ในงาน BAV HI-END SHOW 2022 #2  ที่ผ่านมา นอกจากจะได้เพลินกับบรรดาร้านค้าที่พร้อมใจขนไฮไฟระดับขีปนาวุธเข้าประจำการในห้องฟังบนโรงแรมห้าดาวของเมืองไทยให้ได้สัมผัสกัน ยังได้พบกับเพื่อนคอเดียวกันหลายท่าน เป็นอีกวันที่ต้องเดินทางข้าม 3 จังหวัด และเป็นอีกครั้งที่มาถึงงานเร็วกว่าปกติ เพราะมีนัดกับแขกพิเศษ Mrs. Gabi van der Kley Rynveld ขอให้เรียกเธอว่า กาบี้ ไรเฟล เป็นภาษาดัตช์ เธอเป็น working woman หญิงเก่ง Gabi มีชีวิตการทำงานที่น่าสนใจมาก สมเป็นนายหญิงแห่ง Crystal Cable ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่ 

Welcome to BAV HI-END SHOW

คำทักทายแรกเมื่อได้พบหน้ากัน โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ได้พบกับ Gabi ซึ่งพบกันครั้งแรกราว 8 – 9 ปีมาแล้ว ครั้งนี้พาทายาท Mr.Viktor de Leeuw: Director Of Operations มาร่วมวงสนทนา พร้อมกับคุณโสฬส ธรรมเภตรารักษ์ แห่ง Living Sound ผู้นำเข้า Crystal Cable และ Siltech เจ้าแห่งเส้นสายจากเนเธอร์แลนด์นั่นเอง

Intro…

Gabi อดีตนักเปียโนอาชีพ คู่ชีวิตของ Mr. Edwin Rijinveld เจ้าสำนัก Siltech & Crystal Cable จากฮอลแลนด์ เป็นผู้หญิงไม่กี่คนในแวดวงเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่เป็นที่รู้จักกัน

 “ไฮไฟต้องประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเล่น แอมป์ ลำโพง จะไม่เกิดเสียงดนตรีขึ้นเลยถ้าขาดเส้นสาย เพราะมันเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าหากัน และมีความสำคัญมาก แม้ว่าคุณอาจจะมีอุปกรณ์ชั้นดีเพียงไร แต่ถ้าใช้สายแย่ๆ ก็จบตรงนั้นเลย ดังนั้นสายดีๆ จึงมีผลต่อคุณภาพเสียงโดยรวมอย่างมาก”

จากนักดนตรีอาชีพได้เล่นดนตรีให้คนฟังกลายมาเป็นคนในวงการเครื่องเสียงไฮเอนด์ เครื่องเสียงซึ่งทำหน้าที่เล่นกลับให้กับคนที่เล่นเครื่องเสียง ผู้ซึ่งชอบและอยากที่จะให้ชุดเครื่องเสียงที่เขาเล่นกลับให้เสียงเสมือนวงดนตรีแสดงสด ในชีวิตจริงออดิโอไฟล์ส่วนใหญ่มักมองข้ามหรือลืมความเป็นศิลปะของดนตรีไปฉิบ มัวหลงเครื่องและอุปกรณ์ สนใจว่าแอมป์ตัวนั้น ลำโพงคู่นั้น เครื่องเล่นตัวนี้ สายเส้นโน้น ให้เสียงเป็นอย่างไร ง่วนกับมันจนไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าของงานดนตรีไปเลยด้วยซ้ำ

ผู้หญิงกลายมาเป็นผู้เข้าร่วมงานเครื่องเสียงในฐานะผู้ซื้อหรือผู้ร่วมตัดสินใจ แม้ว่า Crystal Cable ไม่ใช่สายสำหรับผู้หญิง เพราะสาวๆ เหล่านั้นน่าจะสนใจเครื่องประดับ เพชร ทองมากกว่า อย่างน้อยก็สวยสะดุดตา แถมให้การยอมรับ ติดตั้ง ใช้งานง่าย เทคโนโลยีก็เช่นเดียวกับรุ่นพี่แต่ให้เสียงเป็นมิตรกว่า มั่นใจว่า Wife Factor ผ่านแน่นอน

