ชานนท์

นักเขียน : ชานนท์ จุทัยรัศม์

หากพูดถึงผู้ผลิตที่เน้นทำแต่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ย่อมต้องมีชื่อของ REL เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งด้วยความช่ำชองบวกกับ การโฟกัสเพื่อมุ่งให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด จึงไม่แปลกที่จะได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

อ้างอิงช่วงเวลาทดสอบซับวูฟเฟอร์ของ REL สามารถแบ่งออกได้ 4 ซีรีส์ด้วยกัน ได้แก่ Reference Series ซึ่งเป็น ซีรีส์เรือธงจำนวน 3 รุ่น ถัดมาคือ S Series 3 รุ่น ตามมาด้วย T/i Series 3 รุ่น และสุดท้าย คือ Minimalist Series 2 รุ่น ในบททดสอบฉบับนี้จะขอกล่าวถึง T/9i ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่สุดของ T/i Series

หากสังเกตลำดับซีรีส์ข้างต้นจะพบว่า T/i Series เป็นซับวูฟเฟอร์ระดับกลาง มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ถึง กับเล็กมาก ข้อดีคือประหยัดเนื้อที่ จัดวางง่าย ในขณะที่ มีศักยภาพสามารถแม็ตชิ่งเข้ากับซิสเต็มลำโพงได้ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลำโพงวางหิ้งขนาดเล็ก ไปจนถึง ลำโพงตั้งพื้นขนาดกลาง อีกทั้งภาคขยายยังเติมเต็มเสียง ย่านต่ำได้ครอบคลุมพื้นที่ห้องหับตามบ้านทั่วไปได้เป็น อย่างดี ที่สำคัญ คือ ราคาอยู่ในระดับเอื้อมถึงได้ไม่ยาก

T/i Series มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ T/5i มีขนาดเล็กที่สุด ด้วย ขนาดตัวขับเสียงเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้วภายใต้โครงสร้างตู้ปิด มิติโดย รอบไม่เกิน 1 ไม้บรรทัด (แต่ยังไม่ เล็กมากเท่า Tzero ของ Minimalist Series) ถัดมาคือ T/7i ติดตั้งตัวขับ เสียงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว

พร้อม Passive Raditor ขนาด 10 นิ้ว ส่วน T/9i รุ่นพี่ใหญ่ของซีรี่ส์ ติดตั้งตัวขับเสียง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 นิ้ว พร้อม Passive Raditor ขนาดเดียวกัน ทั้งหมดใช้ภาคขยาย คลาส AB กำลังขับตามสเป็ก 125, 200 และ 300 วัตต์ ตามลำดับได้รับการส่งผ่านขุมกำลัง จากภาคจ่ายไฟกระแสสูงและ Toroidal Transformer ขนาดใหญ่

เปรียบเทียบคุณสมบัติของ REL T/i Subwoofer ทั้ง 3 รุ่น

REL Subwoofer ทุกรุ่นเมื่อนำไปใช้งานในระบบโฮมเธียเตอร์ สามารถเชื่อมต่อสัญญาณแบบ Low-level (.1/LFE) และ High Level (Speakon) พร้อมๆ กันได้ เหตุผลเพื่อให้สามารถนำลำโพงซับวูฟเฟอร์เข้ามา ส่งเสริมถ่ายทอดเสียงจากช่องสัญญาณ LFE (.1) และ Main Channel พร้อมๆ กัน (ตามภาพเป็นตัวอย่าง การเชื่อมต่อกับ REL Subwoofer 1 ตัว) แต่หลักการนี้จะส่งผลดียิ่งขึ้นเมื่อใช้งานแบบ Multi-subwoofer หรือเมื่อเสริม REL Subwoofer เข้ามาในระบบมากกว่า 1 ตัว ขึ้นไป และจะดีที่สุดหากเพิ่มจำนวน REL Subwoofer ได้เท่ากับจำนวนแชนเนลลำโพงหลักทั้งหมดที่ใช้งานในระบบโฮมเธียเตอร์

คำเตือน: ไม่แนะนำให้ทำการเชื่อมต่อสัญญาณ Low-level (.1/LFE) และ High Level พร้อมๆ กันกับลำโพง ซับวูฟเฟอร์ทั่วไปที่มิใช่ REL เพราะนอกจากผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ดี เนื่องจากไม่สามารถปรับชดเชยระดับเสียงของ Low-level (.1/LFE) และ High-level แยกกันแบบอิสระแล้ว ยังอาจสร้างความเสียหายกับระบบฮาร์ดแวร์ด้วย

REL Arrow Wireless (รุ่นน้องของ LongBow Wireless) อุปกรณ์เสริมสำหรับอัพเกรด T/i Subwoofer ให้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณเสียงแบบไร้สาย ซึ่ง REL เคลมว่า หลักการ Zero compression method จะให้คุณภาพเสียงดีเทียบเท่ากับการใช้สายสัญญาณเชื่อมต่อ แต่จะช่วยให้การติดตั้งจัดวางตำแหน่งลำโพง ซับวูฟเฟอร์ทำได้สะดวกและยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องพะวงกับความยาวของสายสัญญาณ อีกทั้งยังช่วยให้ห้องดูเรียบร้อยไม่รกรุงรังเพราะสาย

