ชานนท์
ชานนท์ จุทัยรัศม์

ไม่บ่อยนักที่ประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายลดับต้นๆ ที่ได้สัมผัสลโพงซีรีส์ใหม่ก่อนหลายๆ ประเทศในโลก อีกทั้งยังเป็นลโพงโฮมซิเนม่าระดับ อ้างอิงจากหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ลโพงชื่อดังในตนาน ที่อยู่เบื้องหลังการบันทึกเสียงภาพยนตร์ระดับรางวัลออสการ์หลายเรื่องด้วยกัน 

Ken Kreisel ชื่อนี้ไม่ธรรมดา… 

เอ่ยชื่อ Mr. Ken Kreisel นักเล่นเครื่องเสียงชาวไทยอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้า บอกว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง M&K ลำโพงโฮมซิเนม่าชื่อก้อง คงร้องอ๋อกันเป็นแน่ โดยเขาได้ร่วมกับ Mr. Jonas Miller ก่อตั้งบริษัท M&K (Miller & Kreisel) ขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี 1974 
โดยพื้นฐานที่เป็นเป็นวิศวกรเสียง ตลอดเวลา 45 ปีที่ผ่านมา Mr. Ken Kreisel คร่ำหวอดอยู่กับแวดวงสตูดิโอบันทึกเสียง ไม่แปลกที่ลำโพงที่เขา ออกแบบจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานสร้างสรรค์ดนตรี และการผลิต ภาพยนตร์ หลายเรื่องยังเคยได้รางวัลออสการ์สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม มาแล้ว เช่น Pearl Harbor, Black Hawk Down, Lord of The Rings – The Two Towers and Return of The King, Chicago, The Incredibles และ King Kong ไม่เว้นแม้แต่เกม หนึ่งในนั้น คือ ซีรีส์ Call Of Duty ผลงาน บันทึกเสียงจาก PCB Production Studio นั่นเอง 

ปัจจุบัน Mr. Ken Kreisel สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ ใหม่ “Ken Kreisel” ด้วยลำโพงระดับ Studio Reference ซีรีส์ล่าสุด บัดนี้ พร้อมให้นักเล่นเครื่องเสียงชาวไทยได้สัมผัสก่อนหลายประเทศในโลก คือ K700 Pro On-wall Studio/Home Cinema Speaker และ DXD1000 500W+500W Push-Pull Active Subwoofer 

K700 Pro + DXD1000 Push-Pull configuration Satellite-Subwoofer Speaker System 

จากประสบการณ์ออกแบบลำโพงที่ผ่านมา Mr. Ken Kreisel ยึดมั่นกับ การออกแบบ Satellite-Subwoofer เสมอ โดยอิงรูปแบบเดียวกับระบบ ลำโพงในโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ ข้อดีของลำโพงลักษณะนี้ คือ ศักยภาพ การถ่ายทอดย่านเสียงได้ครบถ้วน ศักยภาพในจุดนี้อาจจะเหนือกว่าลำโพง ตั้งพื้นหลายๆ รุ่นด้วยซ้ำแต่ไม่ต้องการขนาดตัวตู้ลำโพงใหญ่เท่า โดยรวม กลับให้ความกะทัดรัดกว่า ใช้เนื้อที่ติดตั้งน้อย จะใช้งานในสตูดิโอขนาดเล็ก พื้นที่จำกัดไปจนถึงห้องโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ก็มิใช่ปัญหา 
ทั้ง K700 Pro และ DXD1000 ถือว่าอยู่ระดับท็อปของซีรีส์ จึงไม่แปลก ที่จะถูกบรรจุคุณสมบัติเด่นของรุ่นท็อปมาอย่างเต็มที่ แต่จุดที่เรียกว่า เป็นเอกลักษณ์ ดูแปลกแตกต่างจากลำโพงทั่วไป คือ เทคนิคการติดตั้ง ตัวขับเสียงแบบหันกลับเข้าหาตู้ลำโพง ตามลักษณะทิศทางการขับเคลื่อนที่ เรียกว่า “Push-Pull Configuration” 

อันที่จริงแนวทางแบบ Push-Pull Configuration สำหรับลำโพงมิใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นเทคนิคที่ Mr. Ken Kreisel คิดค้นขึ้นมาเมื่อครั้งออกแบบ ลำโพงซับวูฟเฟอร์ภายใต้แบรนด์ M&K ตั้งแต่ 30 ปีก่อนนู่น และก็มีการใช้งานกับรุ่นถัดมาต่อเนื่องอยู่เนืองๆ 
จุดเด่นของตัวขับเสียงแบบ Push-Pull Configuration คือ การตอบ สนองย่านเสียงที่เที่ยงตรง เพราะการขยับเคลื่อนตัวของตัวขับเสียงทั้ง 2 ที่สัมพันธ์กันในเชิงอะคูสติก สามารถหักล้าง (Cancelation) สลายความเพี้ยน เสียงเชิงฮาร์โมนิกลงได้ อีกทั้งยังให้การตอบสนองที่แน่นกระชับฉับไว รายละเอียดเสียงดี และให้ระดับเสียงที่ดังกว่ารูปแบบลำโพงปกติด้วย