Viktor ผู้เป็นทายาท ถูกหล่อหลอมมาจากครอบครัวที่รักในเสียงดนตรี เรียนจบทางเศรษฐศาสตร์และกฎหมาย เข้าร่วมงานกับบริษัทมาราว 6 ปี เรียนรู้เทคนิคัลจาก Edvin ผู้พ่อ ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยดูแลกิจการของครอบครัวในส่วนของการผลิต เดินทางมาเมืองไทยเป็นครั้งที่ 2 กำลังอยู่ในช่วงขยายงาน ปรับปรุง ขยายการตลาด พร้อมกับขยายโรงงานใหม่ ในช่วงนี้เราเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่าทีเดียวด้วย ทุกคนทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้

 SILTECH & CRYSTAL CABLE

ทั้งสองบริษัทแชร์เทคโนโลยี ทรัพยากรและโรงงานร่วมกัน 2 – 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจของเราโตขึ้นเป็น 2 เท่า จากเดิมมีสตาฟ 15 – 16 คน ปัจจุบันมีทีมงานมากถึง 35 คนแล้ว มี Distributor & Sales มากกว่าเดิม

Core business คือผู้ผลิตสาย Siltech จะอายุครบ 40 ปีในปีหน้า จากนั้น Crystal Cable ก็จะครบ 20 ปีในปีถัดไป แชร์กันทุกอย่างโดยเฉพาะเทคโนโลยีการผลิต ที่ต่างกันที่รูปลักษณะ รวมถึงการบรรจุ การทำตลาด ระบบบัญชี และกลุ่มลูกค้า แต่ก็อยู่ในกลุ่มไฮเอนด์เช่นเดียวกัน

ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

Siltech และ Crystal Cable มาจากงานวิจัยพัฒนาทางวิศวกรรม ไม่ลองผิดลองถูก ไม่มีฟลุก หรือวูดู มนต์ดำใดๆ ทั้งสิ้น ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นเกิดจากผลงานวิจัยพัฒนาล้วนๆ ทุกอย่างเริ่มจากงานวิจัยในแล็บ มีที่มาทางวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างเป็นฟิสิกส์ มีข้อมูลทางงานวิจัยมากมายกว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์สักชิ้น จะใช้ COMSOL software (Multi-physics modeling software) ที่ทันสมัย ช่วยในการวิเคราะห์ที่สามารถสร้างโมเดลเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างเที่ยงตรงแม่นยำ 

Cable & Wires

มิเพียงโลหะที่ใช้ ยังมีอุณหภูมิ ความชื้น ฉนวน ผิวสัมผัสของขั้วต่อสาย การบิดตัวของสายส่งผลต่อเส้นแรงแม่เหล็ก สายสัญญาณ สายลำโพง สายไฟอย่างไร?… ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันหมด เพราะเรื่องอย่างนี้อาจไม่สามารถคำนวณโดยวิธีเก่าๆ ได้อีกต่อไป จากนั้นทำเป็นต้นแบบเพื่อทดสอบ ทำออกมาหลายๆ ตัวอย่าง วัดแล้ววัดอีก ฟังจริงด้วยเครื่องเสียงจริงในห้องทดสอบ ปรับแก้จนออกมาดีที่สุด เลือกสิ่งที่ดีที่สุด จากนั้นจึงเข้าสู่สายการผลิตซึ่งใช้เครื่องจักรอันทันสมัยที่สุดที่ออกแบบเพื่อผลิตภัณฑ์ของเราโดยเฉพาะ แล้วจึงส่งสู่ตลาด

พูดเลยว่า มีแล็บเพื่องานวิจัยพัฒนา (Electronics, Metallurgy) ที่ทันสมัยที่สุดในโลก เคเบิลมีสายไฟ ฉนวน ขั้วต่อแค่นั้น แต่ทำไมจึงต่างกัน คิดว่าคงไม่มีใครที่จะคิดแบบเราที่ใช้กระบวนการทางวิศวกรรม รวมถึงใช้ Multi-physic modeling มาช่วยวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในการคำนวณหา และกำหนดพารามิเตอร์ของโครงสร้างสาย ฉนวน รวมถึงขั้วต่อ แทนที่จะลองผิดลองถูกเหมือนหลายๆ ค่าย จึงกล้าพูดว่า Siltech & Crystal Cable คือ state of the art cable products โดยแท้

