ธีรวัฒน์

นักเขียน : ธีรวัฒน์ โชติสุต :

ไม่บ่อยเลยที่จะมีโอกาสได้ทดสอบอินทิเกรตแอมป์จากประเทศเยอรมนี ถ้าเบียร์เยอรมันต้องดื่มกับไส้กรอกเยอรมัน Heco Direkt Dreiklang ก็ต้องเล่นคู่กับ Magnat RV3 หรือเปล่า

Magnat RV3 ไฮบริดอินทิเกรตแอมป์ เป็นอินทิเกรตแอมป์อีกตัวที่ออกแบบตัวถังได้สวยงาม เนี้ยบและดูแข็งแรงมากๆ แค่เห็นตัวถังก็สร้างความประทับใจอย่างมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวครอบหลอดดูโดดเด่นเลยทีเดียว Magnat RV3 ใช้หลอด ECC82 จากประเทศรัสเซียจำนวน 2 หลอด แยกซ้ายขวาอิสระ หลอด ECC82 จะเบิร์น 60 ชั่วโมง ก่อนจับคู่กันเพื่อให้คุณสมบัติทุกอย่างเหมือนๆ กัน หลังจากนั้นก็ผ่านสัญญาณไปยังภาคขยายแบบดีสครีตเพาเวอร์แอมปลิไฟเออร์ของโตชิบา เพื่อรับประกันว่าจะจ่ายกำลังได้ถึง 400 วัตต์อย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับภาคจ่ายไฟคุณภาพดีเพื่อช่วยให้การจ่ายพลังงานทำได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน การรบกวนต่ำและปราศจากเรโซแนนซ์จากตัวหม้อแปลงเอง

Magnat RV3 มีค่าแดมปิ้งแฟ็กเตอร์ค่อนข้างสูง จึงสามารถควบคุมการทำงานของลำโพงได้ดี ผมชอบการออกแบบฮีตซิ้งก์ขนาดใหญ่ แล้ววางบนตัวถังแยกซ้ายขวาแบบนี้มากๆ เพราะการระบายความร้อนจะทำออกมาได้ดีกว่า 

ด้านหน้าจะเห็นปุ่มโวลุ่มขนาดใหญ่วางตรงกลางบนอะลูมิเนียมด้านหน้าหนาถึง 8 มม. โวลุ่มนั้น Magnat RV3 ใช้ของยี่ห้อ ALPS (Motorized Potentiometer) ถัดมาทางด้านซ้ายเป็นปุ่มเลือกอินพุตพร้อมดิสเพลย์แบบ OLED 

ขั้วลำโพงด้านหลังให้มาข้างละ 2 ชุด การต่อไบร์ไวร์สามารถทำได้อย่างอิสระ เพราะสายลำโพงภายในแยกจากเมนบอร์ดออกมา 2 ชุดเลย ไม่ได้มาจั๊มจากขั้วลำโพงอีกครั้งหนึ่งเหมือนอินทิเกรตแอมป์บางยี่ห้อที่นิยมทำกัน ขั้วอินพุตมีมาให้ถึง 6 ชุด สำหรับภาคปรีโฟโนให้มาทั้งขั้วต่อ MM และ MC แยกออกจากกัน ส่วนอีก 4 ชุดที่เหลือก็เป็น CD, TUNER, AUX และ TAPE ในส่วนของ Output มีให้ 2 ชุด คือ REC และ PRE OUT มาพร้อมกับรีโมตขนาดใหญ่จับกระชับมือ

เซ็ตอัพ

ในเรื่องของการเซ็ตอัพและแม็ตชิ่งสหรับ Magnat RV3 ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก เพราะตัวอินทิเกรตแอมป์ค่อนข้างเล่นง่าย ใช้งานได้ค่อนข้างง่ายมากๆ แต่ก็ผมเห็นว่ามีเงื่อนไขบางอย่างที่ควรนำมาพูดถึงกัน เนื่องจากส่งผลต่อเรื่องเสียงค่อนข้างมากทีเดียว