K700 Pro ถือเป็นลำโพงรุ่นท็อปสุดและเป็นลำโพงรุ่นเดียวของซีรีส์ที่ติด ตั้งตัวขับเสียงแบบ Push-Pull Configuration ซึ่งนี่เป็นจุดที่ทำให้ดูแปลกตา เพราะ Mid-range Driver จำนวน 1 จาก 3 ชุด ถูกจัดวางหันกลับเข้าหาตู้ ลำโพงแบบตู้ปิด อันเป็นเทคนิคเฉพาะของ Ken Kreisel 
ขนาดตัวตู้แม้จะเรียกว่าลำโพงแซทเทลไลท์ก็จริง ทว่าใหญ่กว่าลำโพง วางหิ้งทั่วไปแต่ก็ไม่ถึงกับใหญ่แบบลำโพงตั้งพื้น น้ำหนักต่อข้าง 13.62 กก. ออกแบบมาให้ติดตั้งบนผนังมีขอเกี่ยวพร้อมทางด้านหลังสามารถยกขึ้น แขวนได้ ขณะเดียวกันก็สามารถใช้งานโดยวางบนหิ้งหรือบนขาตั้ง ซึ่งรองรับ ทั้งวางแนวตั้งหรือวางตะแคงแนวนอนแบบเดียวกับที่สตูดิโอบางแห่งทำก็ได้ มีสวิตช์ปรับ Vertical Directivity เพื่อใช้จูนมุมกระจายเสียงติดตั้งอยู่ทาง ด้านหลังลำโพง 
ตัวขับเสียงสูงของ K700 Pro มีจำนวนถึง 5 ชุด จัดวางเรียงแถว ต่อเนื่องกัน โดยมีโครงสร้าง Deep Cooling Aluminum Faceplates ทำหน้าที่ควบคุมมุมกระจายเสียงและระบายความร้อนให้กับแม่เหล็กเหลวไปพร้อมกัน เพื่อให้ Soft Dome Tweeter ขนาด 1 นิ้ว สามารถถ่ายทอดย่านเสียงได้เที่ยงตรงต่อเนื่อง โครงสร้างท่อ (Tube) ทางด้านหลัง ยังช่วยจูนย่านเสียงให้ครอบคลุมลงตัวมากยิ่งขึ้น 

ในส่วนของตัวขับเสียงย่านกลาง-ต่ำขนาด 5.25 นิ้ว มีจำนวนถึง 3 ชุด ซึ่ง 1 ในนั้น ถูกจัดวางแบบหันหน้ากลับเข้าหาตู้ลำโพงแบบ Push-Pull Configuration 
สำหรับ DXD1000 ลำโพงซับวูฟเฟอร์นั้น ต้องบอกว่านอกจากการติดตั้ง ไดรเวอร์แบบ Push-Pull Configuration อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นสัมพันธ์กัน คือ ภาคขยายกำลังขับสูงถึง 500 วัตต์ จำนวน 2 ชุด เพื่อแยกขับไดรเวอร์แต่ละชุดนั่นเอง ทั้งหมดควบคุมด้วย Headroom Maximizer Circuit เพื่อให้ลำโพงซับวูฟเฟอร์สามารถถ่ายทอดไดนามิกเสียงอย่างต่อเนื่องเต็มที่ และลงได้ลึกกว่า 20Hz ไม่มีอาการป้อแป้ขาดพละกำลังอีกทั้งป้องการ ความเพี้ยนในช่วงโหม พร้อมวงจรตัดแบ่งความถี่เสียงที่ความชัน 24dB per octave ภายใต้ตู้ลำโพงแบบตู้ปิดที่มีความมั่นคง 
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า Ken Kreisel มีลำโพงแค่ 2 รุ่นนี้ที่กล่าวไปนี้ เท่านั้นหรือ? คำตอบคือ มีอีกหลายรุ่นครับ อาทิ K700 ที่การออกแบบเกือบทุกอย่างเหมือน K700 Pro แต่ไม่ได้จัดวาง Mid-range แบบ Push-Pull Configuration 
หรือจะเป็น KS700 ลำโพงเซอร์ราวด์ที่จัดวางตัวขับเสียงแบบ 3D ให้ มุมกระจายเสียงออก 3 ทิศทางพร้อมกัน ไปจนถึง K500 Series และ M150 Series ที่มีขนาดย่อมลงทั้งขนาดและค่าตัว แต่ที่กล่าวมานี้ตัวแทนจำหน่าย จะทยอยนำเข้ามาให้ฟังกัน คิดว่าหลังจากนิตยสารออดิโอไฟล์/วิดีโอไฟล์ เล่มนี้วางแผง ตัวแทนจำหน่ายน่าจะพร้อมเดโมให้ทุกท่านที่สนใจได้ทดลอง ฟังเสียงจริง 