Siltech เป็นสายรุ่นท็อปที่มีลุคปึ้ก คุณลักษณะแข็ง หนัก หนา ขั้วต่อแข็งแรง รูปลักษณ์ไฮเอนด์จ๋า ส่วน Crystal Cables จะออกแนวหรู ไลฟ์สไตล์ ทั้งๆ ที่ใช้เทคโนโลยีของโลหะศาสตร์เดียวกัน แต่ต่างกันที่กระบวนการผลิตฉนวนและรูปลักษณ์ภายนอก ให้เสียงต่างกัน ลักษณะการใช้งานก็ต่างกันด้วย ไม่ใช่แค่ลุคที่สวย ดูเป็นมิตรกับผู้หญิง แต่ใช้งานง่ายกว่ามากด้วย

Siltech คือแบรนด์ต้นแบบที่มีความแข็งแกร่งของงานวิศวกรรม เด่นในเรื่องของ Metallurgy, Material, Technologies เราคิดค้นนวัตกรรมที่เกิดจากงานวิจัยพัฒนา การทดลองในห้องแล็บ แล้วทำให้เป็นจริงในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม ขยายผลสู่แบรนด์น้อง Crystal Cable มีรูปลักษณ์รวมถึงการใช้งานที่ปรับตัวได้ง่ายกว่า ทั้งสองมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน

Construction

สายของ Siltech จะตีเกลียวจึงแข็งและใหญ่ แต่สายของ Crystal โครงสร้างเป็น coaxial เท่านั้น ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Monocrystal ซึ่งจะแตกต่างจากเทคโนโลยีทำสายในอดีตโดยสิ้นเชิง เป้าหมายคือเพื่อให้สายเงินบริสุทธิ์ระดับ 9N (99.999999999%) ทีเดียว ที่จะคงคุณสมบัติของเงินบริสุทธิ์ไว้ โดยใส่ฉนวนระหว่างสายเงินด้านในเป็นสายเส้นเดียวที่ “ให้ตัว” ได้ดีมาก กับฉนวนประเภท Dielectric material ชีลด์ และแจ็กเก็ต รวมกันหลายชั้นไว้ด้วยช่องว่างของอากาศเล็กๆ ซึ่ง Monocrystal มีคุณสมบัติเหนือกว่าสายเงินทั่วๆ ไปถึงร้อยเท่าทีเดียว ซึ่งย่อมแพงกว่าสายทั่วไปมาก และเป็นเรื่องยากที่จะผลิตสายยาวๆ คือคุณไม่สามารถผลิตสายยาวถึง 100 m. ได้เลย

ไม่ว่าสายลำโพงหรือสายไฟ จะใช้วัสดุตัวนำชนิดเดียวกัน ต่างกันที่วิธีการชุบโลหะภายนอกของวัสดุ รวมถึงการเข้าหัวสายก็อาจจะเป็นออปชันที่เลือกได้ Furutech, Wattgate ก็แล้วแต่รุ่นของสายที่ผลิตออกมาหรือของ Crystal จะใช้ขั้วของ WBT Next Gen ซึ่งทำเฉพาะให้เรา ที่แน่ๆ สายของเราจะไม่มี Filter ใดๆ เลย ไม่ต้องการที่จะปิดกั้นความบริสุทธิ์ของสัญญาณเสียง รวมถึงไม่มีทิศทางด้วย ที่เห็นเป็นกระเปาะนั่นไม่ได้มีอะไรข้างใน ทำเพื่อความสวยงามเท่านั้น  ส่วนเรื่องความยาวของสายที่ผลิต สำหรับรุ่นที่เป็น Monocrystal ทำความยาวมากๆ ไม่ได้ เราทำความยาวได้ไม่เกิน 15 – 20 เมตรเท่านั้น ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่งสายประเภท Monocrystal ติดตั้งแบบฝังฝ้า ถึงอยากขายก็ทำไม่ได้

Monocrystal Silver

คือที่สุดของเทคโนโลยีทางฟิสิกส์ เล็กที่สุด เบาที่สุด ตัวนำเล็กและบางมากถ้ามองผิวเผิน เพราะมันเบา ให้ตัวได้ดี เก็บสายได้ง่าย แต่ความจริงเราสามารถบรรลุถึงสุดยอดของเทคโนโลยีที่จะบรรจุลงไว้ด้วย Monocrystal Silver Core ชั้นในสุด ตามด้วยฉนวนที่เรียกว่า Kapton ถึงสองชั้น Peek จากนั้นก็เป็นชั้นของชีลด์สองชั้น ประกอบด้วย Monocrystal Silver Shield และ Monocrystal Gold Shield ที่เรียงตัวกันแน่นไม่มีช่องว่างเลย จนถึงฉนวนกันรอยใสๆ ด้านนอกซึ่งแต่ละชั้นจะไม่มีช่องว่างให้เกิดการ distortion ของสัญญาณเลยแม้แต่น้อย