Magnat RV3 ให้กำลังขับ 150 วัตต์ ที่ 8 โอห์ม, 200 วัตต์ ที่ 4 โอห์ม ดูจากสเป็กกำลังขับถือว่าไม่ได้น้อย มีกำลังพอควรทีเดียว นั่นก็จริงสำหรับอินทิเกรตแอมป์โซลิดสเตทที่ไม่ได้เป็นอินทิเกรตแอมป์แบบไฮบริด ซึ่งภาคขยายสัญญาณในส่วนของอินพุตใช้หลอดและโซลิดสเตทในภาคขยายสุดท้าย Magnat RV3 ให้เสียงออกมาค่อนข้างลิเนียร์มากๆ และเกนเสียงไม่ได้ดังแบบก้าวกระโดด จะเป็นลักษณะค่อยไปเป็นค่อยไป สำหรับลำโพงบางคู่ที่คิดว่าน่าจะขับได้ไม่เป็นปัญหาอะไร เอาเข้าจริงอาจไม่ใช่ก็ได้ อย่างเช่น เมื่อนำไปใช้งานร่วมกับลำโพง Totem Sky จากที่คิดว่ากำลังขับ 150 วัตต์จาก Magnat RV3 ก็น่าจะเพียงพอในการขับได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อได้ลองเล่นจริงๆ เสียงไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรนัก เพราะน้ำหนักของเสียงเหมือนยังขาดฐานเสียงตอนล่างสักหน่อย ความเข้มข้นของเนื้อเสียงซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้เต็มๆ จาก Totem Sky เหมือนจะลดความเข้มข้นลง ความกระฉับกระเฉงว่องไวค่อนข้างจะหายไปเล็กหน่อยเช่นกัน

เมื่อมาพิจารณาถึงกำลังขับของ Magnat RV3 อีกรอบ จึงคิดว่า น่าจะเหมาะสมกับลำโพงที่มีความไวค่อนข้างสูงมากกว่า เท่าที่ได้ลองมา ลำโพง Heco Direkt Dreiklang ค่อนจะลงตัวหมดทุกด้าน ลำโพงอีกคู่หนึ่งซึ่งแม็ตช์กันดีก็คือ Quad 22L แต่ปัจจุบัน Quad 22L ได้มีการปรับปรุงเวอร์ชั่นใหม่จากรุ่นที่ผมเคยใช้ ก็เลยไม่แน่ใจว่า Quad 22L รุ่นใหม่เสียงจะเป็นอย่างไร นอกเหนือจากลำโพง 2 รุ่นนี้ ลำโพงที่แม็ตช์กับ Magnat RV3 ควรมองลำโพงที่มีความไวสูงๆ หรือไม่ก็พวกลำโพงที่เล่นง่าย ขับง่าย ดูจากลิสต์ลำโพงที่ผมเคยทดสอบมาในปีนี้ ไม่มีลำโพงคู่ไหนจะแม็ตช์กับ Magnat RV3 ได้เท่ากับ Heco Direkt Dreiklang อีกแล้ว ส่วนลำโพง Paradigm Persona B ก็คงไม่แม็ตช์เช่นกัน

เรื่องที่สองก็คือ ขนาดของสายลำโพง ผมแนะนำว่า ไม่ควรใช้ที่มีขนาดใหญ่กว่า 12AWG หรือหากจะใช้เส้นใหญ่กว่า 12 AWG สักหน่อย ผมคิดว่าเต็มที่ก็ไม่ควรมีขนาดหน้าตัดเกินขนาด 4 sq.mm และควรเป็นแบบสายฝอย พวกสาย Stranded หรือสายแบบแกนเดี่ยว ไม่แนะนำเลย ถ้าหากใช้สายลำโพงขนาดเล็ก เสียงก็จะบางขาดพลัง หากใช้สายใหญ่ๆ มีขนาดตัวนำโตกว่า 4 sq.mm เสียงจะหนาติดเฉื่อย ไดนามิกก็จะติดนุ่มเล็กๆ