FibreAlloy Woofer สีขาว ขนาด 10 นิ้ว
สกรีนโลโก้ REL

จุดเด่นของ REL Subwoofer ทุกรุ่น ที่สร้างความประทับใจเป็นอันดับแรก คือ วัสดุและงานประกอบประณีตสวยงาม ผิวตัวตู้เคลือบมันแบบ Hi-gloss ดูสวยหรู เลือกได้ 2 สี คือ สีดำและขาว ขารองรับ ด้านล่างและแผ่นป้ายโลโก้ด้านบนตัวตู้ เป็นผิวโลหะสีเงิน ให้ความรู้สึกแกร่งและ มั่นคง แต่จุดที่ดูเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเมื่อเปิด หน้ากากผ้าออก คือ วูฟเฟอร์สีขาวสกรีน โลโก้ REL ดูเด่นสะดุดตา

วูฟเฟอร์สีขาวนี้เป็นส่วนผสมระหว่าง FibreAlloy ที่มีน้ำหนักเบาแต่แกร่ง เพื่อให้การขยับเคลื่อนตัวทำได้ฉับไว ตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลันได้ดี อีกทั้ง ยังทนกำลังขับได้สูง และให้ความเพี้ยนต่ำ

Passive Radiator ขนาด 10 นิ้ว
ที่ด้านล่างตัวตู้

ส่วนด้านหลัง แม้มิใช่จุดที่จำเป็นต้อง โชว์ แต่ REL ก็ทำออกมาดูดีจนโชว์ได้ ไม่แพ้ด้านหน้า แผงควบคุมและครีบระบาย ความร้อนอาจดูเหมือนจัดวางไม่ต่างจากซับวูฟเฟอร์ทั่วไป ทว่าวัสดุ งาน ประกอบ เรียบร้อยเป็นระเบียบ ปุ่มควบคุมต่างๆ ใช้สีขาวเงินตัดกับ แผงหลังสีน้ำเงินเทา ดูสวยงามดี

T/9i เหมือนเช่น REL Subwoofer รุ่นอื่น ตรงที่มีจุด เชื่อมต่อสัญญาณทั้ง Low-level เชื่อมต่อผ่านทาง RCA Input และ High-level เชื่อมต่อผ่านช่องต่อ Neutrik Speakon Input แต่ที่ พิเศษ คือ สามารถปรับชดเชย ระดับเสียงของช่องต่อรับสัญญาณ ทั้ง 2 ลักษณะแยกอิสระจากกันได้ เพื่อเสริมศักยภาพและเพิ่มความ ยืดหยุ่นเมื่อเสริม REL Subwoofer เข้ามาในระบบ โดยเฉพาะเมื่อใช้ งานกับระบบเสียงมัลติแชนเนลของ ระบบโฮมเธียเตอร์

“จุดน่าประทับใจมากที่สุดหาใช่ย่านการตอบสนองความถี่ต่ำลึกสุดขั้วแต่อย่างใดทว่าเป็นเรื่องของความเที่ยงตรงตลอดย่านความถี่ที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ถ่ายทอดออกมาได้โดดเด่น”

ผลการทดสอบ

ด้วยชื่อชั้นของ REL คงต้องขอลองทดสอบแบบเข้มข้นดูสักหน่อย เริ่มต้นด้วย ภาพยนตร์ “San Andres” ในรูปแบบ 4K Ultra HD Blu-ray พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งการบันทึกเสียงเอฟเฟ็กต์ย่านความถี่ตำลึกของเรื่องนี้ท้าทาย ความสามารถของซับวูฟเฟอร์มากเลยทีเดียว

แม้ภาคขยายและวูฟเฟอร์ช่วงชักยาวต้องทำงานอย่างหนักหน่วงในการถ่ายทอด เสียงอาคาร-ซากปรักหักพังถล่มทลายรุนแรงต่อเนื่องภายในห้องทดสอบพื้นที่กว่า 25 ตร.ม. แต่ T/9i ก็ดูไม่ล้าจนแสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมา เอกลักษณ์ของ ซับวูฟเฟอร์แบบ Passive Radiator ยังคงบาลานซ์จุดเด่นของแรงปะทะแบบลำโพง ตู้เปิด และความเที่ยงตรงของลำโพงตู้ปิดได้ดี ปริมาณเบสลงลึกกำลังดี เรียกว่าเกิน ขนาดตัว แต่กระนั้นจุดน่าประทับใจมากที่สุดหาใช่ย่านการตอบสนองความถี่ต่ำลึก สุดขั้วแต่อย่างใด ทว่าเป็นเรื่องของความเที่ยงตรงตลอดย่านที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ ถ่ายทอดออกมาได้โดดเด่น อันจะส่งผลชัดเจนเมื่อนำไปใช้งานฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ตระบบเสียงมัลติแชนเนล หรือ 2.1 แชนเนล โดยจะส่งผลกับความกลมกลืน ต่อเนื่องของย่านความถี่ต่ำที่สัมพันธ์กับลำโพงหลักเป็นอย่างดี

อีกหนึ่งลำโพงซับวูฟเฟอร์คุณภาพ โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์วัสดุงานประกอบเนี้ยบ พร้อมๆ กับลูกเล่นที่ครบเครื่อง เที่ยงตรง รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ LFE (Low-level) และ High-level Input พร้อมๆ กันเพื่อนำลำโพงซับวูฟเฟอร์ไปใช้ งานเสริมย่านความถี่ต่ำในระบบมัลติแชนเนลของโฮมเธียเตอร์ และในส่วนของ ศักยภาพก็รองรับทั้งการนำไปใช้งานร่วมกับซิสเต็มฟังเพลง และถ่ายทอดเสียง เอฟเฟ็กต์ย่านความถี่ต่ำจากภาพยนตร์. VDP

ราคา 59,900 บาท
นำเข้าโดย
บริษัท โซนิควิชั่น จำกัด
โทร. 0-2681-7500