Sound Difference

Siltech ให้เสียงที่ Neutral Transparent, Dynamic มีรายละเอียดดี แต่จะให้เสียงอุ่น

Crystal Cable จะให้เสียงที่มีสปีด ฉับไว เป็นกลาง ให้เสียงเป็นธรรมชาติ มีกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ทีนี้คุณก็ต้องเลือกตามรสนิยมของคุณแล้วล่ะว่าชอบแบบไหน จริงๆ แล้วควรจะแมตช์กับแอมป์ ลำโพงหรือเครื่องเล่นด้วย ซึ่งคุณอาจจะมิกซ์ และแมตช์ได้ด้วยทั้งสองแบรนด์ ม่จำเป็นต้องแบรนด์เดียวกันทั้งหมด

– What make Crystal Cable difference than others?

จะไม่มีการใช้ทองแดงในการผลิตเลย ใช้โลหะเพียง 2 ชนิด คือ ทองและเงินเท่านั้น แต่หาใช่เงินธรรมดา ก็ไม่แปลกที่หลายคนบอกว่าเสียงของสายที่ทำจากเงินจะเสียดหู ก็เพราะมี Micro clack ไง

Monocrystal Silver คือตัวที่เหนือกว่าซึ่งจะใช้กับรุ่นท็อป แน่นอนว่าทำยากมาก มีความบริสุทธิ์และแพงมาก

โลหะอีกประเภทคือ Gold inject to Silver เรียกว่า Silver-Gold Alloy

โดยทองจะเข้าไปปิดแก็ปของ Micro crack ในลวดเงินปกติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและทำยากมาก แต่ด้วยการคิดค้นของ Edwin จึงทำได้สำเร็จ และได้ใช้กับรุ่นรองๆ ลงไป

– New Product Hi-light…

  • Diamond series 2 เป็นสายระดับ Entry level จะใช้ตัวนำจาก Silver-Gold Alloy เพิ่งจะรีลีสไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง และ BAV HI-END SHOW 2022 #2 เป็นงานแรก จะเห็นว่าเส้นเล็กมาก ราคาไม่สูงนัก จริงอยู่ว่าเราไม่เคยผลิตของถูกนะ

การเปิดตัวสายเคเบิล Diamond Series 2 ใหม่ล่าสุด ทำให้สามารถนำเสนอ value หลักของ Crystal Cable ในราคาที่ย่อมเยาขึ้น Diamond Series 2 ใหม่ไม่เพียงแต่ได้รับการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับ Diamond Series ดั้งเดิมในแง่ของเสียง แต่ยังมอบความคุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในขณะที่มีขนาดกะทัดรัด น่าดึงดูด และราคาย่อมเยา นั่นคือสาระสำคัญของ Diamond Series 2 ใหม่

ด้วยการลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาที่ดำเนินการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์ความรู้อันกว้างขวางที่ได้รับระหว่างการสร้างสรรค์ Art Series อันโดดเด่นนั้น เพื่อมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นในซีรีส์ระดับเริ่มต้นเช่นกัน เอกลักษณ์เกี่ยวกับโลหะวิทยา การออกแบบตัวนำ การป้องกันการรบกวน และฉนวน ส่งผลให้เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าภาคภูมิยิ่ง การสร้างสายเคเบิลที่ดีที่สุดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มีคุณภาพขนาดนี้ในราคาย่อมเยา ซึ่งทุกคนเป็นเจ้าของได้

Interconnect Piccolo Diamond 2
Speaker cable Piccolo Diamond 2
Power cable Micro Diamond 2

ราคา 19,000 บาท
ราคา 44,000 บาท
ราคา 26,000 บาท

  • Future Dream Hybrid ใช้ Silver-Gold Alloy เป็นชีลด์ และใช้ Monocrystal Silver เป็นตัวนำ เพิ่งจะรีลีสในมิวนิกเมื่อกลางปีนี้เอง

Future Dream รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน ได้รับการแนะนำในโอกาสครบรอบ 15 ปีของ Crystal Cable ในปี 2019 นี่เป็นครั้งแรกที่ Crystal Cable ประสบความสำเร็จในการใช้โลหะผสมทั้งเงินและทองและโลหะเงิน Infinite Crystal ในสายสัญญาณเสียง แต่ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น….