เรื่องที่สามก็คือ สายไฟเอซี สำหรับ Magnat RV3 สายไฟเอซีค่อนข้างมีผลต่อเสียงมากทีเดียว หลายท่านอาจจะแยกสายไฟเอซีออกจากเครื่องที่ใช้เล่น แต่ความเป็นจริง เวลาเราฟังคุณภาพเสียงจากเครื่องอะไรสักอย่าง คุณภาพเสียงนั้น จริงๆ แล้วจะเกิดจากตัวเครื่องและสายไฟเอซีที่ต่อใช้งานรวมกัน เราไม่สามารถฟังเสียงจากเครื่องโดยปราศจากสายไฟเอซีได้ และสายไฟเอซีที่ต่อใช้งานยอมส่งผลต่อคุณภาพเสียงจากเครื่องที่เราต้องการจะฟังสูงมากทีเดียวเช่นกัน ไม่งั้นเราจะหาทางเสาะหาสายไฟเอซีคุณภาพดีๆ กันทำไม แค่สายไฟที่แถมมากับเครื่องก็น่าจะเพียงพอแล้ว ผมเลยย้ำเสมอว่า สายไฟเอซีไม่ใช่อุปกรณ์เสริม แต่ควรเลือกใช้สายไฟให้เหมือนกับการเลือกเครื่องเสียง เพราะหากไม่ใช่ ไม่แม็ตช์กัน เสียงก็อาจจะไม่ได้ตรงตามอย่างที่ต้องการได้เช่นกัน

สายไฟเอซีที่ผมได้มีโอกาสนำมาลองต่อใช้งานกับ Magnat RV3 มีสองแบบ คือ แบบสายอ่อน พวกสายฝอย และสายไฟซึ่งแข็งกว่าสักหน่อย เช่น พวกสาย stranded จากการลองเล่นเปรียบเทียบลำโพง 2 คู่ที่ได้มีโอกาสลองทั้ง Heco Direkt Dreiklang ซึ่งเป็นลำโพงความไวค่อนข้างสูง การเลือกใช้สายไฟเอซีที่เป็นสายอ่อนจะให้เสียงลงตัวมากกว่า เสียงไม่เครียดเกินไป แต่หากเป็นลำโพงที่ความไวไม่สูง แต่เป็นลำโพงที่ขับได้ง่ายอย่าง Quad 22L สายไฟเอซีแบบ Stranded จะให้เสียงดีกว่าพวกสายฝอย

คุณภาพเสียง

ผมอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับเสียงอินทิเกรตแอมป์จากประเทศเยอรมนีมากนัก ก่อนหน้านี้เคยฟังที่ห้องนักเล่นด้วยกัน เขาใช้อินทิเกรตแอมป์ยี่ห้อ ASR เสียงพอจะติดคุ้นหูอยู่บ้าง แต่เมื่อได้ยินเสียงจาก Magnat RV3 เสียงค่อนข้างแตกต่างจากสำเนียงเสียงอินทิเกรตแอมป์สัญชาติเยอรมันซึ่งผมคุ้นเคยมาก่อน

ถ้าจะเปรียบ Magnat RV3 เหมือนนักร้องสักคนหนึ่ง Magnat RV3 อาจไม่ใช่นักร้องที่ร้องเพลงเก่ง มีเทคนิคลูกเล่นแพรวพราว แต่ความเก่งกาจและลูกเล่นเทคนิคที่แพรวพราวนั้น กลับไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ถึงแม้ว่ามีพละกำลังล้นเหลือ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ร้องเพลงออกมาไม่น่าฟังเอาเสียเลย มันมากเสียจนล้น 

Magnat RV3 เปรียบเสมือนนักร้องที่ดูเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นในเรื่องเสียง ดูราบเรียบ แต่ในความราบเรียบนั้นมีเสน่ห์ รู้จักที่จะเลือกนำพลังเสียงมาใช้ในช่วงไหน รู้จักจะใช้เทคนิคในตอนไหน เมื่อร้องออกมาจึงได้แต่อุทาน ว้าว… เสียงเพราะน่าฟังมากๆ สไตล์เสียงของ Magnat RV3 เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมเลยไม่แปลกใจว่า ทำไม? ในงานโชว์ต่างประเทศนั้น Magnat RV3 มักจะนำมาขับกับลำโพง Heco เสมอๆ

Magnat RV3 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เกนเสียงค่อนข้างต่ำและมีความเป็นลิเนียร์ที่สูงมาก Magnat RV3 จึงไม่ได้เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เสียงตูมตาม ทุกเสียงที่ออกมามีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เหมือนจะขาดและไม่เด่น แต่จริงๆ แล้ว คุณภาพเสียงสูงเหนือชั้นมากๆ บทจะหนักก็หนักสุดๆ บทจะหวานเนียนก็เล่นเอาเคลิ้มไปเลย

