วุฒิศักดิ์
วุฒิศักดิ์ ชื่นมีเชาว์ 

 ชื่อของ Synergistic Research จริงๆ แล้ว ผมรู้จัก ในฐานะผู้ผลิตสายสำหรับเครื่องเสียงมาค่อนข้างนานพอสมควร จำได้ว่าสมัยนั้นมีรุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่งสั่งตรงจาก เมืองนอกเข้ามาใช้เอง เข้าใจว่าเพราะสมัยนั้นอาจจะยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในบ้านเรา ยี่ห้อนี้เป็นสายที่โด่งดังพอควร ในเมืองนอก ซึ่งหลังๆ ที่เข้ามามีชื่อเสียงในบ้านเราเป็นเรื่องเป็นราวกลับไม่ใช่อุปกรณ์จำพวกสายสัญญาณ หากแต่เป็นพวกอุปกรณ์เสริมเสียมากกว่า จากที่เห็นหลายๆ ตัว 

 บอกตามตรงว่า หน้าตาดู วูดู มากๆ จนผมนึกว่าเป็นผู้ผลิตคนละเจ้าที่มีชื่อคล้ายกัน เสียด้วยซ้ำไป ต้องเรียนตามตรงว่า เรื่องทดสอบเครื่องแนวนั้นผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ผมเน้นที่อุปกรณ์หลักที่มีความลงตัวเหมาะสมกันมาก่อน แล้วหลังจากที่อุปกรณ์ทั้งชุด เข้าขากันดีหมดแล้ว ก็เน้นที่การจัดวาง เซ็ตอัพให้ระบบทำงานได้ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นเป็นหลักมาก่อน เรื่องพวกผักจิ้ม กับแกล้ม เครื่องเคียง ไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ ดังนั้น เป็นโชคดีของผมที่คราวนี้ได้รับสาย USB มาทดสอบ เรียกได้ว่าค่อยเข้าทางหน่อย จริงๆ ก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่สายของ Synergistic Research ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ในบ้านเรา ทั้งที่มีการออกแบบหลายอย่างที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 

ก่อนอื่น ขอเล่าให้ฟังหน่อยว่า เมื่อไม่นานมานี้ พอดีผมมีโอกาสไปฟังชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ มากชุดหนึ่งที่ใช้สายของ Synergistic Research รุ่นใหญ่ทั้งชุด โดยได้มีโอกาสไปฟังชุดนี้สองครั้ง ครั้งแรกเครื่องหลักทุกชิ้นลงตัวแล้ว แต่อยู่ในระหว่าง รอสาย Synergistic Research ที่กำลังเดินทางมา ก็พบว่าเสียงมีคุณภาพดีในหลายแง่ แต่ยังมีอาการขาดๆ เกินๆ เนื่องจากเส้นสายในแต่ส่วนผสมปนเป คละเคล้ายี่ห้อแบบแนวที่เรียกได้ว่า หยิบอะไรได้ก็ เอามาเสียบเลย ทำให้อาจจะไม่เข้าขากันเท่าไหร่ แต่เมื่อ Synergistic Research มาพร้อมกันยกชุดน้ำเสียงที่เคยขาดๆ เกินๆ ก็มีความกลมกลืนไป ในทิศทางเดียวกันขึ้นมาเป็นอย่างมาก ทำให้ผม มีความสนใจที่อยากจะลองสายของ Synergistic Research ดูบ้างเหมือนกันว่าจะมีแนวเสียงเป็นอย่างไร โดยในคราวนี้ได้รับสาย USB รุ่น Core Active ซึ่งจากชื่อรุ่นที่มีคำว่า Active ก็คงทำให้หลายท่านสงสัยว่า สาย USB มันจะเป็นอุปกรณ์ Active ได้ยังไง โดยตัวสาย Synergistic Research Core Active USB ที่ได้รับมาเป็นสาย USB ความยาว ราวๆ 1 เมตร มีปลอก Carbon fiber ด้าน A บอกรุ่น Core Active และด้าน B (ที่ใช้เสียบเข้า หลัง DAC) บอกยี่ห้อ Synergistic Research และ serial number ด้าน A (ด้านที่เสียบเข้า PC) มีหลอดไฟสีฟ้า และมีสายไฟต่ออกมาเป็นขั้วเสียบ ภาคจ่ายไฟ!!! ถึงตรงนี้ ท่านไม่ต้องขยี้ตาอ่านใหม่ หรือสบถว่าผมพิมพ์ผิดหรอกครับ สาย USB เส้นนี้ ต้องเสียบอะแดปเตอร์จ่ายไฟเลี้ยงจริงๆ ครับ โดยภาคจ่ายไฟที่ให้มามีขนาด 24V DC, 500mA ถึงตรงนี้ หลายท่านคงเริ่มสงสัยว่า ทำไมสาย USB ต้องเสียบภาคจ่ายไฟไปเพื่ออะไร 

