อเป็นเบส และกลองไฟฟ้า ก็พบว่ามีความ กระฉับกระเฉงดี เสียงร้องทั้งสองในขณะที่ เสียงกีต้าร์และเปียโนในเพลง ช่วงที่ดีที่สุด ก็พบ ว่ามีความกังวานของหางเสียงที่เป็นธรรมชาติดี ไม่พบอาการโรลออฟเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนฟังซีดี ทำให้รู้สึกว่าทีมออกแบบ Q Acoustic Concept 500 น่าจะ ชอบแนวเสียงของลำโพง Full Range ที่เน้นเสียงกลางเป็นหลัก โดยบางครั้งก็มีการยอมประนีประนอมด้านความกว้างของแบนด์วิดท์ ไปบ้าง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย เนื่องจากลำโพงในระดับราคานี้ คงไม่สามารถให้เสียงทุกเสียงออกมาได้หมดอยู่แล้ว จำเป็นต้อง กำหนดแนวเสียงที่ถนัดเพื่อจูนเสียงให้มีความน่าฟังในดนตรีแนวที่ ถนัด สุดท้ายนี้ขอเปลี่ยนกลับมาลองแผ่นเสียง Bangkok Voice พบ ว่าเป็นไปตามคาดคือ มีความเป็นดนตรีมาครบ เสียงเบสสามารถ ติดตามโน้ตได้เป็นอย่างดี ฟังดูมีความต่อเนื่องของเสียงตลอดทั้งย่าน ไม่รู้สึกขาดตกในส่วนไหนไปแบบตอนฟังในรูปแบบซีดีเลย

สรุป

Q Acoustics Concept 500 เป็นลำโพงสองทางตั้งพื้น ที่มีความกลมกล่อมในย่านเสียงกลางที่ดี ทำให้เป็นลำโพงที่มี แนวเสียงฟังง่าย ผ่อนคลาย เมื่อเล่นกับแหล่งต้นทางที่ให้เสียง อะนาล็อกอย่างแผ่นเสียง พบว่าเป็นการส่งเสริมแนวเสียงกันดีมาก ทำให้ Concept 500 สามารถฉายแววออกมาได้เป็นอย่างดี ด้วยระดับราคานี้ นับว่ามีคู่แข่งในตลาดค่อนข้างมาก แต่ด้วยความ สวยงามของงานการผลิตตู้ รวมเข้ากับคุณภาพเสียงกลางที่นุ่มนวล ถือเป็นลำโพงที่มีจุดเด่นเพียงพอที่จะต่อสู้กับเจ้าตลาดที่แข็งแกร่ง ทั้งหลายในระดับราคานี้อย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับว่า คุณจะชอบแนวเสียงของ Q Acoustics Concept 500 หรือไม่ เท่านั้นเอง. ADP

นิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 275