สิ่งที่น่าชมเชยอย่างยิ่งสำหรับ Magnat RV3 ก็คือ รายละเอียดของเสียง ซึ่งให้ออกมาดีมากๆ ส่วนหนึ่งก็คือ การออกแบบให้มีเกนเสียงที่ต่ำนั่นเอง เมื่อเร่งโวลุ่มมากขึ้น รายละเอียดเสียงต่างๆ ก็เลยถูกขยายออกมาได้มากกว่าเดิม

ไม่ได้หมายความว่า เกนเสียงต่ำแล้ว รายละเอียดของเสียงต้องดีเสมอไป เพราะอินทิเกรตแอมป์เกนเสียงต่ำบางยี่ห้อก็ไม่ได้ให้รายละเอียดของเสียงออกมาได้ดี ทุกอย่างคือความลงตัวของแอมป์ไฮบริดใช้หลอดในภาคขยายจากอินพุตสเตท 

ถามว่า อินทิเกรตแอมป์ไฮบริดจะให้เสียงออกมาดีลักษณะนี้ทั้งหมดหรือเปล่า ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ผมเคยทดสอบอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดมาก่อน ก็ไม่ได้ให้เสียงละเอียดเช่นเดียวกัน หรือใกล้เคียง Magant RV3 เลย

แผ่นซีดี Concord Chamber Music Society: Reference Recordings และ “Faust” Ballet Music – “Carmen” Suit: Classic Compact Discs เปรียบเทียบตอนที่ผมใช้แอมป์หลอดเล่นคู่กับลำโพง Heco Direkt Dreiklang ในเรื่องของรายละเอียดเสียง Magnat RV3 สามารถส่งรายละเอียดของเสียงต่างๆ ออกจากลำโพงขนาดใหญ่อย่าง Heco Direkt Dreiklang ออกมาได้มากกว่า เสียงกว้างเต็มห้องดีกว่าอีกด้วย

ในเรื่องรายละเอียดของเสียงต่างๆ นั้น ปกติหากเล่นกับลำโพงตั้งพื้นขนาดใหญ่จะได้ยินรายละเอียดของเสียงไม่ชัดเจนเท่าลำโพงวางขาตั้งขนาดเล็ก แต่ Magnat RV3 สามารถทำให้ลำโพงอย่าง Heco Direkt Dreiklang ให้รายละเอียดของเสียงไม่ได้แตกต่างจากลำโพงวางขาตั้งขนาดเล็กๆ เลย ทั้งมวล น้ำหนัก และรายละเอียดของเสียง ออกมาเต็มมาก ทำให้รู้สึกถึงความสมจริงสมจัง ยิ่งฟังเพลงคลาสสิกจากวงออร์เคสตร้าด้วยแล้ว เสมือนว่ากำลังนั่งฟังนั่งเพลงดูคอนเสิร์ตในฮอลล์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว

ไดนามิกเร้นจ์เสียงและความฉับไวของ Magnat RV3 นั้น ให้ออกมากว้างสุดๆ อย่างที่ควรจะเป็น ต้องขยายความก่อนว่า สำหรับแผ่นนี้ เมื่อฟังจากแอมป์หลอด บางครั้งผมจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเร้นจ์เสียงของแอมป์หลอดถูกกำหนดคุณภาพโดยหม้อแปลงเอาต์พุต หากไม่สามารถให้เร้นจ์เสียงที่กว้างก็จะฟังดูอึดอัดเช่นกัน พวกแอมป์โซลิดสเตทถึงแม้ว่าไม่ได้ใช้หม้อแปลงเอาต์พุตก็ใช่ว่าจะให้เสียงกว้างได้หมด เพราะเคยเจออินทิเกรตแอมป์ระดับครึ่งล้าน เร้นจ์เสียงแคบกว่า CEC: 3300R C3 RED และ Magnat RV3 เสียอีก อินทิเกรตแอมป์ไฮบริดก่อนหน้านี้ที่ใช้ภาคต้นเป็นหลอดและเอาต์พุตเป็นแบบคลาสดี เสียงชัด ละเอียดดี เบสหนักแน่น แต่เร้นจ์เสียงกลับแคบกว่า Magnat RV3 