กระบวนการปรับปรุง คิดค้น และนำการพัฒนาใหม่ๆ มาสู่โลกแห่งเสียงระดับไฮเอนด์อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การพัฒนา Future Dream 22 ซีรีส์ใหม่นี้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Diamond Series 2 ที่บางเฉียบของ Crystal Cable และรุ่นเรือธง ART Series วิศวกรของเราสามารถพัฒนาสายสัญญาณเสียงที่ให้คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมได้ด้วยการรวมโลหะเงินและคริสตัล Infinite Crystal จากทั้งสองซีรีส์เข้าด้วยกัน หรือเรียกว่า Hybrid โดยยังคงรูปลักษณ์ที่บาง ความยืดหยุ่น และการออกแบบที่สวยงามไว้ ด้วย Future Dream 22 คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองโลกอย่างแท้จริง

Future Dream 22 Speaker
Future Dream 22 Interconnect
Future Dream 22 Power

ราคา 320,000 บาท
ราคา 170,000 บาท
รา­­คา 100,000 บาท

  • ART Series เป็นรุ่นเรือธง มีสายครบทุกประเภท ใช้ Monocrystal Silver ทั้งหมด รีลีสมาซักระยะและ “ปัง” มาก อุปกรณ์ทุกชิ้นนั้นหรูสุดๆ รวมถึงราคาด้วย นี่คงเป็นเหตุผลที่ “ดัง” มาก (ผู้เขียน)

Crystal Cable Art Series เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมการออกแบบขั้นสูงของวิศวกรรมและวัสดุศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างสร้างสรรค์และมีศิลปะ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่สร้างเสียงดนตรีตามมาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้

สายเคเบิลรุ่นเรือธง ประกอบด้วยสายเคเบิลสามตระกูล: Monet, van Gogh และ da Vinci แต่ละรุ่นได้รับการตั้งชื่อตามศิลปินผู้ให้กำเนิดการปฏิวัติทางสุนทรียะและเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ของการแสดงออกทางศิลปะ ผลิตภัณฑ์ Crystal Cable Art Series ทำแบบนั้นได้ในโลกไฮไฟระดับไฮเอนด์

Interconnect Da Vinci
Speaker cable Da Vinci
Power cable Da Vinci

ราคา 760,000 บาท
ราคา 1,470,000 บาท
ราคา 460,000 บาท

Why Crystal Cable?

“สุดยอดของวัสดุต้องมีคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ” และ “ต้องสามารถถ่ายทอดเสียงออกมาเสมือนเครื่องดนตรีจริง ให้เสียงมีจิตวิญญาณของศิลปะดนตรี” ต่อให้นักดนตรีเล่นดีเพียงไร ถ้าการบันทึกเสียงไม่ดี กลายไปทำลายผลงานของนักดนตรีเสียด้วยซ้ำ การเล่นกลับยิ่งสำคัญมากกว่า จะไม่สามารถถ่ายทอดดนตรีที่แท้จริงออกมาได้เลยถ้าไม่ดีพอ เรามีภารกิจที่จะนำเสียงดนตรีที่แท้จริงออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งน้อยนักที่บริษัทอื่นจะคิดอย่างเรา

Crystal Cable ทุกเส้นผลิตในฮอลแลนด์ และเพื่อกันลอกเลียนแบบจะมี NFC chip ติดไว้ด้วย เพื่อว่าจะได้มั่นใจว่าเป็นของแท้ สามารถตรวจแหล่งที่มา วันผลิต ผู้นำเข้าได้จาก app บน iDevices และยังมี Life Time Warrantee ซึ่งหมายถึง After Sales Services ให้อีกด้วย

นอกจากลุคที่สวย คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมคือ Core Value ของเรา ทำให้ตัดสินใจไม่ยาก 

จุดเด่นอีกข้อก็คืองานวิจัยที่สามารถคาดการณ์ และวิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้น เมื่อเปลี่ยนองค์ประกอบของสาย เช่นตัวนำ หรือฉนวน และขั้วต่อ จะเห็นว่าได้นำองค์ความรู้จากรุ่นใหญ่ ART Series สู่ซีรีส์รองลงมา จนถึงรุ่นเล็ก ซึ่งทำให้มีอิมเมจ ซาวด์สเตจ และเสียงไปในทิศทางเดียวกัน

ขอ 3 คำ“Explainable & Measurable >> Audible”

คุณบอลล์เสริมว่า …

“Sound, User, Friendly, Craftmanship, Proud to own”

What the most successful model for Crystal Cable?