พรีวิวเสียงที่โชว์รูม The Museum Hi-End Audio 

ดังที่เกริ่นไปว่าประเทศไทยเป็นลำดับต้นๆ ที่ได้สัมผัสลำโพง รุ่นใหม่ นี้ก่อนใคร พอออกจากเรือปุ๊บก็มาอยู่ในห้องทดสอบของ The Museum Hi-End Audio แทบจะทันที เรียกว่าถ้าเป็นอาหารก็เพิ่งออกจากครัวมายังอุ่นๆ อยู่เลย 
แต่เนื่องจากเพิ่งมาแค่ 2 รุ่น การเดโมระบบเสียงครั้งนี้จึงดำเนินการโดย K700 Pro รับหน้าที่ 3 แชนเนลหลักด้านหน้า ส่วนซับวูฟเฟอร์เป็นหน้าที่ของ DXD1000 จำนวน 1 คู่ ในขณะที่ลำโพงเซอร์ราวด์แชนเนลอื่นๆ จะใช้งานร่วมกับชุดลำโพงของ Daniel Hertz เป็นการชั่วคราว ก่อนที่ Ken Kreisel รุ่นอื่นๆ จะตามมา 
ประเดิมกันด้วยแผ่นทดสอบ Dolby Atmos Demo Blu-ray Disc กับแทร็กคุ้นหู Amaze เรียกว่าคอนเทนต์เข้าทางลำโพงโฮมซิเนม่าแบบนี้ จึงไม่แปลกที่จะให้ความดุดันสะใจดี รายละเอียดเสียงเด่นชัด แยกแยะทิศทางได้ เสียงจาก DXD1000 คู่ ทำงานสอดประสานให้น้ำหนักเสียงที่หนักแน่นดุดัน เบสลงได้ลึก ไม่คลุมเครือ แรงปะทะดี ไม่แปลกที่ลำโพงรุ่นก่อนหน้านี้ของ Ken Kreisel ถูกนำไปใช้อ้างอิงในกระบวนการมิกซ์เสียงภาพยนตร์หลายเรื่อง เพราะความตรงไปตรงมานี่เอง 
ถัดมาทดลองรับฟังดนตรีในระบบบันทึกเสียงรอบทิศทางจาก Robbie Williams Live At The Albert Blu-ray Disc ระบบเสียง DTS-HD 5.1 ซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศการแสดงสดได้โอ่อ่าอลังการในแบบเซอร์ราวด์ดีมาก รายละเอียดเสียงร้องและชิ้นดนตรีเน้นหนักกับ 3 แชนเนลหน้ามีดีเทล แยกแยะได้ชัด ฟังเพลินๆ ก็ลื่นหู ฟังแบบจริงจังก็ให้อารมณ์ร่วมได้ดี 
ทดสอบฟังเพลงแบบ 2.2 แชนเนลดูบ้าง กับแผ่นซีดีอ้างอิงของชาวออดิโอไฟล์ Burmester Vorführungs CD II กับเพลง The Moon is a harsh mistress โดย Radka Toneff ซึ่งต้องบอกว่า Ken Kreisel K700 Pro ถ่ายทอดน้ำเสียงน่าสนใจมาก เสียงร้องไหลลื่น แต่ก็เปิดเผยจะแจ้ง ดูมีชีวิตชีวา แต่ที่ตื่นตา (หู) ตื่นใจเป็นพิเศษ คือเพลง Live in America โดย Paco de Lucia การถ่ายทอดไดนามิกจากกีตาร์และเครื่องดนตรีอื่นในวงแต่ละชิ้นฟังดูสดและ มีพลังมาก ฟังสนุก ได้อารมณ์ร่วม การถ่ายทอดเวทีเสียงและระดับชั้น 

ทำได้เป็น 3 มิติ ไม่แพ้ลำโพงฟังเพลงดีๆ เลย ในขณะที่ DXD1000 ช่วยเสริมย่านความถี่ต่ำที่มีความกระชับ และตอบสนองได้ฉับไว ให้ความกลมกลืน ผสานกันดีตลอดย่านรับฟัง 
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยได้อภิสิทธิ์สัมผัสคุณภาพเสียงจาก ชุดลำโพงระดับ Studio Reference รุ่นใหม่จาก Ken Kreisel ก่อนใคร ท่านที่สนใจสามารถพิสูจน์ทดลองรับฟังเสียงจริงกันได้ที่โชว์รูม The Museum Hi-End Audio โครงการ T.C. Green Rama 9 เปิดบริการทุกวันจันทร์ถึง เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10:30 – 19:00 น. VDP

K700 Pro ราคา 111,689 บาท 
DXD1000 ราคา 151,050 บาท 
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย THE MUSEUM HI-END AUDIO 
โทร. 0-2060-6081, 0-2261-2779, 093-279-9245, 086-509-6352