อินทิเกรตแอมป์ที่ให้เร้นจ์เสียงกว้าง มักจะฟังแล้วเสียงโล่งกว่า ไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัด ช่วงพีคหรือไดนามิกของสัญญาณก็ปลดปล่อยออกมาได้เต็มอย่างที่ควรจะได้รับ ไม่ได้ถูกกดลงจนรู้สึกว่าจะออกไปทางซอฟต์ลงไปเลย รายละเอียดต่างๆ ก็ย่อมส่งต่อไหลมาได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศและฮาร์มอนิกส์ของเสียงเด่นขึ้นมาเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สื่อถึงว่า Magnat RV3 มีไดนามิกเฮดรูมล้นเหลือจริงๆ

Magnat RV3 แตกต่างจากที่ผมคาดคิดไปพอควรเลยทีเดียว เพราะผมคาดว่า มันจะไปออกทางตึงๆ แน่นๆ ความอ่อนช้อยอ่อนหวานนั้น คงจะสัมผัสได้น้อย เนื่องจากประสบการณ์ที่เคยฟังอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดมาก่อน โดยหลักการดูแล้วน่าจะไปได้ดี แต่เหมือนว่ายังไม่สุดไปด้านไหนด้านหนึ่งเลย แต่ Magnat RV3 ทำให้ผมแปลกใจมากทีเดียว เพราะเป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ฟังได้เพราะ และสามารถฟังได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือล้าหูเลย

เรื่อง Harmonic Texture เป็นอะไรที่อธิบายเป็นตัวหนังสือได้ยากมาก ว่าเป็นอย่างไร? หมายถึงอะไร? อีกอย่างหนึ่งก็คือ บางครั้งการเซ็ตอัพลำโพงไม่ลงตัว มีการหักล้างทางเฟสก็จะทำให้เรื่องนี้หายไปด้วยเช่นกัน

ในเรื่องของ Harmonic Texture สำหรับอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดอย่าง Magnat RV3 ถือว่าเด่นมากทีเดียว อย่างเช่น แผ่นซีดีรวมฮิต TBM ผมรู้สึกว่าในการฟังในครั้งนี้ Magnat RV3 ให้ไทมิ่ง จังหวะ และโน้ตแต่ละโน้ตในแผ่นนี้ออกมาดีมากเลย สามารถแยกแยะรายละเอียดของเสียงจากเครื่องดนตรีต่างๆ สื่อออกมาได้อย่างชัดเจน จังหวะและไดนามิกของเสียงนับว่ายอดเยี่ยมมากๆ

เพลง Midnight Sugar ดนตรีสามชิ้น เปียโน เบส กลอง อินทิเกรตแอมป์ที่ฟังเพลงนี้ให้ได้อารมณ์เพลงเต็มที่นั้น ไดนามิกของเสียงต้องถึงครับ ไม่ใช่มาโทนนุ่มนวล ไดนามิกหัวเสียงออกไปทางซอฟต์ เนื้อเสียงต้องเข้มข้น ไทมิ่งต้องเป๊ะ และ Harmonic Texture ต้องเด่นชัด ฟังแล้วจึงรู้สึกเพลิดเพลิน 

ประกายเสียง ความกังวานของเปียโนในเสียงสูงๆ นั้น Magnat RV3 ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากทีเดียว ทรานเชี้ยนของเสียงก็ให้ออกมาฉับไวเช่นกัน อินทิเกรตแอมป์บางตัวให้เสียงออกมาค่อนข้างบาง ฟังแล้วรู้สึกได้เลยว่าเนื้อเสียงไม่ถึง หรือแอมป์บางตัวก็อาจจะให้สนามเสียงที่ขุ่นมัวก็ได้ อินทิเกรตแอมป์ตัวไหนที่ฟังแล้วอึดอัด เสียงไม่ได้โล่งนั้นก็เพราะว่าเร้นจ์เสียงให้ออกมาแคบนั่นเอง

เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เสียงออกมาสวยงาม น่าฟังมากๆ ไม่ได้ให้เสียงที่มีคัลเลอร์มากนัก แต่คือเสียงท่ีเราคาดหวังว่าควรจะได้รับ ตามนิยามคุณภาพเสียงท่ีดีมีคุณภาพ