ก็ต้อง Da Vinci Speaker cable ซิ เพอร์เฟกต์ทุกมิติ สวย เนี้ยบ เสียงดี ทราบนะว่าสายลำโพงในเรนจ์เดียวกันก็ค่าตัวประมาณนี้ แต่ Da Vinci เป็นอะไรที่เหนือกว่า

อีกตัวต้อง Entry Level นั่นคือ Diamond 2 เพราะถูกถ่ายทอด DNA จากรุ่นพี่ที่ใช้ประสบการณ์ 20 ปี ลงมาในราคาเท่านี้ ภูมิใจมาก และอยากให้ได้ลองสัมผัสกัน

Where is the most success region for Crystal Cable?

Crystal Cable ได้รับการตอบรับอย่างดีและเติบโตในตลาดเอเชีย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และแน่นอนตลาดเมืองไทย ซึ่งแน่นอนว่า Crystal Cable ได้รับการตอบรับในยุโรปและอเมริกาดีอยู่แล้ว

โอ้ว ยังไม่ใช่ในตะวันออกกลาง จริงอยู่ว่าพวกเขาร่ำรวย ชอบความหรูหราของเพชรและทอง รักในเสียงดนตรี ชอบไฮไฟ แต่ก็ยังไม่ใช่วัฒนธรรมไฮเอนด์แท้ ประมาณ mind set ยังไม่ใช่ คงต้องใช้เวลา ถึงอย่างไรเราก็จะพยายามเปิดตลาดในแถบนั้นให้ได้

Talk about FUTURE of HiFi

อนาคตไฮไฟก็สดใสนะ แม้ว่าไร้สายเริ่มเยอะขึ้น ฟิสิคัลน้อยลง แต่ก็เป็น mass ซึ่งไม่ผิด มันเป็นเรื่องธรรมชาติ แม้ไฮเอนด์จะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ถ้าเขามีโอกาสสัมผัส จะโดดลงมาเอง

คนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการไฮเอนด์มากขึ้นเช่นกัน ฟังคอนเสิร์ตอาจไม่ได้ฟังเพลงคลาสสิก จะฟังเพลงร็อกก็ดนตรีไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าได้ฟังผ่านเครื่องเสียงไฮเอนด์ จะต้องทึ่งว่า ไฮไฟทำได้ถึงเช่นนี้เชียว เพราะพวกเขาฟังออกไง รู้ว่าต่างกันอย่างไร เพียงแต่อาจไม่เคยสัมผัสต่างหาก อย่าง Viktor เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่นำสิ่งใหม่ๆ เข้ามา

To Thai users

Gabi: ยินดีและดีใจที่ได้กลับมาเยือนกรุงเทพฯ และ BAV HI-END SHOW อีกครั้ง ทราบดีว่าคนไทยมีวัฒนธรรมดีงาม รักเสียงดนตรี การที่เล่นเครื่องเสียงก็เพื่อฟังผลงานเพลงจากศิลปินคนโปรด อย่ามัวแต่ง่วนกับเครื่องมากกว่าได้ฟังเพลงดีๆ เพราะฉะนั้นก็ขอให้มีความสุขในการฟังเสียงดนตรีเพราะๆ จากชุดเครื่องเสียงของคุณ

Viktor: ในยุคสตรีมมิง สายดิจิทัลเคเบิล แม้จะเห็นว่าจากภายนอก ซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไร หลายคนที่อาจมี Engineering background คิดว่าไม่น่ามีความแตกต่าง จริงอยู่ แม้ว่าทางวิศวกรรมจะอธิบายได้ว่าเราทำอะไรไปเยอะ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียงอย่างมาก ไม่คุยเยอะ อยากให้สนุกกับเสียงดนตรีและเปิดใจฟัง เชื่อว่าต้องฟังออกและขอให้ “เชื่อหูคุณ”… Happy Listening… Thank You. ADP

ผู้สัมภาษณ์: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