จากที่ทราบมาก็คือ ทาง Synergistic Research มีการออกแบบให้มีการป้อนไฟเลี้ยงเข้าไปที่ชีลด์ ของสายเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมารอบสาย เพื่อให้สนามแม่เหล็กที่สร้างขึ้นมาทำตัวเป็นเกราะป้องกันสัญญาณรบกวน ยิ่งที่แถวปลายสายตรงจุด ที่เสียบภาคจ่ายไฟมีหลอด LED สีฟ้าติดสว่างอยู่ เมื่อเสียบใช้งาน ยิ่งทำให้นึกถึงเกราะสนามพลังที่เคยดู ในหนังไซไฟอย่างพวก Star Wars จริงๆ การที่ต้องเสียบภาคจ่ายไฟนี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นที่มีคำว่า Active ต่อท้าย (เข้าใจว่ามีรุ่นธรรมดาที่ไม่ต้องเสียบไฟด้วย) เพราะมันต้องเสียบปลั๊กไฟเลี้ยงชีลด์สายให้ มีสนามแม่เหล็กมาคอยกันสัญญาณรบกวนไม่ให้เข้ามาเหนี่ยวนำกับตัวนำสัญญาณในสาย ซึ่งหลักการนี้ ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องแปลกใหม่มากนัก เพราะเท่าที่ผมทราบก็พอมีให้เห็นในสาย ยี่ห้ออื่นอยู่บ้าง แต่เท่าที่เคยได้ลองๆ มาในสายบางเส้น ผมพบว่า ถ้าออกแบบมาไม่เหมาะสมอาจ ทำให้เกิดปัญหาเสียงอั้น  ขาดไดนามิก และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ถูกตัดหายไป จนในบางครั้งพบว่า ปิดระบบไฟเลี้ยงแล้ว เสียงดีขึ้นมาซะอย่างงั้น 

ในคราวนี้เพื่อความแน่ใจ ผมจึงได้ทดลองฟังเปรียบเทียบ ระหว่างเสียบใช้งาน และถอดภาคจ่ายไฟออกด้วย ว่าจะมีความแตกต่างกันไปในทิศทางใด ซึ่ง จากการทดลองสามารถรู้สึกได้ ชัดเจนว่า ความคมชัด การเว้น ช่องว่าง ช่องไฟ และ พลังอัดฉีด เมื่อเสียบภาคจ่ายไฟทำได้ดีกว่า คือหัวเสียงเปียโนมีความชัดเจน กว่า เสียงร้องเป็นตัวตนมากกว่า เสียงเบสแน่นกว่า เมื่อถอดสายออก เสียงต่างๆ จะนุ่มๆ น่วมๆ ขาดแรงปะทะลงไปอย่างรู้สึกได้ ทันที ดังนั้นตลอดการทดสอบ ก็จะต่อภาคจ่ายไฟใช้งานตามที่ผู้ออกแบบกำหนดมา 

คุณภาพเสียง 

แนวเสียงของ Synergistic Research Core Active พบว่า ปริมาณหัวเบสต้นมีความรู้สึกถึงแรงปะทะมากกว่าสายอ้างอิง ที่ผมใช้งานอยู่ประจำเล็กน้อย ในขณะที่รายละเอียดของบรรยากาศยังเป็นรองสายอ้างอิงอยู่บ้าง Synergistic Research Core Active USB มีจุดเด่นตรงการแยกแยะช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีได้ดี ฟัง Billy Joel: She’s got a way ที่มีจังหวะย้ำกระเดื่อง และเบสสนุกสนาน และมีแบนโจ ไวโอลิน เล่นอยู่คนละข้าง ก็แยกแยะได้ชัดเจนทุกตัวโน้ตดี เสียงเปียโนไฟฟ้าให้ความรู้สึกถึงความคมแข็งแบบที่มันควรจะเป็น ซึ่งก็เหมือนกับเสียงของกลองไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกสังเคราะห์ ซึ่งถ้าเป็นเพลงอะคูสติกคงไม่ดี แต่กับเพลงในแนวของยุค ’80s มันดูลงตัวไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี การให้ความลึกของรูปวงมีให้รู้สึกได้ แต่ด้านกว้างมี ความจะแจ้งกว่า ความลึกยังเป็นรองสายอ้างอิง ฐานเบสต่ำๆ ลงได้ ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ถึงกับลึกสุดๆ แต่ก็มีข้อดีที่ได้ความแน่นกระชับ กระแทกกระทั้น ของหัวเบสที่เด็ดขาดสะใจมาแทน ซึ่งก็ไปได้ดีกับบุคลิกโดยรวมของสาย 

สรุป Synergistic Research Core Active USB เป็นสายที่ ออกมาในแนวทางเน้นความเข้มข้นของชิ้นดนตรี มีความเด็ดขาด ของหัวโน้ต ช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรี และมีปริมาณที่สมดุลกัน ในแต่ละย่านความถี่ ทำให้มีโทนเสียงที่น่าฟังดี ด้วยราคาค่าตัว ที่ไม่ถึงกับถูก แต่ก็ไม่แพงมากจนเกินเอื้อม จัดว่าเป็นสาย USB ที่มีความน่าสนใจมากเส้นหนึ่ง. ADP 

ราคา 15,000 บาท 

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Livingsound
โทร. 089-517-2222 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 240