แค่ Midnight Sugar เพลงเดียวก็เข้าถึงความยอดเยี่ยมในเรื่องของคุณภาพเสียงจาก Magnat RV3 แล้วล่ะครับ ทั้งความไพเราะ น้ำหนักและรายละเอียดของเสียงมีอยู่ครบ ไม่ใช่หนักแน่นแต่ไม่พลิ้ว หรือปลายเสียงเก็บตัวเร็ว เพลงนี้จึงมักเป็นเพลงที่ผมนิยมนำมาฟังในการทดสอบแทบจะทุกครั้งเลยทีเดียว จึงค่อนข้างคุ้นเคยเป็นพิเศษ ยิ่งนำ Magnat RV3 มาใช้คู่กับลำโพง Heco Direkt Dreiklang ให้สเกลเสียงใหญ่ สัมผัสได้ถึงความสมจริงสมจังของเสียงมากๆ ราวกับว่ากำลังฟังนักดนตรีมาเล่นเพลงนี้ให้ห้องฟังเพลงเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงคีย์เปียโนพลันที่นิ้วมือกดคีย์ลงไปนั้น พีคเสียงที่ได้ยินพุ่งเด่นขึ้นมาเหนือเสียงกลองและเบส ต้องยอมรับถึงความยอดเยี่ยมและการตอบสนองความถี่เสียงได้อย่างฉับไวมาก

สำหรับแผ่นซีดีของ TBM สามารถทดสอบเรื่องความแม็ตช์หรือไม่แม็ตช์กันของลำโพงกับ Magnat RV3 ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อลองใช้ลำโพง Magnat RV3 กับลำโพง Totem Sky พบว่า เสียงบาง และไดนามิกของเสียงก็บางลงมาอย่างรู้สึกได้ชัดเจน เวทีเสียงและความหนักแน่นก็ลดขนาด ฟังดูแล้วย่อมเยาพอควรทีเดียว โดยเฉพาะเสียงเบสต้นเพลงในเพลง Georgia on My Mind – Mari Nakamoto, Vocal ความหนักแน่น และไดนามิกต้นเพลง วัดกันเรื่องแม็ตชิ่งกันเห็นๆ เลย

ในส่วนของเรื่องเบสนั้น ผมมีข้อสังเกตอยู่เรื่องเดียวก็คือ คุณภาพของเบสค่อนข้างสัมพันธ์กับเรื่องความแม็ตช์ของลำโพง เท่าที่ผมรู้สึกนั้น เบสต้นและเบสกลาง Magnat RV3 ให้ออกมาดีมากทีเดียว แต่หากจะคุมเรื่องรายละเอียดลงไปถึงบรรยากาศของช่วงเบสต่ำๆ ขนาดและชนิดของลำโพงค่อนข้างมีผลทีเดียว เพราะในแง่ของเนื้อเสียง ความหนักแน่น ไดนามิกของเบสต้น เบสกลางจาก Magnat RV3 ผมไม่มีข้อสงสัยในคุณภาพเสียงเลย แต่เรื่องความถี่ต่ำๆ ผมเชื่อว่า ลำโพงความไวสูงๆ และมีขนาดใหญ่จะช่วยเรื่องนี้ให้ออกมาค่อนข้างดีมากๆ เพราะถ้าหากนำMagnat RV3 ไปขับลำโพงที่ขับยากๆ อย่างเช่น Stenheim, XTZ Alpha หรือแม้ว่าลำโพงที่ขับได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่าง EgglestonWork: Andra III ยังไม่แน่ใจว่าจะไหวหรือเปล่า

เรื่องนี้ผมต้องการสื่ออะไร จะบอกว่าในเรื่องของเนื้อเสียง หรือพละกำลังของย่านความถี่เสียงต่ำการจะเข้าถึงคุณภาพเสียงที่ดีในเรื่องนี้ขึ้นกับลำโพงที่ใช้งานร่วมเช่นกัน ไม่งั้นพอบอกว่าดี แต่ฟังจริงกลับไม่ใช่ ก็คิดว่ามาจากอินทิเกรตแอมป์ที่ใช้งานอย่างเดียว ลืมคิดว่าไปลำโพงที่ใช้งานก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน 

ผมคงไม่ตอบ ถ้าคิดจะถามว่า กลิ่นอายของ Magnat RV3 มีกลิ่นอายของหลอดหรือโซลิดสเตท ปนมาในสัดส่วนเท่าไหร่ เพราะเมื่อได้ฟังเสียง แทบไม่ต้องนึกถึงเลยว่า นี่คือเสียงของแอมป์หลอด แอมป์โซลิดสเตท หรือแอมป์พวกไฮบริด เพราะความสนุก ความไพเราะ ผมคิดว่าจะทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็น

ในแง่ของเสียงร้อง ผมอยากจะบอกว่า นี่คือแอมป์ไฮบริดที่ให้เสียงร้องออกมาดีที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดมา และให้เสียงร้องดีกว่าอินทิเกรตแอมป์ในระดับราคาเดียวกันอีกด้วย ถามว่าดีกว่าอินทิเกรตแอมป์หลอดหรือเปล่า เอาเป็นว่าอินทิเกรตแอมป์หลอดพุชพูลบางยี่ห้อก็ให้เสียงร้องไม่ได้น่าฟังอย่าง Magnat RV3 นะครับ

Magnat RV3 ให้เสียงเสมือนว่า การจะให้เสียงร้องออกมาดีนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากหรือยากเย็นอะไรเลย แต่ละเสียงแต่ละคีย์ไหลออกมาทำได้อย่างไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็นคีย์เสียงสูงหรือต่ำก็ให้ออกมาเหมือนต้นแบบชนิดถอดพิมพ์เขียวมาเลย รายละเอียดและไดนามิกของเสียงร้องเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก แทบไม่มีที่ติเลย ฟังแล้วไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างไรเช่นกันเท่าที่สังเกตดูเสียงร้องจาก Magnat RV3 จะให้เสียงโปร่งและลอยเด่นกว่า เหมือนจะเด่นกว่าเสียงดนตรีแบ็กอัพนิดๆ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก ยิ่งทำให้คนที่รักหรือชอบฟังเสียงร้องยิ่งชอบเสียงร้องจาก Magnat RV3 ได้ง่ายขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นนักร้องรุ่นเก่าๆ หรือรุ่นใหม่ๆ ก็ตาม 

ในเรื่องเสียงร้อง Magnat RV3 ให้เสียงร้องที่ใสละเอียดและเนียน เสียงออกมาเป็นทรงกลม ไม่ได้ออกมาป้าน แบนใหญ่ รายละเอียดของเสียงร้องชัดเจนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม เสียงหลบ หรือไวเบรชั่นการสั่นของลูกคอก็ตาม คีย์เสียงร้องสูง-กลาง-ต่ำก็ให้ออกมาอย่างเป็นที่อย่างนั้น ยิ่งใครชอบเสียงร้องผู้หญิงจะหลงรักเสียงร้องจาก Magnat RV3 อย่างมาก เสียงร้องจากผู้ชายก็ให้คุณภาพที่ดีไม่แพ้กัน

ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงของภาคปรีโฟโน น่าเสียดายที่จะหมดโควต้าหน้ากระดาษเสียก่อน แต่อยากบอกว่า น้อยครั้งนักที่เราจะฝากผีฝากไข้ และฝากความหวังกับภาคปรีโฟโนในอินทิเกรตแอมป์ได้ จากที่เคยลองเล่นมาก็เห็นจะมีภาคปรีโฟโนในอินทิเกรตแอมป์ Sugden A21a รุ่นเก่า ไม่ใช่รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน ภาคปรีโฟโนใน Sugden A21a รุ่นเก่าที่ผมเคยมีโอกาสลองเล่นมาช่วงหนึ่งให้เสียงหวาน โปร่ง เต็มไปด้วยรายละเอียดและไทมิ่งที่ดีมากๆ ถึงแม้ว่าย่านความถี่ต่ำจะขาดน้ำหนักและความเด็ดขาดอยู่บ้าง แต่ถือว่าเป็นภาคปรีโฟโนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังภาคปรีโฟโนในอินทิเกรตแอมป์มา

แต่เที่ยวนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมเจอภาคปรีโฟโนที่ให้เสียงดีกว่า Sugden A21a ในอดีตแล้วครับ นั่นก็คือภาคปรีโฟโนใน Magnat RV3 นั่นเอง แถมยังให้ขั้วต่อ RCA ทั้งหัวเข็มแบบ MM และ MC ที่แยกจากกันอย่างอิสระ น่าเสียดาย ผมไม่ได้มีเครื่องเล่นหัวเข็มแบบ MC เลยเล่นแต่ภาคปรีโฟโนสำหรับหัวเข็ม MM เป็นหลัก

หากจะถามว่าภาคปรีโฟโนใน Magnat RV3 ดีอย่างไร

ตอบได้เลย… อย่างแรกที่ชอบก็คือไดนามิกครับ ไดนามิกของเสียงในภาคปรีโฟโน MM ให้ออกมาดีมาก หนักแน่น เข้มแข็ง และเต็มไปด้วยพละกำลัง ไม่ได้รู้สึกว่าซอฟต์หรือนุ่มเลย เบสเด็ดขาดหนักหน่วงมากจริงๆ เอาเป็นว่าภาคปรีโฟโนภายนอกในระดับหลักหมื่นต้นๆ คุณภาพเสียงในเรื่องนี้ยังสู้ภาคปรีโฟโนใน Magnat RV3 ไม่ได้เลย อีกทั้ง Magnat RV3 สามารถตอบสนองความถี่เสียงได้อย่างฉับไว ชัดเจนและเต็มไปด้วยรายละเอียด

แค่เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับ 2 หมื่น +/- มาเล่นคู่กับ Magnat RV3 ในด้านคุณภาพเสียง ผมกล้าท้าเลยครับว่า ลืมเครื่องเล่นซีดีระดับหลักหมื่นปลายๆ หรือแสนต้นได้เลย แค่ย่านความถี่เสียงต่ำก็ยอดเยี่ยมมากๆ เบสหนักแน่นทะลุทะลวงจริงๆ

กลางแหลมฟังแล้วก็ไม่ได้เครียดหรือฟังแล้วอึดอัดแต่อย่างไร ยังคงให้เสียงโปร่งและพลิ้วดีมากเช่นกัน เสียงร้องของ Ella Fitzgerald นั้น ผมนึกว่ากำลังฟังภาคปรีโฟโนระดับหลักหมื่นปลายๆ เกือบแสนอยู่เลย เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยใช้ปรีโฟโนของ Parasound Halo JC3 มาก่อน เนื้อเสียงของ Ella Fitzgerald ผมคิดว่าภาคปรีโฟโนของ Magnat RV3 ให้ออกมาดีกว่าครับ น้ำหนักจะโคนก็ดีกว่า เพียงแต่รายละเอียดและความพลิ้วย่านความถี่เสียงสูงเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่า Parasound Halo JC3 ให้ออกมาดีกว่า 

บทสรุป

Magnat RV3 มาพร้อมความสวยและความแข็งแกร่งของตัวถัง สมกับสินค้าจากประเทศเยอรมนี Magant RV3 ไม่ได้สวยแต่ภายนอกอย่างเดียว คุณภาพเสียงจากที่ตอนแรกผมคาดคิดว่าก็คงมาแนวตึงๆ แน่นๆ เมโลดี้ ความอ่อนช้อยของตัวโน้ตคงจะไม่ได้ดีมากนัก แต่เมื่อได้ลองฟังจริงๆ กลับไม่ใช่เลย เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้เสียงออกมาสวยงาม น่าฟังมากๆ ไม่ได้ให้เสียงที่มีคัลเลอร์มากนัก แต่คือเสียงที่เราคาดหวังว่าควรจะได้รับตามนิยามคุณภาพเสียงที่ดีมีคุณภาพ

อินทิเกรตแอมป์ไฮบริดของ Magnat RV3 ทำให้ผมลืมคุณภาพเสียงอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดที่เคยฟังมาทั้งหมดเลย อย่างแรกที่สัมผัสก็คือ ก้าวพ้นความเป็นหลอดหรือทรานซิสเตอร์ เหมือนจะสร้างนิยมใหม่ของเสียงจากการดึงเอาข้อดีจากเสียงหลอดและทรานซิสเตอร์ออกมาได้ลองลงตัวจริงๆ

เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ต้องใส่ใจในการเลือกสายไฟเอซีและลำโพงที่ใช้อยู่ ไม่ใช่นึกจะเล่นอะไรก็ได้ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย ตั้งแต่ทดสอบอินทิเกรตแอมป์มา Magnat RV3 คืออินทิเกรตแอมป์ที่ให้เสียงของภาคปรีโฟโนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังมาแล้ว แนะนำเป็นอย่างยิ่งจริงๆ ครับ สำหรับ Magnat RV3 อินทิเกรตแอมป์แบบไฮบริดที่จะทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างจากอินทิเกรตแอมป์ในอดีตอย่างสิ้นเชิง. ADP

นิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 251